มองรายจ่าย เป็นรายได้บ้าง

บางที ที่เราต้องจ่ายๆออกไปนั้น ทำเราหน้าแห้งเหมือนกันนะเนี่ย หามาได้ ก็ต้องจ่ายไป มันก็เป็นเช่นนี้ แต่การจ่ายออกไป ให้อะไรเราบ้าง มันไม่ใช่แค่การชำระหนี้ หรือการตอบแทนการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เรายังหาคุณค่าของการจ่ายไป จ่ายไปเพื่อที่จะได้ บางครั้ง การประหยัดการจ่ายเกินไป ทำให้เราเสียรายได้ หรือจ่ายแล้วได้ของมาแล้ว ก็ต้องคิดว่าของเหล่านั้นมาสร้างรายได้ ได้อย่างไร มันเป็นมุมมองของทางธุรกิจ ถ้ามองเป็นทางธุรกิจ มันก็จะคิดง่าย เพราะ ซื้อมาขายไป หรือทำกำไร มันก็หลักการเดียวกัน...

ระวังการคิดอะไรเกินจริงและหยุดไม่ค่อยได้

ปัญหาหลายอย่างหลายเรื่องต้องยอมรับความจริงว่า มันแก้ไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ควบคุมให้เป็นดั่งใจเราได้ทั้งหมด แม้ว่าใจอยากก็ตาม จะไปเสียเวลาอยู่ทำไม เข้าใจมันเป็นพอ ไม่ต้องสร้างดราม่าให้ตัวเอง หลายคนผิดหวังจนซึมเศร้าเพราะเบรกตัวเองไม่ได้ เกินความจริงไปไกล แต่ก็มันเป็นเรื่องปกติที่มันจะเตลิดไปไกล มันก็ต้องระวังหน่อย และมีสภาพแวดล้อมที่ให้กำลังใจที่ดีก็น่าจะผ่านได้ครับ RIZwatchout

ทำบริการ ต้องมีใจบริการ

ลูกค้าผู้มาใช้บริการ ก็หวังว่าจะได้บริการ เป็นประสพการณ์ที่ดี ผู้ให้บริการ ต้องบริการอย่างน้อยต้องมีมาตราฐานอันเป็นที่ยอมรับของทางสังคม แต่ผู้ให้บริการส่วนมาก ไม่มีความรู้ความเข้าใจ บริการแบบตีหัวเข้าบ้าน เพราะลูกค้าไม่มีทางเลือก ใช่ครับ เพราะไม่มีทางเลือก ลูกค้าเลยต้องจำใจซื้อบริการ แต่วันนี้ถ้าลูกค้ามีทางเลือก เขาก็ไม่มาใช้บริการที่เขาว่าไม่ได้มาตราฐานหรอกครับ ยกตัวอย่าง มอเตอร์ไซรับจ้าง vs grabbike หากบริการดี ราคาดี มันไม่มีช่องว่างให้คู่แข่งเข้ามาหรอกครับ แต่บ้านเราก็แก้ปัญหาแบบมาเฟีย คือไม่ดีไม่ปรับปรุง แต่ไล่คนที่ทำได้ดีกว่าออกไป แบบนี้จะหาความเจริญได้อย่างไร...

ลูกน้อง3ระดับ

เผอิญมีคนถามผมว่า จะหาลูกน้องดีๆได้ที่ไหน มันทำให้ผมคิดย้อนไปว่า ไอ้คำว่าดี มีองค์ประกอบอะไรบ้าง แล้วถึงจะมาแบ่งคัดแยกว่าดีไม่ดี แต่อันนี้ก็จำๆปรับๆเขามาเหมือนกัน ผมแบ่งเกรดที่ดีๆเป็นแบบนี้ครับ 1 ตามสั่ง พวกนี้ สั่งอะไรก็มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของงาน ทำอย่างเต็มที่เท่าที่เรามอบหมายให้ไป 2 ดีกว่าสั่ง สั่งไปแล้ว มีต่อยอดเพิ่มเติม เก็บรายละเอียดให้ด้วย 3 ไม่ต้องสั่ง พวกนี้ สุดๆครับ มองตาก็รู้ใจ พูดครึ่งประโยค ที่เหลือ...

ในส่วนลึกแล้ว ทุกคนอยากทำความดี

คนทุกคน ก็เป็นคนดี คนเลว คละเคล้ากันไป มันถึงเรียกว่าเป็นคนได้ แต่ในเบื้องลึกของคนทุกคนนั้น ได้รับการสั่งสอนมาว่าอยากเป็นคนดี แม้จะเป็นคนที่ดีที่คนอื่นยอมรับอยู่แล้ว หรือว่าเป็นโจรชื่อดัง ทุกคนก็อยากทำความดี เราจะเห็นได้บ่อยๆ แม้ว่าจะเป็น ขุนโจร เจ้าพ่อ หรือมาเฟีย พอมีกิจกรรมที่เขาได้ทำความดีให้ต่อสังคมอย่างเปิดเผย ตามความถนัด อย่างโรบินฮู๊ด ปล้นคนรวยช่วยคนจน หน้ากากโซโล ก็ปล้นคนรวย ช่วยคนจนเหมือนกัน มาเฟีย อย่างอัลคาโปน ก็ค้าเหล้าเถื่อน...

