ขอบคุณ อีกคำที่ผมว่ามันเปลี่ยนโลกได้

คำแรก ที่เป็นปฐมบทของการเริ่มต้นคือคำทักทายง่ายๆ เช่นคำว่า สวัสดีครับ เมื่อเริ่มเปิดเรื่องแล้ว อื่นๆ ก็จะเริ่มมาต่อเอง มันเอาไว้เริ่มความสัมพันธ์กับใครๆก็ได้ หากเปิดใจแล้ว ต้องเปิดปากพูดด้วย แต่อีกคำหนึ่งแล้วจะทำให้เขาจำเราได้คือคำว่า ขอบคุณ มันเป็นคำง่ายๆ ที่คนใช้น้อยมากทีเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทิฐิต่างๆ เช่นความต่างของวัยวุฒิ หรือคุณวุฒิ แม้แต่ระดับชนชั้นทางสังคม ที่มีการแบ่งกันมาก่อนที่เราเกิด แต่ถ้าเราจะยึดตามแบบนั้น เราคงต้องโดนโดดเดี่ยว เพราะทุกคนต้องการยอมรับ และคำว่าขอบคุณนั้น มันก็เป็นคำที่เราสำนึกในสิ่งที่อีกคนฝ่ายมอบให้ จะเป็นเรื่องงาน...

ฝึกความจำ อย่าทำเป็นลืม

วันๆถึงแม้มีแต่เรื่อง บางเรื่องสำคัญบ้าง บางเรื่องก็ไม่สำคัญ มันก็มีบ้าง หากเราไม่สนใจ ปล่อยปะละเลย เราก็จะไม่ได้นึกถึงและจำมันไม่ได้ ถึงแม้เราไม่ได้ตั้งใจ แต่เราก็ฝึกตัวให้เป็นเช่นนั้นโดยไม่ตั้งใจเช่นกัน อย่าทำแบบนี้ครับ ถึงไม่มีผิดอะไร แต่ไม่ได้ฝึกตัวเองเพื่อพัฒนา บอกอะไรไว้ เราก็ต้องจำ จะไม่ได้ก็ต้องจด สัญญาอะไรเขาไว้ ยิ่งไปบนบานศาลกล่าว เจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน ผ่านไปแล้วเราอาจจะไม่ติดใจ แต่ถ้าเป็นคนเขาจำได้ เขาจะมองเราไม่ดีแน่ ไม่พูด ไม่บอก แต่รู้ได้ด้วยตัวเอง ในบางเรื่อง...

คนอื่นช่วยเราแล้ว เราต้องช่วยตัวเองด้วย

มีปัญหา ขอให้คนอื่นช่วย คนอื่นก็อุส่าห์ช่วยเราแล้ว แล้วเราไม่ทำอะไร ปัญหามันก็ไม่ได้แก้หรอก ที่เราขอให้คนอื่นช่วย เพราะมันสุดที่ตัวเองจะแก้ไขได้ หรือช่วยตัวเองได้ แต่ถ้าขี้เกียจ รักแต่สบาย หากมีคนช่วยก็รอดไป แต่ถ้าคนเขาระอากับเราแล้วไม่ช่วย เดี๋ยวเราจะลำบาก ไม่มีคนช่วยเราไปตลอดหรอก ถ้างอมืองอเท้าเอาแต่ได้ จะขอให้คนอื่นช่วยมันต้องจำเป็น เมื่อได้มาแล้วมันก็ต้องสำนึกคุณค่า ไม่เพียงแต่สำนึกที่คนอย่างเดียว ก็ต้องสำนึกถึงสิทธิและการกระทำที่ได้รับ เมื่อได้แล้ว มีโอกาสก็ต้องเป็นผู้ให้บ้าง RIZhelp

