ทุกครั้งที่พยายามแก้ปัญหา เมื่อเราหันหลังกลับไป เราจะสูงขึ้น

ปัญหา มันเป็นส่วนหนึ่ง ที่เราต้องเจอ ทุกปัญหาที่เราพยายามแก้ ถ้าง่ายก็แก้ได้ ถ้ายากก็คิดหัวแตก ถ้าแก้ไม่ได้ก็เจ็บปวด แต่ทุกครั้งที่พยายาม เราจะสูงขึ้น ทุกครั้งที่แก้ได้เรื่องนึง ชีวิตเราจะมีเรื่องง่ายขึ้นอีกเรื่อง ไม่ต้องกลัวเจ็บ เพราะมันแน่นอน เจ็บอยู่แล้ว RIZsolve

พอเราเคารพตัวตนของเรา คนอื่นสนใจเราด้วย

ผมเห็นคนส่วนใหญ่ เคารพคนอื่น มองเขาเป็็นพระเจ้า เป็นแรงบันดาลใจ ใช่ครับ มันก็ดี ดีที่มันช่วยให้เราพยายาม ให้เหมือนเขา เดินไปตามทาง ที่เป็น perfectionist ของคนที่เราตามเขาไป แต่อย่างไรก็ตาม อย่างดีที่สุดเราก็เหมือนเขา ไม่ได้ก้าวข้ามเขาได้ จนมาวันนึง เราก็หาทางที่จะดีกว่าเดิม ก้าวข้ามสิ่งที่ปิดกั้นให้ได้ แต่มันจะไม่ได้มาเพราะว่า ลอกใครได้อีก สุดท้าย เราก็ต้องหาทางทำด้วยตัวของเราเอง พอเริ่มเคารพตัวเอง เราก็ก้าวข้ามคนอื่นได้ พอเราก้าวข้ามคนอื่นได้...

ระวังความประสพความสำเร็จแบบสำเร็จรูป

เราเห็นคนที่ประสพความสำเร็จ ไม่ว่าทำอะไรมันก็ดูง่ายๆไปหมด แล้วก็ประสพความสำเร็จ แล้วถ้าเขามาเล่าให้ฟัง ให้แรงบันดาลใจ มันดูเหมือนง่ายไปเสียซะทุกอย่าง แต่มือใหม่ ที่ลองเดินตามนะ พังทุกราย จงอย่าคิดว่ามันง่ายนะครับ เพราะจริงๆแล้ว เราไม่ได้ฟังเรื่องลำบาก เรื่องร้ายๆของเค้ามา กว่าที่เค้าจะมีวันนี้มาได้ และมีอีกเท่าไร ที่ตายไปก่อนที่จะถึงจุดหมาย ทุกปัญหาที่เราไม่อยากเจอ หรือว่าคิดไม่ถึง เค้าคงผ่านก่อนมาแล้ว ถึงทำซะทุกอย่างลื่นไหล ง่ายไปเสียหมด ระวังอย่าให้สายตามันหลอกเรา อย่าเอาทัศนคติความคิดง่ายๆ ทุกอย่างสำเร็จรูป แกะซองเทน้ำร้อนก้ประสพความสำเร็จ...

ความสำเร็จ ต้องเป็นแบบของเรา

ความสำเร็จ มันต้องเป็นแบบไหนกันหนอ บางคนก็ยืดเรื่อง เงินว่าต้องมีเท่านั้นเท่านั้น แล้วก็บางทีอ้างมาตราฐาน ที่มาเป็นเส้นบางๆ สร้างความกดดันให้เรา สุดท้าย มันเป็นสิ่งที่สังคมบอก คนอื่นบอก บอกยันว่าความสุขต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องมีอันนั้นอันนี้ถึงจะเรียกว่า มีความสุขได้ ผมว่า แบบนั้นมันเหมือนเดิน ตามหลังคนอื่น ในท้ายที่สุดของปลายทางที่รู้ ก็ดูเหมือนกัน ไม่ใข่ ตัวคุณเองสักเท่าไร ต่อให้ทำได้ มันก็เหมือนว่าคุณยังไม่รู้จักตัวคุณเองดีพอ ทำแบบตอนโจทย์คนอื่น ตอบกับอะไรบางอย่างที่มาชี้นำคุณ สำหรับผมแล้ว...

เสียกันเท่าไรแล้ว กับรางวัลชีวิต

ผมว่าคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะระดับกลางค่อนไปทางล่าง มักติดกับดักของภาพลักษณ์ มักโดนชักจูงง่าย มีความคิดแบบสุดโต่งพวก ทำอะไรต้องสุด workhard, playhard ไอ้สุดๆเนี่ย มันก็เสียแพงกว่าปกติแน่นอน คนพวกนี้ พอเรียนจบมา นอกจากจะมีหนี้เก่า ที่ได้ติดตัวจากการศึกษาที่พ่อแม่เลี้ยงดู เงินส่วนใหญ่ ก็เผาไปกับ ความชอบของเรา รสนิยมของเรา และรางวัลของเรา ที่ซื้อให้กับตัวเอง จะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย จะเป็นบริการหรูหรา จะเป็นอะไรก็ตามที่ปกติเป็นสิ่งเกินตัว และสิ่งไหนเกินตัว ผมเรียกมันว่าสิ่งไม่จำเป็น...

