มิตรภาพเป็นสิ่งสำคัญ

เราทำมาค้าขาย เราขายก็ต้องมีคนซื้อ เราถึงจะได้ค่าตอบแทน ถ้าเราขายของ มีคนซื้อของเรา เราก็ได้เงินตอบแทน แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเงินทองทุกครั้งไป มันก็ใช่ ที่แทบทุกอย่าง จะตีมูลค่าด้วยเงินได้ แต่มันก็มีบางอย่างที่ เราอาจจะต้องยอมเสียเงิน หรือเสียเปรียบเพื่อได้มันมา มิตรภาพ มันไม่ได้มาจากการเอาเปรียบได้เปรียบแน่นอน ถึงเล่ห์เหลี่ยมการซื้อขาย มันก็ย่อมจะมีเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจ แต่ถ้าเพื่อนรักต้องหักเหลี่ยมโหด ผมรับรองว่า คงไม่ได้เผาผีกัน หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือจำเป็นจริงๆแล้วนั้น ยอมๆไปบ้าง มันก็ดีเหมือนกัน เพราะการยอม...

เคล็ดลับนักขาย ฟัง และทำความเข้าใจ

เป็นเรื่องเคล็ดดลับของนักการขายที่ดี ที่พูดแล้วเหมือนจะย้อนตรงข้ามกับสิ่งน่าจะทำ เราอาจคิดว่า คนขายของที่ดี ต้องพูดเก่ง พูดให้คนหลงเชื่อ แต่ผมว่า คนตามเขา เพราะเกรงใจ หรือพลั้งเผลอ มากกว่า ตั้งใจซื้อจริงๆ ถ้าเราสิ่งที่นักขายที่ดีคือ ฟังมากกว่าพูด เมื่อฟังแล้ว เราทำให้คนซื้อรู้สึกว่าเราสนใจ ไม่ใช่แค่นักขายที่พูดมาก เมื่อฟังแล้วเราได้ข้อมูล ก็อย่าแค่ฟังผ่านๆ ใครคนซื้อรู้สึกดีใจ ว่าเราสนใจ เราก็ตั้งใจฟังเขาและทำความเข้าใจ ว่าเขามีอยากได้อะไร มีปัญหาอะไร และหาความเชื่อมโยงใส่ที่เราช่วยเขาได้...

ไม่แข็งแรง ก็ต้องฝึกสิ บ่นแล้วได้อะไร

ร่างกาย และจิตใจ มันก็ต้องใช้ความมุ่งมั่นนะครับ ผมเจอคนบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ อยากทำนั้นได้ เพราะเห็นคนอื่นทำได้ พี่ครับ… ทุกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องของวาสนามาอย่างเดียวนะครับ ที่เกิดมาแล้วจะมีเลยทำได้ มันไม่ทุกอย่างหรอกครับ แตแทบทุกอย่าง ผมเชื่อ ว่ามันจะมาได้เพราะพยายาม ไม่รู้ก็ต้องหาให้รู้ ทำไม่ได้ก็ต้องฝึกฝน ค่อยได้ค่อยเป็นค่อยไป อยากจะมีสุขภาพดีๆ ก็ออกไปวิ่งสิครับ แรกๆ เชื่อมั่นว่า คนไม่เคยวิ่ง รับรองไม่ถึง10นาที หอบแดก แต่ถ้าอดทนฝึกบ่อยเข้าๆ ชั่วโมงนึงวิ่งก็จะสบายๆ...

อย่าไปเสียเวลา อธิบายให้คนไม่อยากฟัง

เวลาผมทำอะไรไปเนี่ย เมื่อทำไปแล้ว มันก็มีกระทบกับคนในหมู่คณะ และคนรู้จักบ้าง จะด้วยความเป็นห่วง หรือสงสัยของพรรคพวก ก็ย่อมมีเป็นธรรมดา บางคนเป็นห่วง หรือสงสัยมาก ก็เลยทักไถ่ถามกันมา ผมก็ตอบตามความคิดในมุมมองของผม ก็ถือว่า อธิบาย และก็แลกเปลี่ยนกันไป แต่บางที มันก็มีเยอะทีเดียวที่ มีคนเล่าสู่กันฟังว่า มีคนส่วนมากไม่เข้าใจ และจะทำให้มองผมไม่ดี หรือผิดไป จึงอยากให้ผมไปอธิบาย แต่ผมก็บอกตรงๆ เขาไม่ได้ถามผม ผมจะไปพูดอธิบายกับเขาได้อย่างไร ผมเองก็ไม่ได้ร้อนตัว...

เราต้องเลิกหาข้อจำกัด หรือเลิกอ้างนั่นเอง

อยากได้ก็อยากได้ แต่ให้ทำละไม่เอา บ่นว่าเหนื่อยบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ก็อ้างต่างๆนานา คือ จะเอาแต่ได้ และจะไม่ทำ มันก็ไม่มีทางหรอก ที่จะได้ เอาตรรกะไหนคิดมันก็ไม่ได้ คนเรา จะทำอะไรให้ได้ มันก็ต้องมีความพยายาม และถ้าสิ่งที่ทำมันยาก เราก็ต้องมีความพยายามมากหน่อย การที่มีพยายาม มันไม่ได้บ่งบอกว่าจะทำได้ แต่มันก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการทำได้ หากไม่มีความพยายามแล้วนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งนั้นง่ายแค่ไหน ควรจะทำได้ เมื่อเจอความลำบาก หรืออุปสรรค...