เห็นแก่ตัวให้น้อย เห็นคนอื่นให้มาก

ตามปกติ ตามสัญชาติญาณ ทุกคนน่าจะเป็นคนเห็นแก่ตัวโดยพื้นฐาน แต่ถ้าทำเช่นนี้ทุกคน สังคมจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ มันก็จำเป็นต้องมีการเสียสละบ้าง ถึงแม้จะเป็นการเสียประโยชน์ส่วนตน แต่มันก็ทำให้เรายกระดับสังคม ให้ดียิ่งขึ้นไป จริงๆแล้วเราไม่รู้หรอกว่าที่เราเสียสละให้คนอื่นนั้น เราเองก็ได้ หากเกิดปัญหา เรายอมเสีย ปัญหาก็ไม่เกิด เรื่องราวก็ไม่ลุกลามใหญ่โต มันดีกว่าจะตั้งใจเอาเห็นแก่ตัวทั้งสองฝ่ายมาชนกัน จนบรรลัย คนเรานั้น การเห็นแก่ตัวมันเป็นอะไรที่มองสั้นๆเห็นแต่ตัวเอง แต่การที่เห็นแก่คนอื่นบ้างนั้น เราก็ต้องแลกอะไรไปบ้าง และมันจะมีค่าภายภาคหน้า กว่าเยอะ RIZgive

งานอดิเรก มันก็ช่วยขัดเกลาตัวเอง

งานอดิเรก มันเป็นงานที่ทำในเวลาว่าง หรือเมื่อเรามีเวลา และมันเป็นงานที่เราสนใจและอยากทำอยู่แล้ว บางคนอ่านหนังสือ บางคนสะสมของต่างๆ แต่ทุกอย่าง ไม่ใช่จะทำได้เลยแบบสำเร็จรูป หรือมีเงินก็ซื้อได้ เพราะสิ่งที่เราสะสม หรือสิ่งที่เราทำ มันมีค่ามากกว่าเงิน มันเลยต้องใช้ความมุ่งมั่น เอาใจใส่ สนใจ และมันค่อยๆทีละนิด ตามจังหวะและโอกาส จะเหมาซื้อทั้ง collection มันก็อาจจะได้ แต่ไม่ซาบซึ้ง และถ้าทำแบบนั้น เราก็จะเบื่อ เพราะเหมือนได้มาแล้ว ก็จบๆกันไป...

เข้าสังคมให้เป็น

บางคนก็มีเพื่อนมาก ดูเหมือนเขาหาเพื่อนได้อย่างง่ายดาย แต่บางคนเพื่อนน้อย และดูเหมือนก็ปลีกวิเวกจากสังคม เราอาจจะมองเรื่องของความสัมพันธ์ในการรู้จักคน มาเทียบกับเพื่อนในวัยเด็ก อยากจะมีเพื่อนดีๆ เพื่อนที่รู้ใจเหมือนในวัยเรียน พอคราวถึงวัยทำงาน เราก็หาเพื่อนในความรู้สึกแบบนั้นได้ยาก และก็ไม่อยากจะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ แต่จริงๆ ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรนั้น มีได้หลายลักษณะ จะแบบวัยเด็กที่รู้ใจกัน เฮไหนเฮนั่น มันก็แบบหนึ่ง แต่อย่าถือว่าเป็นแบบเดียว ความสัมพันธ์แบบคนร่วมงานกัน หรือจะความสัมพันธ์เป็นแบบผู้ซื้อผู้ขาย มันก็ถือเป็นความสัมพันธ์ เพราะทุกความสัมพันธ์แม้บางทีจะฉาบฉวย หรือชั่วครั้งชั่วคราว มันก็สามารถเปิดโลกทัศน์เรา ให้รู้และเจออะไรใหม่ๆได้อีก...

