ในที่สุด เราต้องสร้างความสมดุลย์

ผมเชื่อ เมื่อมีดีมันก็ต้องมีเสียมาด้วย มันเป็นของคู้กัน ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง แต่การที่ได้บางอย่างนั้น ทำให้เรามองข้ามสิ่งที่เราต้องเสียไป และในบางครั้ง เราก็เลือกได้อย่าง และยอมเสียอีกอย่าง เพราะสิ่งที่ได้มันสำคัญกว่า บางครั้งเราเลือกทำงานหาเงิน จนลืมเรื่องสุขภาพตัวเอง แม้เราได้เงินมา สุขภาพเราก็ทรุดโทรมเรื่อยๆ จนวันนึง เราก็ต้องเลือกสุขภาพ ทำให้เราต้องลดระดับการขวนขวายหาเงิน แต่จะหันมาดูแลสุขภาพอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะไม่นานเราก็ไม่มีเงิน ฉนั้น เราก็ต้องทำมันทั้งคู่ เพราะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่ได้ และมากไปทั้งคู่ก็ไม่ไหว อาหารที่อร่อยมันต้องมีความสมดุลย์...

imagine reality

เมื่อทุกคนจินตนาการไปในทิศทางเดียวกัน จนเชื่อเหมือนๆกัน สิ่งที่ไม่มีตัวตน ก็กลับกลายมีตัวตนในจินตนาการ ทุกอย่างจะเป็นจริง จนกว่า ทุกคนจะเริ่มไม่ใช่ว่ามันเป็นจริง แล้วมันก็จะกลับไปเป็นจินตนาการเหมือนเดิม แต่ในระหว่างที่มันเป็นจริง อะไรมันก็ถูก แต่พอมันกลับกลายเป็นจินตนาการเหมือนเดิม ที่เคยถูกมันก็ผิด ผิดหมด   RIZimre

ถ้าของมันแพง ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ

สินค้าบางอย่าง ถ้าคำนวนจากต้นทุน เราก็คิดว่า ทำไมราคามันต่างจากราคาขายแบบฟ้ากับเหว เราก็ดันไปวิจารณ์มัน ว่ามันเว่อร์อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วบางแบรน์ทำไมขายดี ถ้ามันไม่ดีจริงทำไมมันยังอยู่ ไม่เจ๊งตายไปละ   จริงๆแล้ว ก็เพราะเราไม่ใช่สำหรับเขา แต่เขาก็ทำให้เราเป็นกระบอกเสียงช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ แหม่… พลาดท่าโฆษณาให้ฟรีๆ แถมแบ่งชนชั้นให้เขาเสร็จ คนขายก็สบาย มาเหนือเมฆ มี position เรียบร้อย เค้าก็ไปขายคนที่ใช่ คนที่เห็นคุณค่า คนที่คาดหวังอะไรบางอย่าง ถ้าคุณขายของ...

ผมถามคุณคำเดียว ถ้าคุณผิด แล้วจะทำอย่างไร

เวลาเห็นคนเสนอขายสินค้า ส่วนใหญ่มักพูดแต่ด้านดี เพราะเขาอยากขาย ถ้าพูดน่าฟัง มันก็จะน่าคล้อยตาม มันคงเป็นเหตุผลของอารมณ์ที่พาไป แต่ถ้าเริ่มใช้ความคิดฉุกคิดสักนิดหน่อย ว่า แล้วถ้ามันไม่ใช่ละ คำถามนี้ มันเหมือนเป็นคำถามเบรกทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าดีงาม ให้หยุดนิ่ง สะกดได้ทุกสิ่ง แล้วเราก็ต้องย้อนมานั่งคิด หรือถามกลับไปยังผู้เสนอสินค้า หากเขาตอบได้เป็นที่น่าพอใจตามตรรกะ ก็โอเค แต่ถ้าหากเขาเฉไฉ วนไปวนมา แล้ววกไปเรื่องดีต่อ ผมว่ามันไม่น่าจะจบงานกับเขาได้ เพราะ สิ่งที่เราต้องคิดให้ครอบคลุมคือ ถ้ามันไม่ใช่ เราจะทำอย่างไร...

ถ้าไปไม่สุด ก็ไม่รู้จะจบมันตรงไหน

การเดินทาง หรือการจะทำอะไรสักอย่าง บ่อยครั้งที่คนทั่วไป ล้มเลิกมันกลางคัน เพราะรู้สึกว่า มันเหนื่อย มันยาก มันท้อ แต่มันก็ทำให้เรา เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ และมันจะค้างใจเราไปเรื่อยๆ สิ่งที่เราอยากรู้มันจะวนเวียนอยู่กับตัวเรา อาจจะมีข้ออ้างมาบ้าง มาปลอบใจ แต่เรารู้ตัวเอง แต่ก็หลอกตัวเองไปเรื่อยๆนะหรือ ถ้าเราฝืนใจสักครั้ง ไปให้สุด คำตอบจะเป็นอย่างไร ไม่สน ขอให้ไปสุดทาง เมื่อครั้งแรกทำได้ เราก็มีกำลังใจ ว่าเราทำได้ และถ้าความรู้สึกว่าทำได้มาแล้ว...