บางเรื่อง ไม่มีถูกต้องหรอก มีแต่ถูกใจ

ปกติเราก็เห็นจะทำอะไรก็ต้องคุยกันเรื่องความถูกต้อง ต้องเป็นไปตามกฏหมาย มีอะไรก็อ้างความถูกต้องไว้ก่อน แต่ผลของมัน บางที ทำไม่ถูกต้องก็ไม่รอด หรือความถูกต้อง มีไว้เพื่อกลั่นแกล้งกัน คนที่ไม่ชอบก็โดนไป เหม็นขี้หน้า หาเรื่องแกล้ง มันก็ต้องขุด แล้วมาติดแผ่ขยาย เพราะยังไง การทำถูก ทำผิด เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าจะทำอะไรให้ใคร มันต้องดูทิศทาง ดูอารมณ์ เพราะต่อให้ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกใจ ก็โดนปัดตกได้ ความถูกใจจึงเป็นสาระใหญ่ สำหรับคน...

อดีตที่ผิดพลาดนั้นเปลี่ยนได้

อดีตที่ผิดพลาดนั้นเปลี่ยนได้ แต่ต้องสำนึกในความผิดที่ผ่านมา และกลับตัวกลับใจแก้ไขใหม่ ไม่มีคำว่าสาย สำหรับการเริ่มต้นสู่การเป็นคนที่ดี อย่าถามว่าเราเคยทำผิดมาแล้วมาขอโอกาส หรือโวยวายบ่นแต่ มีแต่คนใจแคบไม่ให้โอกาส ใครๆเขาก็กลัวกันทั้งนั้นแหละครับ แต่ถ้าเรายังไม่สำนึกคิดว่า คนอื่นต้องมายอมเรา หรือเอาความผิดมาอ้าง เพื่อขอโอกาสแก้ไข ถ้าเรายังไม่ทำตัวเองเป็นที่ประจักษ์ ใครหน้าไหนเขาจะเข้าใจและให้โอกาส ต่อให้คุณเป็นคนดี ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะให้โอกาส มันก็คือๆกัน จะบอกเป็นสัดส่วนมากกว่าน้อยกว่าหรืออย่างไร ผมว่า ก้มหน้า สำนึกตัวให้ได้ก่อน แล้วค่อยพยายาม มันก็ต้องมีสักวันที่ได้ดั่งหวัง มันก็ดีกว่า...

นิสัยไม่ดี ถ้าไม่ฝึกตัวเอง มันก็เปลี่ยนยาก

บางที มันก็มีเรื่องราว ที่คนอื่นไม่ชอบเรา เพราะเรามีนิสัยบางอย่างที่ไม่ดี ยกตัวอย่าง เอาเปรียบคนอื่นบ้าง ทำตัวไม่เรียบร้อยบ้าง พูดอะไรไม่คิดบ้าง หลายๆครั้งทีเดียว เราก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเช่นนั้น แต่มันดันเป็นไปเอง ถ้างั้น หลายๆคนที่คุ้นเคยกับเรา ถึงรับได้ เข้าใจ แต่ก็ไม่ชอบใจ ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่นที่ไม่รู้จักเราเลย ไม่ชอบแน่ๆ ถ้าเราไม่ฝึกที่จะเปลี่ยน นิสัย หรือสิ่งไม่ดีพวกนี้ แล้วบอกว่า มันคือตัวตนของเรา ผมว่า คนนี้ก็ใช้ไม่ได้...

อานุภาพของการให้

ปกติแล้ว ใครๆก็อยากเป็นผู้ได้ เป็นผู้รับ เพราะการได้มา มันทำให้เรารู้สึกว่ามีชัยเหนือคนที่ไม่ได้ทั้งหลาย การได้รับทำให้เราพอใจ แต่การที่ได้รับมากไป มันจะทำให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัว พอคนอื่นมองเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เขาก็ไม่อยากให้ด้วยความจริงใจ ต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย พอเป็นมากๆเข้า จากที่เราเคยได้ ก็เลยจะได้น้อยลงไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ กลายเป็นคนที่ไม่มีใครอยากให้ ไม่อยากสังคมด้วย เพราะไม่ได้อยากรู้จักคนเอาเปรียบ แต่พอถ้าเราเป็นผู้ให้เมื่อไร ใครๆก็อยากเข้าใกล้ เข้าหา ทำให้เรามีสเน่ห์ไปในตัว พอเราให้ คนก็จะรู้สึกอยากจะให้อะไรตอบ เป็นการแลกเปลี่ยนต่างตอบแทน...

บางที เราก็ลืมตัว

บางที เราก็ลืมตัวเอง ว่าเราทำอะไรอยู่ หรือบางทีเราคิดแต่ในมุมมองของตัวเอง คิดว่า เราทำดีแล้ว ไม่ได้สนใจ ในมุมมองของคนอื่น หรือผลกระทบของมัน และผมบอกได้เลย บ่อยครั้งทีเดียว ที่ความประสงค์ดี ตั้งใจดี แต่ผลที่ได้ กลับไม่ได้ดั่งที่หวัง และบางบ่อยครั้ง มันกลับยิ่งแย่กว่า การไม่สนใจคนอื่น ในมุมมองเรา อาจจะไม่ได้เรียกว่าเห็นแก่ตัว แต่ในมุมมองคนอื่นที่เขามองการกระทำของเรา เค้าเรียกเราว่า คนเห็นแก่ตัว ในบางครั้งที่เกิดเรื่อง หากได้ปรับความเข้าใจ...