คนเราสร้างสรรค์ประโยชน์ แต่ใช้มากไปมันเป็นโทษ

เราพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มาเพื่อทำให้ชีวิตสดวกง่ายขึ้น คิดค้นทั้งเครื่องจักรยนต์กลไก และวิธีการต่างๆ ซึ่งกว่าจะคิดออกมาได้ มันก็ต้องลองผิดลองถูก เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ของมัน พอสิ่งๆดีๆ สิ่งมีประโยชน์นี้ เป็นที่รู้จักอันแพร่หลาย แต่มันก็ย่อมมีคนที่คิดไม่ถึง คิดไม่เป็น เอามันมาใช้ผิดจุดประสงค์ของผู้ที่คิดค้น เอามาใช้มากไป เอามาใช้จนงมงาย เอามาใช้ไม่ประมาณตน ผมยกตัวอย่าง delivery มีส่วนช่วยให้ชีวิตมันง่ายขึ้น เราไม่ต้องรถติด เพื่อออกไปหาสิ่งที่อยากทาน ไม่ต้องไปต่อคิว ซึ่งมันก็มีค่าใช้จ่ายต้องแลกเปลี่ยนสิ่งที่เสียไป แต่มันก็คุ้มนะครับในบางครั้ง ถ้าเทียบกับให้เราต้องไปทำเอง...

งานจะง่ายขึ้น ถ้าสร้างเงื่อนไขให้น้อยลง

ที่ผมชอบความเรียบง่าย จนเหมือนแทบจะไม่มีอะไรเลย ในการขับเคลื่อน หรือทำงานนั้น เพราะมันง่ายที่จะทำ สมัยก่อน เวลาได้งานมา เราก็ต้องใช้เวลานั่งขบคิดปัญหา ถ้าแก้ไขด้วยเนื้องานแล้ว มันก็ไม่เท่าไร แต่ที่มันเป็นปัญหาคือ บางทีเราก็ไม่ได้ชอบวิธีการ ไม่ชอบคน ไม่ชอบเวลา สร้างสิ่งต่างๆให้เป็นเงื่อนไขตลอดเวลา พยายามจะปรับทุกสิ่งทุกอย่างให้เข้าหาตัวเอง ให้ตัวเองสบายที่สุด ซึ่งมันไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาของงานแล้ว เมื่อรู้แล้ว สิ่งที่ควรทำคือ แก้ปัญหาตัวเอง ให้หนักเบาเอาสู้ มุมานะ เอางานที่ง่ายที่สุด ที่ไม่เอาตัวเราเข้าเป็นเงื่อนไข...

อย่าไปหลงเทคโนโลยี ให้สนใจวิธีการจัดการ

หลายๆคนที่ทำอะไร แล้วไม่ประสพความสำเร็จนั้น อาจจะมีเรื่องที่ผมจะพูดถึงบ้าง ลองคิดตามดูครับ หลายๆคน สนใจเรื่องเทคโนโลยี เรื่องของความทันสมัย และคิดว่า มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พยายามใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ยัดมันลงไป อะไรดีเด่นดัง ยัดให้หมด จนคิดว่ามันสุดยอดที่สุดแล้ว พอถึงเวลานำเสนอสินค้าหรือบริการ กลับไม่มีคนสนใจอย่างที่หวังไว้ เพราะมันทันสมัยเกินไป ยุ่งยากเกินไปสำหรับคนหมู่มาก มันคงสนุกสนานเฉพาะคนในกลุ่ม และมันเล็กเกินไป และที่สำคัญที่คิดว่า ตอบโจทย์ มันไม่ตอบโจทย์ แล้วเขาก็ล้มเลิกความคิด ยอมแพ้ไป...

อยากฉลาดขึ้นต้องแกล้งโง่

ความรู้สึกที่ฉลาดแล้วทำมีความเย่อหยิ่งอยู่ในใจ เป็นความรู้สึกภูมิใจ แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นคืออัตตา การมีอัตตา ทำให้เราไม่รับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเผื่อมีประโยชน์เพิ่มพูน แน่นอน มันก็ต้องมีสิ่งดีไม่ดี ใช้ได้ไม่ได้ แต่ถ้าเราคิดว่า เราดีที่สุดเก่งที่สุดแบบไม่สนโลกแล้วนั้น โลกมันหมุนไปข้างหน้าทุกวัน มันย่อมมีอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันที่มั่นใจว่าเราเก่ง มันเหมือนกับเราหยุดโลกไว้ แต่จริงๆเราหยุดไม่ให้โลกหมุนไม่ได้หรอก เราต้องยอมรับว่าตัวเรายังรู้น้อยอยู่ ยังต้องเปิดรับข่าวสาร ความรู้จากภายนอก เพื่อมาเพิ่มพูน ปรับใช้ต่อไป RIZeego