ที่คนเราชอบวันหยุดมากกว่าวันทำงาน

คนเราไม่ชอบทำงาน เพราะหาความสนุกจากงานไม่ได้ ทำงาน เพื่อแลกเงิน มาจับจ่ายใช้สอยและดำรงชีวิต และเมื่อ ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ มันเลยไม่สนุก พอมันไม่สนุก ก็เลยไม่อยากทำ เลยอยากให้ถึงวันหยุดเร็วๆ และเมื่อ ถึงวันหยุด เราจะได้ไม่ต้องทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ เราก็จะมีความสุขมาก และ เมื่อใกล้ถึงวันที่ต้องกลับไปวัฎจักรเดิม เราก็ย่อมไม่อยากให้วันๆที่น่าเบื่อ มาถึง   ถ้าเราทำอะไรที่ชอบ เราจะไม่ต้องการวันหยุด เพราะทุกวันมีความสุขอยู่แล้ว   RIZlovewhatido

ถ้าคุณเสียใจ จงยินดีกับมัน

แม้ว่าคุณคิดว่าผมบ้า ที่บอกว่า ถ้าเสียใจแล้ว ให้ยินดี แต่ผมว่า มันเป็นเรื่อสัจธรรม ของความเข้าใจในชีวิต ถ้าคิดแบบเซน มันจะทำให้เราตื่น และค้นพบความหมายของชีวิต แม้ว่าทุกๆวัน มันจะดำเนินไป ตามปกติ มันไม่มีอะไรพิเศษ และความพิเศษ ก็ไม่ได้ความสุข แต่ถ้าเรายึดติดกับความสุข ความสุขครั้งต่อไป มันก็ต้องหาความสุขที่มากกว่าเดิมไปเรื่อยๆ และความสุขที่มากกว่าเดิมไปเรื่อยๆ ทำให้สิ่งที่ผ่านมา สำหรับครั้งหนึ่งที่ดีแล้วนั้น มันยังดีไม่พอ ฉนั้น แต่เรื่องเล็กๆที่ผิดหวัง...

คุณต้อผ่านโลกมาพอสมควร ถึงจะรู้จักความสุขคืออะไร

ต่อให้มีอะไรดีๆในชีวิตคุณแค่ไหน คุณก็อาจจะไม่เข้าใจ ถ้าคุณเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยแล้เขา สปอยคุณ คุณจะไม่เข้าใจค่าของเงิน ถ้าคุณอยู่ในจุดที่ใครๆทำอะไรให้คุณ คุณก็จะไม่รู้จักคุณค่าที่ต้องทำอะไรเอง ถ้าคุณไม่ได้มีชีวิตที่ลำบาก คุณจะไม่ทราบซึ้งว่าความลำบากเป็นอย่างไร ความทุกข์นั้น เป็นตัวจะสร้างให้เกิดความเปรียบเทียบ ถ้าชีวิตคุณลำบาก คุณจะรู้เงินแค่ร้อยบาท มีค่ามากแค่ไหน ถ้าคุณต้องการคนที่ช่วยเหลือ ใครก็ได้ที่ยื่นมือเข้ามา คุณจะจำภาพนั้นจนวันตาย แต่ทุกอย่างมันต้องผ่านเป็นประสพการณ์ ที่คุณจะแยกแยะมัน ว่ามันเป็นความสุขหรือความทุกข์ สำหรับเรา   คนที่ยังไม่รวย ก็ไม่เข้าใจคนรวย แต่คนที่จนมาก่อน...

คนที่ไม่ธรรมดา อยู่ในหมู่คนธรรมดา

คนที่ไม่ธรรมดา ก็อยู่ในกลุ่มคนที่ธรรมดาเหมือนกันแหละ เพียงแต่เขาไม่ได้บอก เขาจะแสดงออกตอนที่จำเป็นต้องใช้ ส่วนคนที่ทำตัวแปลก แตกแยก มันก็คือคนธรรมดาที่ทำตัวไม่ธรรมดา

ผลลัพธ์เสียงดังเสมอ

จะทำอะไรก็ตาม ต้องทำครับ ถึงจะรู้ว่ามันหมู่หรือจ่า จะพูดว่าทำอะไร จะชักชวนยังไง ถึงจะหอมหวาน แต่มันก็เป็นแค่กลิ่น มันยังไม่ใช่เนื้อใช่หนัง แต่หลายคนก็หลง เพราะคิดว่ามันดี มันอร่อย อย่างที่คนชักชวน โดยมาด้วยอารมณ์และความรู้สึก ลืมที่จะคิดในเหตุและผล โดยมีตรรกะเป็นต้น แต่ชั่วโมงนั้น อะไรก็ดี อะไรก็เพราะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ลงไปแล้ว ทำไปแล้ว มันอาจจะคนละเรื่องกับที่ได้ยินได้ฟังมาเลย เพราะ คนที่ตอบได้จริงๆคือ ผลลัพธ์...