ผิดถูกไม่เป็นไร แต่ต้องกล้าตัดสินใจ

จะคิดถูกที่สุด แต่มันต้องใช้เวลามากที่สุด ก็ไม่ทันกินแล้ว คนอื่นเขาไปกันหมด ถ้าเราเข้าใจความจริง ว่าโลกนี้ มันไม่มีความสมบูรณ์แบบ แต่ความเร็ว ย่อมมีความสำคัญ การกล้าตัดสินใจ ย่อมเป็นการแสดงออกถึงการเข้าใจของความไม่สมบูรณ์แบบนั้น เมื่อตัดสินใจแล้ว หากผิด เราก็รีบแก้ไข และถ้ายังผิดอยู่ก็รีบแก้ไขต่อ อย่าท้อ ยิ่งเรายิ่งทำอะไรบ่อยขึ้น มากขึ้น ประสพการณ์ในแต่ละครั้งที่ผิด มันจะสอนเราเองว่าต้องเลี่ยงยังไง เมื่อทำมากๆ ก็จะรู้มากไปโดยปริยาย แล้วเราก็จะเฉียบขึ้น ตัดสินใจได้คมขึ้นเรื่อยๆเอง ต้องฝึกบ่อยๆ...

จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ต้องฝึกความเป็นผู้นำด้วย

อย่างเก่ง อยากยิ่งใหญ่ แต่พอให้ทำอะไรก็ไม่กล้า กลัวโน่นนี่ ภาวะการเป็นผู้นำไม่มี ไม่อยากรับผิด กลัวผิด จะเอาแต่รับชอบ เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย ไม่ใช่ภาวะของผู้นำที่ดี องค์กรไหนได้ไป ฉิบหายเสีย การฝึกเป็นผู้นำ มันต้องกล้าก้าวนำ ต้องเป็นผู้เสียสละ พร้อมรับผิด รีบแก้ไข แล้วทำต่อไป อำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง ความยิ่งใหญ่ มันไม่ได้มาจากการหลบอยู่หลังคนอื่นแล้วบ่นอย่างเดียวหรอกครับ RIZbegreat

คนที่มีความจำดี ก็มีสเน่ห์นะครับ

อาจารย์ผมเขา มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ถึงแม้ว่าเกษียญมานานแล้ว แต่ก็ยังมีกิจ รับเป็นที่ปรึกษางานวิจัยอยู่เนืองๆ และยังเป็นคนที่ เปิดกว้างรับฟังข่าวสาร จึงทำให้เป็นคนที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา แต่มีสิ่งหนึ่งนอกจากความเก่งในด้านวิชาการแล้ว คือความจำครับ ท่านจำคนแม่นมาก จำชื่อ และงานได้หมด ภายใต้รอยยิ้มสดใส แต่พูดอะไรเนี่ย อย่าพลาดนะครับ ท่านจำได้หมด พอนานๆได้เจอท่านที ท่านก็จะทักทายชื่อ และถามถึงงานที่ทำ ที่ท่านจำได้ แค่นี้ มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษขึ้นมาแล้ว เพราะถ้าเป็นเรา เราจะจำเฉพาะเรื่องที่สำคัญ...

ถ้ามันจำเป็นสำหรับเรา ก็อย่ามักง่ายโยนความรับผิดชอบให้คนอื่น

เราย่อมรู้ตัวเราดีที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็อย่าโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นที่คุณคิดว่าเก่งกว่า เพราะอะไรที่มันจำเป็นสำหรับเรา มันจำเป็นสำหรับเรา คนอื่นจะมารู้ว่ามันจำเป็นสำหรับเราหรือก็ไม่ใช่ ต่อให้เขาเก่งอย่างไร เขาบอกเราได้ สอนเราได้ แต่รู้แทนเราไม่ได้ เพราะสุดท้ายคุณต้องเลือกเอง จะเลือกเพราะเขาแนะนำ มันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เราก็ต้องคิดเองด้วย และมันจำเป็นมาก จะเลือกคำตอบที่เขาเอามาให้เพราะ เราไม่รู้ นั้นเรียกว่า เรามักง่าย และโยนความรับผิดชอบ เราอาจจะโดนบีบให้เลือกก็ตามที แต่ถ้าเราไม่รู้อะไรเลย เราก็โง่ และจะตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายๆ ฉนั้น ควรรู้ตัวด้วย...