ชีวิต ไม่มีคำว่าเกษียณนะครับ

เวลาทำงาน มันก็มีเวลาเลิกงาน หรือทำงานจนถึง 55/60 ก็ต้องเกษียณ ตามหลักแล้ว บางช่วง ทำอะไรก็ต้องมีพัก หรือสุดท้ายก็มีเลิกรา แต่ชีวิตคนเรา ไม่มีเลิกรานะครับ มีแค่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และเราไม่รู้ด้วยว่ามาเมื่อไร ที่ทำได้มีแต่เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม เรื่องอะไรที่เตรียมการไว้ได้ ก็เตรียมไว้ เช่นสุขภาพ เราจะปล่อยให้มันเสื่อมโทรม หรือละเลยไปกับมัน ก็จะฉิบหายไป...

ถ้าคิดว่าใช่ ทำไป อย่างกลัวผู้ใหญ่บ่น

ผมว่า ผู้ใหญ่ทุกคนก็เป็นห่วงลูกหลาน และด้วยเพราะว่าเขาอาบน้ำร้อนมาก่อน ประสพการณ์ชีวิต แต่ละคน ต้องมีไม่น้อยทีเดียว เรื่องทั้งดีและไม่ดี หากเขาเตือนอะไร มันก็ย่อมต้องฟังด้วยเหตุและผล แต่เนื่องจากวันนี้ เทคโนโลยี มันพัฒนาเร็วมาก ขนาดคนที่อยุ่ยุคเดียวกัน ไม่ตามยังตกยุคเลย นับประสาอะไรกับคนที่ผ่านโลกร้อนหนาวมาเยอะ จะไม่หลุดยุคกัน สิ่งใดที่เป็นคำห่วงคำสอน อาจจะใช้ไม่ได้ในปัจุบัน แต่อย่าขัด อย่างมองว่าไร้ประโยชน์ หรือก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม เอามาคิดก่อน ไม่ต้องไปเป๊ะๆ และไม่ต้องกลัวผู้ใหญ่บ่น เขาบ่นแน่นอนอยู่แล้ว...

สุดท้าย ก็ต้องถาม เพื่อจะได้รู้ ไม่ใช่คิดเอง

นั่งคุยกับคนอื่น มันก็สนุกดีนะครับ เราได้รู้เรื่องราวของชาวบ้าน ได้มุมมอง ได้ความคิด ไอเดีย ต่างๆ และมากกว่า ที่เราคิดไปเอง คนเราชอบคิดว่าอีกคนคิดอย่างไร บางที เราก็อาจตัดสินเขาไปแล้ว ว่าเขาคิดเห็นเป้นอย่างไร แต่จริงๆเหรอ แต่ที่แน่ๆ เราต้องคุย สอบ ถาม เขาครับ เราจะได้รู้มากกว่าที่เราคิดไปเอง อยากรู้ ก็จำเป็นต้องถามครับ แต่ถ้าคนอยากรู้ แล้วคิดไปเอง ก็จะได้มโนไปเอง...

ตรรกะก็ใช้ไม่ได้ทุกเรื่อง

ตรรกะ เป็นพื้นฐานของความมีเหตุผล ซึ่งทุกคนควรมี คิดอะไรจะได้เป็นระบบ แต่จริงๆแล้ว อารมณ์ กับความไร้เหตุผล ชอบมาเหนือกว่าสิ่งใด หลายๆที เราจะฝูงชน ที่ใช้อารมณ์เป็นหลัก เราจะเอาความมีเหตุผลไปคุยด้วย มันก็ไม่ได้ เขาไม่ฟังเราหรอก ขืนพูดไปเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ เราจะซวยไปด้วย ทางที่ดี ก็อย่าพูดครับ เราต้องเข้าใจจังหวะด้วย เมื่อจังหวะไม่มี ก็ไม่ต้องฝืนทำประตู เดี๋ยวจะรั่ว พลาดเสียเปล่า ดูเชิงไปก่อน เอาช้า...

ไม่มีปัญหาจะก้าวหน้าได้อย่างไร

เจ้านาย เวลามองลูกน้อง คงไม่ได้มองว่าลูกน้องทำงานได้เรียบร้อยอย่างเดียว เพราะบอกแบบนี้ จะดูเหมือนอุดมคติไป เพราะในชีวิตจริงๆ แม้ว่าเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ก็เชื่อว่า มันต้องมีปัญหาไม่มากก็น้อย และปัญหานี่แหละ จะแยกคนเก่งกับคนไม่เก่ง คนที่ไม่เก่ง ก็จะหนีปัญหา หรือรอคนมาช่วยแก้ปัญหาเพราะปัญหาไม่ใช่เหมือนธุระไม่ใช่ แต่คนที่เจอปัญหาแล้วแก้ได้ เขาก็จะมีภูมิคุ้มกันปัญหา ไม่ว่าจะเจอมาแบบไหนท่าไร เขาก็จะเอาอยู่ เมื่อเอาอยู่ปัญหาได้รับการแก้ไข มันก็จะไม่เป็นปัญหา ใครๆก็อยากมีชีวิตราบเรียบ จนเป็นเรื่องราบรื่น มันไม่มีทางหรอกครับ แก้ๆไป เราจะได้แตกต่าง...

