เมื่อมองดูดี มันก็ผ่านด่านแรกแล้ว

เวลาใครสอนแล้วบอกใช้ใจมองนั้น มันไม่สามารถมองได้แต่แรก ของจะดีไม่ดี มันต้องใช้ก่อนถึงจะรู้ ถ้ายังไม่รู้ ด่านแรกก็คือมอง ถ้ามองแล้วดูไม่ดี มีใครจะสนใจ ถ้ามองแล้วดูดีก่อนสิ สิ่งต่างๆค่อยตามมา   นักการตลาดมันต้องมองถึงเรื่องหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ และภาพลักษณ์อยู่เสมอ ถ้าดูไม่น่าสนใจ จับวางไว้ที่ไหนแล้วมันโดนกลืนเข้าไปกับสิ่งรอบข้าง แบบนี้ รอดยาก การแย่งซีน การโดดเด่น มันคือความจำเป็นของการขายทั้งนั้น แต่การแย่งซีน การโดดเด่นที่ง่ายที่สุดคือ ดราม่า มีเรื่องเลวๆ...

อยากพัฒนาตัว ต้องทำงานให้เสร็จเร็ว จะได้มีเวลาเหลือไปพัฒนา

คนเราบางที ก็ชอบมองเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบเอาแต่สบายจนลืมพัฒนาตัวเอง ถ้าตัวเราเองไม่มีค่า ใครจะมาใช้เรา เราเห็นเด็กใหม่ทำงาน ก็ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม เพราะบอกว่าได้เงินเท่านี้ จะทำให้เยอะทำไม ก็ทำเท่าที่รู้สึกว่าพอได้ เพราะใจเขามองแค่ได้เปรียบเสียเปรียบ   แต่คนที่พัฒนาตัวเองได้ ต้องทำมากกว่ามที่เขาให้ทำ ถ้ารู้น้อยกว่า มันก็ได้รู้เท่าที่เค้าให้งาน ถ้าใช้เวลาทำงานเยอะ แล้วจะเอาเวลาไหนไปพัฒนาตัว ไปเรียน หรือไปรู้อย่างอื่น ถ้าไม่มีเวลาเหลือ เราก็หาเวลาไปพัฒนาตัวเองไม่ได้ เรียนยังต้องเสียตัง แต่ทำงานให้มากกว่าเค้าจ่ายเงินนั้น ถือว่าเป็นการพัฒนาตัวเองที่ถูกที่สุด แถมได้เรียนรู้...

ประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้นหากได้ผ่อนคลายอย่างเหมาะสม

ในบางครั้ง ความรู้สึก work hard ตะบี้ตะบันมันดูเหมือนจะทำอะไรได้มากกว่าคนอื่นเขา แต่จริงๆแล้ว มันแย่กว่า เพราะเลยจุดพอดีไป การทำงาน 8ชม.นั้น เหมาะสมไหม อันนี้ผมไม่รู้ สูตรของแต่ละคนไม่เท่ากัน ถ้าเขาจะตั้งใจทำงาน แต่การทำงานหนักจนเป็นวัฒนธรรม ในบางครั้งเหมือนพวกยามทำงานควงกะ มันก็แอบหลับเพราะร่างกายไม่ไหว ผลออกมาก็ไม่ดี การทำงานได้คุณภาพสูงสุด มันต้องหาความพอดี วินัย ของการทำ และการพัก วินัยในการจัดการของร่างกาย เช่นสุขภาพ...