ใครๆก็อยากได้สมบูรณ์แบบ ทั้งๆที่ใช้ไม่ถึง30%

เรื่องที่น่าสนใจคือ ใครๆก็อยากได้ของหรือบริการ perfection หรือสมบูรณ์แบบ ทั้งๆที่เราใช้สิ่งเหล่านั้นไม่ได้สมบูรณ์ คือ ถ้ามันร้อยเต็ม เราก็ใช้สักสามสิบ แล้วแบบนี้เราจะอยากได้ความสมบูรณ์แบบมันทำไม เพราะมันดี แต่ถ้าไม่ได้ใช้มันก็ไม่จำเป็น ในมุมกลับกัน คนขายสินค้า บอกว่าสินค้าเขาสมบูรณ์แบบ เขาอาจจะหลอกเราอยู่ หรือเขาสร้างภาพให้มันเป็นอย่างนั้น หรือเผื่อๆไว้ แต่ทั้งๆที่สิ่งที่เขาขายให้เราใช้นั้น มันนิดเดียวเอง นิดเดียว ที่รู้ได้ถึงส่วนต่างที่มากมาย แต่คนซื้อเขาก็ไม่รู้ และยังคิดว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นมันสมบูรณ์แบบ บอกแค่นี้เอาไปคิดต่อได้แล้วนะครับ ว่าซื้อเท่าที่จำเป็นต้องใช้มันถูกกว่าซื้อสิ่งของที่สมบูรณ์แบบ...

จะโฆษณา ไม่ใช่จ่ายเงินซื้อสื่อ แต่มันต้องมีกลยุทธ์

แวะวนมาคุยเรื่องสื่อออนไลน์กันบ้าง ตอนนี้ใครอยากโฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็จะพูดถึงสื่อออนไลน์ โดยมีสองค่ายใหญ่ คือ google กับ facebook ซึ่งทั้งคู่มันก็สามารถซื้อสื่อได้ง่ายมาก ใครมีcontent อะไรก็ สามารถจัดการได้เลย ง่ายมันเป็นข้อดีครับ ยิ่งง่าย ใครๆก็ทำได้ แต่ใครๆที่ว่าทำได้ ถ้าไม่ฉุกคิด ก็จ่ายไปง่ายๆแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร การจะทำให้โฆษณาตรงเป้าหมาย มันไม่มี กดแบบ auto pilot หรอกครับ ทีเดียวจบ...

ถ้ายังทำเรื่องยากๆไม่ได้ ไปฝึกพื้นฐานครับ

เวลาเราเห็นคนอื่นเก่งๆ เราก็อิจฉานะครับ ว่าทำไมเขาทำได้ เราก็อยากเก่งแบบนั้น หลายๆคนเลยหาทางลัด และส่วนใหญ่มันก็แป๊ก แต่ความรู้สึกที่ตัวเองบอกคือ มันยากจัง ไม่เอาแล้ว เราโง่ไป เราทำแบบนี้ไม่ได้หรอก นี่ยิ่งไปกันใหญ่ เราต้องมาเรียนทัศนคติใหม่ ในเรื่องของ รู้ไม่รู้ ดันบังเอิญคนแถวนี้เรียกคนที่ทำในสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเป็นคนเก่ง ผิดเลยครับ จริงๆส่วนใหญ่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ใช่สายเรา ทางเรา เราก็เลยไม่รู้ อย่าพึ่งบอกตัวเองว่าเราโง่ ต้องบอกว่าเรารู้ช้า และจะให้รู้อะไรยากๆเลย มันไม่มีทางเข้าใจหรอก...

ทำไปก่อนครับ ค่อยแก้ทีหลัง บางทีก็ดีเหมือนกัน

คนที่เรียนรู้มาระดับหนึ่ง มักจะเป็นคนคิดมาก ยิ่งเรียนรู้มากๆ ก็ย่อมคิดมากขึ้นตาที่ได้เรียนรู้มา แต่มามองถึงการกระทำแล้วนั้น กลับน้อยลง จะด้วยคิดรอบครอบ หรือเล็งผลเลิศ ในบางครั้ง เราไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ เรารู้ตรรกะมันว่า จาก 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 ตามลำดับ แต่ถ้าพวกคิดมากแบบคิดไม่เป็น จะคิดไปถึง 10...