ทำงานทางเร็วสุดคือ ตรงประเด็นหน่อยครับ

สังคมสมัยนี้ เราถูกล่อลวงด้วยสิ่งที่ทำให้เราต้องเสียเวลามากมาย เมื่อเราทำงานอะไรสักอย่าง หรือจะไปไหนสักที่ มีโฆษณา มีป้ายโน่นนี่ หรือข่าวประกาศ เราจะมีสิ่งรอบตัวรอบกายที่คอยกวักเรียกเราให้แวะอยู่เสมอ แม้ว่าเรานั่งเฉยๆ เรายังมีมือถือไว้เล่น จะเล่นเกม หรือจะคอยเช็คบ่อยๆว่ามีใครติดต่อเราไหม ของพวกนี้ ทุกๆอย่าง ถ้าเราจะทำงาน มันไม่จำเป็นทั้งนั้น ถ้าเรามุ่งมั่นไปกับงาน จะใช้สิ่งต่างๆ เมื่อจำเป็น มันจะเป็นทางที่เราทำงานได้เร็วที่สุด ไม่งั้น เราจะเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่เรื่องงาน … เยอะครับ...

แสดงความคิดเห็น ต้องรู้จักจังหวะ

คนเรามันก็เป็นอีลูกช่างตินะครับ เห็นจุดไม่ดีของคนอื่นนี่โดดเด่นกระแทกตา บางที มันก็อดไม่ได้ ที่จะพูดออกมา จะเป็นในการแสดงความคิดเห็น แนะนำหรือสั่งสอนก็ตามที แต่เราต้องเข้าใจสังคมไทยด้วยนะครับ ทำดีแต่อย่าเด่น เดี๋ยวจะเป็นภัย อันนี้ไม่ได้หมายถึงว่า อย่าทำ หรือห้ามเด่นนะครับ เพียงแต่ ทำอะไรต้องรู้จักกาละเทศะ ไม่ใช่ จะแทรก สอด เข้าไปได้ บางทีมันไม่ใช่จังหวะ ก็โพล่งใส่เข้าไป ไม่โดนตีนก็โดนหมายหัวนะแบบนี้ เราต้องดูจังหวะอันเหมาะสมก่อน จะทำอย่างไร ที่จะถนอมน้ำใจ...

คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง

คือจะบอกว่า คนที่เราเห็นว่าเขาเก่งๆ เราก็ชื่นชนในสิ่งที่เขาเก่ง สิ่งเดียวแหละครับ แต่เราคิดไปเอง ว่าคนที่เก่ง มันเก่งซะทุกอย่าง ไม่ใช่นะครับ เขาเองก็ไม่เคยบอกว่าเขาเก่งทุกอย่าง ก็แค่บางอย่าง แล้วเราก็คิดกันไปเองมากกว่า เรารู้ตัวเองว่าเราเก่งอะไร ไม่เก่งอะไรดีกว่า ส่วนที่ไม่เก่ง ก็ไปหาคนที่เก่ง หรือเก่งกว่าเรามาช่วย ขืนทำเองก็เจ๊งพอดี ถ้าอยากจะเก่ง อยากโชว์ซะทุกอย่าง เดี๋ยวมันจะไม่เก่งสักอย่าง เอาดีสักเรื่องมันก็พอแล้ว เอาทุกเรื่อง จะเอาเวลาไหนไปทำให้แตกฉาน อะไรที่ไม่ได้ ก็ให้คนอื่นเขาไป...

ไม่ทำวันนี้ จะทำวันไหนครับ

การที่คิดจะทำอะไรบางอย่าง สำหรับผมมันง่ายมากเลย สายตาสะดุดอะไร หรือคิดไปเพลินๆ มันก็ออกมาแล้ว แต่สำหรับตอนที่จะทำสิครับ ถ้าจะทำ มันกลับต้องคิดแล้วคิดอีก จริงๆมันก็ดีนะครับ แต่พอคิดไปคิดมา คิดถี่ถ้วน สุดท้ายกลับไม่ทำ จะบอกว่าคิดมากไป ก็ได้ แต่คนคิดมากๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำแหละครับ เพราะมันมากไปจนเห็นแต่ปัญหา คนที่จะเริ่มทำได้ส่วนใหญ่ต้องไม่คิดมาก เริ่มไปก่อน แล้วไปแก้ แต่บางคนเริ่มไปแล้ว ไม่ใช่ก็เลิกเลย ไม่ทันแก้ หมดแรงหมดใจไปก่อน ก็แล้วแต่คนครับ...

ไม่ใช่ทุกคนจะคิดเหมือนเรา และไม่ใช่เราจะคิดเหมือนทุกคน

เจอคนที่เป็นศูนย์กลางจักรวาล มันก็น่าเบื่อ ไม่น่าคุย เพราะเราคงได้แต่ฟังเป็นหลัก เราคงไม่ได้อะไร เพราะเราเองก็ไม่ได้คิดเหมือน และเขาคงคิดว่า ทำไม่เราไม่คิดเหมือนเขา ถ้าคนทั้งโลกคิดเหมือนกัน ทางคงชัดเจน แต่คงไม่มีอะไรก้าวหน้า แต่เพราะคนคิดไม่เหมือนกัน มันเลยมีปัญหา และความก้าวหน้า แต่สำหรับคนไม่เข้าใจ มันจะเป็นปัญหาให้ทะเลาะกันมากกว่า จากความคิดต่าง มากกว่าการใช้สมอง มันก็กลายเป็นอารมณ์ และกลายเป็นใช้กำลัง แค่จงระวังความคิดตัวเอง และอย่าไปคิดแทน และพยายามคิดตามคนอื่นบ้าง อย่าพึ่งแย้ง ค่อยแย้งตอนเราเข้าใจก็ได้...