ยังไงคนเราก็มีอดีตครับ และมันขายได้

ช่วงนี้ ผมเห็นเอาของเก่ามาขาย และมันขายดีกว่าสมัยก่อนอีก ของใหม่ๆ ตอนนี้มันกระจาย ถ้าจะจับตลาดมันก็เฉพาะกลุ่ม หรือใหญ่ไปเลย แต่สำหรับเด็กในวันนั้น หรือวัยรุ่นวันก่อน วันนี้มีเงินแล้ว มีอิสระแล้ว จ่ายอะไรก็ได้ โตแล้ว ของในวันนั้น วันที่อยากได้แล้วยังไม่มีความสามารถได้ วันนี้พร้อมแล้วครับ เราเห็นนักร้องเก่าๆ ที่โตมากับเรา มาวนเปิดคอนเสิร์ต ก็ขายบัตรหมดอย่างรวดเร็ว พวกนี้ไม่ค่อยทำอะไรทันสมัยขนาดคนปัจุบัน และมันทำง่ายครับ เพราะความฝันวันนั้น ไม่ทันซื้อไม่มีเงินซื้อ วันนี้มีแล้ว...

เงียบเพื่อจะได้พักหายใจ และพูดต่อ

เห็นคนที่พูดเก่งๆ พ่นออกมาเป็นไฟ จะน้ำไหลไฟดับก็ตาม มันก็ต้องฝึกทั้งนั้นแหละครับ มันต้องเข้าใจว่าจะพูดยาวๆได้อย่างไร แต่ถ้าถามเคล็ดลับของคนพวกนี้ มันได้คำตอบที่น่าแปลกใจทีเดียว คือความเงียบครับ ความเงียบเป็นจังหวะพัก จังหวะที่เขาได้หายใจ ที่จะได้พูดต่อไปเรื่อยๆ คนที่อยากจะพูดได้เก่งๆนานๆ หากไม่เข้าถึงข้อนี้ เขาก็จะพูดไปรวดเดียว แล้วหมดแรง และท้อถอย เพราะมันได้แค่นั้น ไม่ก้าวหน้า เพราะใช้พลังไปหมดแล้ว ทริกเล็กๆครับ ลองไปคิดต่อดู RIZsilent

ข้อดีของเป้าหมาย

ชีวิตนี้ จะทำอะไร กิน อยู่ หลับนอน ไปวันๆอย่างนั้นหรือ บางคน ก็เป็นชีวิตที่เขาอยู่แบบนั้นได้ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่มีค่า เหมือนอยู่แล้ว ทำลายทรัพยากร เพื่อดำรงชีวิตให้อยู่จนสิ้นอายุขัยไปอย่างนั้น อย่าทำแบบนั้นเลยครับ เราทุกคนไม่ได้ด้อยขนาดนั้น เราเกิดมาพร้อมสมองที่ใหญ่กว่า การทำลายทรัพยากรเพื่อดำรงชีพ เราก็ควรคิดจะทำอะไรสักอย่าง และอย่างนั้นแหละครับคือเป้าหมาย บางคนชอบคิดว่าเป้าหมายเป็นอะไรที่เกินตัว ไกลไป จริงแล้วมันสามารถเป็นอะไรง่ายๆ และใกล้ๆได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ มันก็เป็นเรื่องเล็กๆได้เหมือนกัน มันเป็นอะไรก็ได้...

หมดตัวไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ถ้าหมดใจอะไรก็ไม่เหลือ

การทำอะไรผิดพลาดนั้น ถึงระวังดีเยี่ยมเพียงใด มันก็ย่อมมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ และบางครั้งด้วยความไม่รู้ หรือรู้ไม่ถึงก็อาจจะทำให้เสียหาย เสียงาน เสียเงิน แต่ถ้าเสียไปแล้ว ยังไปเสียดายมันอยู่ ก็ถือว่าจบแล้ว เข้าใจว่ากว่าจะสร้างมาจนพร้อมมันก็นานโขอยู่ แต่ถ้าจะต้องไปเริ่มใหม่ ถึงเวลาก็ต้องทำ ไม่ต้องไปครวญครางกับสิ่งที่ผ่านไป แม้ว่าจะพาตัวเองไปจุดเริ่มต้น หรือต่ำกว่านั้นก็ตาย เสียอะไรมันก็เสียได้ ถ้ามีให้เสีย เสียไปครับแล้วหาใหม่ แต่สิ่งที่ห้ามเลยคือ ห้ามหมดกำลังใจ แล้วไม่สู้ต่อ เพราะถ้าเราสู้ โอกาสก็ยังมี ล้มแล้วลุกให้เร็ว...

จะเข้าใจคนอื่นได้นั้น ต้องเข้าใจตัวเองด้วย

นักบริหาร นักการตลาดหลายๆ ที่เข้าใจตลาดเป็นอย่างดีนั้น เพราะเขารู้จักลูกค้า เขาสามารถบอกเป้าหมายของเขาได้ เล่าได้เป็นฉากๆ ว่าจะกินจะนอน ไปไหนมาไหนอย่างไร แต่ไม่ว่า เขาจะเก่งแค่ไหน มนจะสุดไปไม่ได้ ถ้าเขาลืมตัวเอง พื้นฐานจริงๆแล้วเข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น และเข้าใจคนอื่น ก็ต้องเข้าใจตัวเองด้วย ไก่กับไข่ มันก็เริ่มอะไรสักอย่างก่อน แล้วก็ค่อยรู้ในสิ่งที่เหลือ ไม่ครบก็ไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่ดี ค่อยๆก็ได้ แต่ต้องทำให้ครบ RIZknowing