การทำงานเป็นกลุ่มของผม

การทำงานให้มีประสิทธิภาพเป็นกลุ่ม หรือหมู่คณะของชาวไทยนั้น หากบริหารแบบไทยๆ ที่เราเข้าใจกัน มันก็คงไปไม่รอดเป็นแน่ เพราะ ดูเหมือนเราจะถนัดลงแขก คือมีอะไรก็เฮกันไปช่วยกันทำ ทำในแบบเดียวกันให้รีบเสร็จๆ เป็นอย่างๆ แต่งานที่เราทำ มันไม่ใช่เกี่ยวข้าว หรือเก็บผลไม้ ที่จะเฮกันแบบนั้น การจัดการมันต้องมีการวงองค์ประกอบเป็นส่วนๆ และแยกกันทำ ซึ่ง คนไทย ก็ไม่ชอบ ทำตัวเด่น เลยไม่ค่อยมีคนรับอาสา เป็นผู้นำเท่าไรนัก แต่หัวหน้านี่ อยากเป็นกันทุกคน แต่ก็ไม่ได้อยากรับผิดชอบ...

การเจออะไรดีๆ ก็ควรจะไปที่ดีๆ

ผมรู้ว่า 24ชม.เท่ากันทุกคน แต่ใครจะบริหารเวลาได้ดีกว่ากัน มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนทำงานดึก เลยตื่นสาย เมื่อตื่นสาย ก็ชดเชยด้วยทำงานดึกต่อ ก็เลยตื่นสาย มันก็วนเวียนแบบนี้ ร่างกายก็ทรุดโทรม เพราะเวลาของสังคมมันไม่ได้หมุนตามตัวเองขนาดนั้น แต่ทุกอย่างมันปรับได้ ขอให้กล้าลอง คนไม่เคย ก็ต้องเรียนรู้ เมื่อแรกรู้ก็ต้องพยายามข้ามพ้นการปรับตัวให้ได้ เพราะไม่มีอะไรง่ายๆที่ก้าวแรก เมื่อเริ่มทำได้ ก็จะได้รู้สึกอยากทำ พอทำได้เรื่อยๆ มันก็ภูมิใจ และก็เสพติดการทำได้ และเมื่อสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี มันก็ย่อมดีกับตัวเอง...

เรียนรู้ ต้องเรียนจากของจริง

คนเราที่เรียนแล้วทำไม่ได้ เพราะเรียนจากสิ่งที่ไม่รู้ไม่เป็นประโยชน์ แล้วก็เรียนกันไปเรื่อยเปื่อย ออกทะเล ที่เรียนแล้ว ไม่ได้ประโยชน์ เพราะ ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์ จะพาลไม่รู้จะเรียนไปทำไม ถ้าเรียน แล้ว ปฎิบัติ มันก็จะได้รู้ เรียน แล้วต้องทำ มันถึงจะรู้ แล้วทำได้ จะให้รู้จริง ต้องมีของจริง ถึงได้ประสพการณ์ ประสพการณ์ มันแค่ดูไม่ได้ ท่องจำมันก็ไม่ได้ ความรู้+ความรู้สึก ได้เสีย...

จะทำอะไร ต้องเริ่มมองหาสิ่งที่เรามี ไม่ใช่สิ่งที่เราขาด

คนเราชอบมองหาแต่สิ่งที่เราขาด เช่น ถ้าเรามีเงินนะ เราจะทำสิ่งนั้นได้สิ่งนี้ได้ ถ้าเรามีเส้นสายนะ เราก็จะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เราไม่มีจริง มัวจะคิด มันก็เสียเวลา ไม่มีจะคิดไปทำไม แต่อยากได้นะเข้าใจ แต่เราไม่ค่อยคิดในสิ่งที่ตัวเรามี เพราะตาเรามองไปข้างหน้า ไม่ได้มองเห็นข้างใน เลยไม่ได้สนใจ เพราะไม่แน่บางคนก็มีสิ่งที่ดีๆ มีความสามารถอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่า สิ่งที่มี มันดียังไง เพราะรู้สึกเป็นปกติ มันไม่ใช่เรื่องพิเศษ แต่ถ้าเรามองกลับกัน ไม่สนใจในสิ่งที่ขาด แล้วเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เรามี...

อย่าปล่อยให้คำจำกัดความ มาเป็นอุปสรรค

ตอนที่เราจะทำอะไรใหม่ๆ คนอื่นเขาก็ถามว่ามันคืออะไร อยู่หมวดไหน ธุรกิจประเภทอะไร คือถ้าผมตอบได้ อย่างที่คนถาม มันก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่ๆ แต่พอตอบไม่ได้ คนเขาก็ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับ เพราะมันใหม่เกินกว่าขอบคำจำกัดความเดิมๆ ที่วางไว้ได้ ถึงแม้ว่าเราจะเอาสองสิ่ง มาหลอมรวมเป็นสิ่งเดียวกัน มันก็จะโดนจำกัดความอยู่ดี มันเป็นอุปสรรคในการยอมรับเหมือนกัน เพราะมันยังไม่มีมาก่อน ถ้างั้น ไม่ต้องตอบคนอื่นครับ เพราะมันตอบอย่างที่เขาพอใจไม่ได้ ก็ทำจนกว่ามันจะเสร็จ พยายามจนกว่าเป็นที่ยอมรับ และวันนั้น เราก็จำกัดความของเราขึ้นมาเอง เป็นทั้งผู้นำ...