เรียนรู้ เอาตัวรอด

มาดูเด็กบ้านเรา เก่งแต่ในตำรา เพราะมีแต่สนามแข่งแต่ในตำรา วิชาการแ เก่งแบบนี้ ใช้ชีวิตจริงๆอยู่รอดไหม ทุกวันนี้ เรียนเก่ง แต่หาข้าวกินไม่ได้ ทำไม่เป็น ทอดไข่ ต้มมาม่าไม่เป็น มันไม่รอดครับ ออกไปนอกบ้าน ข้ามถนนไม่ได้ เดี๋ยวรถชนตาย โอ้ยมากเรื่อง ดูเด็กเมืองนอก จะรวยจะจน ข้ามถนนเอง ไม่ต้องมีคนจูงมือ เฮ้ย มันฝึกกันมีวินัย ฝึกรับผิดชอบตั้งแต่เด็กๆ จะรวยจน...

เกลียดอะไรได้เจออย่างนั้น

เราเกลียดอะไร เจอแล้วมักก็ต้องหนีไปไกลๆ แต่ก็ไม่มีใครหรอกที่หนีได้ จะสุดขอบฟ้ายังไง มันก็ยังมีอันต้องวนกลับมา จะปีหรือสิบปี มันก็จะกลับมาอยู่ดี แต่พอเลิกเกลียดมันเท่านั้นแหละ ไม่ได้เจอเลย ของพวกนี้มันเป็นวิบากกรรม กรรมนี้เราหนีไม่ได้ แต่พอมันไม่ใช่กรรมเมื่อไร มันไม่มาเลย เจออะไรไม่ชอบ ก็ไปหามันอยู่กับมันให้ได้ มองผ่านข้ามให้ได้ พอมันรู้ว่าเราไม่ได้กลัว ไม่ได้เกลียด ไม่ได้คิดอะไร เท่านั้นแหละ กรรมนี้ก็จะหายไปสิ้น ตั้งสติ แล้วรับกรรมซะ จะได้จบๆ RIZtosee

ทางที่ใช่แท้ๆ มันต้องมีอุปสรรค

เวลาเลือกทางเดิน มันก็มีทางง่ายกับทางยาก นี่คือทั่วๆไปที่คนมอง และคนส่วนใหญ่ เลือกทางง่าย แต่ผมชอบมองว่าทางไหนมีอนาคต หรือไม่มีอนาคต ก่อนที่จะมองว่ายากหรือง่าย ทางทุกทางมีเป้าหมายปลายทาง แต่ปลายทางแล้ว มันแค่จบ ก็จะเสียเวลาทำไม มันต้องไปทางที่ยิ่งใหญ่ และทางที่ยิ่งใหญ่จะมาง่ายๆ คงจะไม่ใช่ มันต้องยาก ลำบาก แต่เป็นไปได้ ต้องเป็นทางที่คนอื่นไม่คิดจะไป เพราะสิ่งที่กล่าวมา เพราะทางมันต้องคัดคน ถึงจะบอกได้ว่าคนเก่ง และเป็นคนที่รอด เดินให้ถูกทางนะครับ อย่าคิดแบบทั่วๆไป...

ดุลพินิจที่ดี

คนที่มีดุลพินิจที่ถูกต้อง ต้องผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชน ถึงจะตัดสินผิดถูกด้วย ก่อนอื่น ดุลพินิจ เป็น คำสองคำที่ประกอบกันคือ ดุล ที่แปลว่า เสมอ หรือ เท่ากัน พินิจ แปลว่า การพิจารณา สองคำนี้รวมกันย่อมแปลว่า การพิจารณาอย่างเที่ยงธรรม ซึ่งคนจะมีได้นั้น ต้องมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ตัดสิน จะให้คนซึ่งมีประสพการณ์น้อย เข้าใจน้อย คำตัดสินก็อาจจะไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม มันจึงทำให้เด็กๆยังไงก็สู้คนที่ผ่านโลกมาไม่ได้ เพราะความเก๋ามันบอกได้ถึงความแม่นยำ ยิ่งประสพการณ์ยิ่งเยอะ...

ทำให้สิ่งที่ดีที่สุดที่มี ดีขึ้นกว่าเดิม

อยากพัฒนาตัวเอง เมื่อเราไปถึงจุดที่สุดแล้ว มันไม่ได้จบแล้ว หรือที่สุดแล้ว อย่าพึ่งพอใจกับสิ่งแค่นั้น มันแค่ไม่ง่าย จริงๆมันยากเลยแหละ หลังที่ผ่านจากจุดเส้นชัยไปแล้ว แล้วจะทำให้มันดีขึ้น เราต้องทุ่มเทมากกว่าเดิม เพื่อได้ผลเพิ่มขึ้นอีกนิด แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นแบบนี้ ผมเชื่อว่า มันแตกต่าง เราไม่ได้แข่งกับคนอื่นอีกแล้ว ที่เหลือคือแข่งกับตัวเอง คนอื่นไม่รู้ และไม่เข้าใจ แต่เรารู้ ทุกๆนิดเดียวที่ขยับไปข้างหน้า มันคือจุดที่ผ่านความสามารถเก่า ที่เราพยายามทำทุกวัน มันดีอยู่แล้ว มันต้องดีกว่า และดีขึ้นกว่าเดิม...