ต่อให้พูดภาษาเดียวกัน แต่มันมีการสื่อสารเฉพาะกลุ่มอยู่

เรื่องนี้น่าสนใจครับ ภาษาทำให้คนเราสื่อสารกันได้ แต่มันจะได้แค่พื้นฐานเท่านั้น ถ้าเราไม่ได้ใช้เวลาในแต่ละกลุ่มคน เหมือนแต่ละกลุ่มอาชีพ หรือกลุ่มความสนใจ ที่เขาพัฒนาภาษาจากพื้นฐานให้เป็นภาษาเฉพาะกลุ่มของเขากันเอง แน่นอนครับ ภาษาเดียวกัน แต่ถ้าคนต่างกลุ่มฟัง มันก็ฟังอาจจะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ บ้างเป็นภาษาทับศัพท์ทางเทคนิค แต่บ้างมันเป็นคำย่อต่อๆกันมา จนไม่รุ้ว่ามันย่อมาจากอะไร อย่างกลุ่มเทคนิควิศวะ ก็ยังแบ่งเป็นเฉพาะทางอีกเยอะแยะ จะไฟฟ้า โยธา คอมพิวเตอร์ เอามาคุยเรื่องลึกๆรวมๆกันแล้ว ไม่รู้เรื่องครับ ซึ่งก็หมายถึงว่าเราชินอยู่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้วต้องสื่อสารกับคนนอกกลุ่ม ต้องคิดไว้ก่อนว่าเขาไม่เข้าใจเราง่ายๆอย่างนั้น ต้องอธิบายช้าๆและใช้คำพื้นฐาน ไมงั้นจะมาหงุดหงิดเราว่า...

บอกอะไรไป ใส่ความเป็นมนุษย์เข้าไปด้วย

เทคโนโลยี่มันช่วยเราในชีวิตประจำวันเยอะนะครับ ช่วยกันยันเลขาส่วนตัวอย่าง siri ของค่า apple หรือ google assistance แต่ถึงพูดกับเราได้ ช่วยเราได้ แต่มันยังทำให้เรารู้สึกดีไม่พอ เหมือนพูดกับคน และเพื่อความรวดเร็วหรือทันสมัยก็แล้วแต่ มันทำให้เราทำอะไรก็ขาดความรู้สึกไปด้วย ทำกระด้างๆ แข็งๆไป คุยกับคนไม่เหมือนคน อ่านบทความมีแต่เนื้อหาแต่ไร้ความรู้สึก พอสิ้นวัน ความรู้สึกขาดก็ยังอยู่ และมันน่าเบื่อครับ ความเก่ง หรือรู้มาก ไม่ได้ช่วยให้ติตต่อได้ดี ความไม่เก่ง...

โลกมันกว้างขึ้น โอกาสมาพร้อมคู่แข่ง

สมัยก่อนตอนที่อะไรๆยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ หลายๆกิจกรรม โดนผูกขาดโดยคนไม่กี่กลุ่ม พอโลกเปิดกว้างขึ้น การติดต่อสื่อสารดีขึ้น และราคาถูกลงจนเหมือนแทบจะรวมอยู่ในการเหมาจ่ายบางไปแล้ว เมื่อโลกมันเปิดกว้างขึ้น ก็เหมือนประตูแหละครับที่มันกว้างขึ้น ทำให้เราสามารถเอาสิ่งต่างๆที่เรามี ออกไปได้ง่ายขึ้น และในขณะเดียวกันคนอื่นก็เอาของเขาส่งมาด้วยช่องทางนี้เหมือนกัน สมัยก่อน แข่งกันไม่กี่คน แทบจะรู้จักคุยกันได้ สมัยนี้ ใครก็ไม่รู้ มาแข่งกับเรา ถ้าไม่เก่งจริงไม่เด่นจริง จะทำเหมือนสมัยก่อนก็ไม่ได้แล้ว ปิดหูปิดตาคนได้ไม่ง่ายแล้ว ถ้าเราทำอย่างเดิมไม่ได้ ก็ต้องหาอย่างใหม่ทำ วิธีเดิมไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีใหม่ทำ ไม่งั้นไม่ทันจริงๆ...

เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุดก็ได้ แต่ปรับตัวให้เร็ว

หลายๆครั้ง คนเก่งก็ไม่รอดนะครับ เพราะเขาเก่งไป เก่งในสิ่งที่ทำเกินกว่าที่จะไปทำอย่างอื่น ถ้าจังหวะมันมา ตรงกับสิ่งที่เขาเก่ง หรือมันอยู่ช่วงเดียวกันอยู่ ก็โอเคนะครับ แต่ถ้ามันผ่านไปละ จบเลยนะครับ เกมเลย สิ่งที่พยายาม สิ่งที่ทำ ทั้งๆที่ตอนที่เราเก่ง เราโดดเด่นมาก เด่นจนกลบทุกสิ่งอย่าง และเมื่อเวลาผ่านไป ที่เราโดดเด่นนั้น มันก็กลายเป็นอดีตไป พอมันผ่านไป ไม่มีค่าเลยนะครับ จบจริงๆ ไร้ค่ามาทันที จริงๆ คนเราถ้าเก่งได้ก็เก่งให้มาก...

บางเกมถ้าเราอยากชนะ เราต้องเล่นให้แพ้

การแข่งขัน ปกติแล้ว ทุกคนอยากเอาชนะครับ อยากแข่งชนะ อยากเป็นที่หนึ่ง ถ้ามองพื้นๆ ก็แบบนี้แหละครับ ต้องชนะให้ได้ เป็นที่หนึ่งให้ได้ แต่การที่เป็นที่หนึ่ง ย่อมต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง เช่นเวลา การฝึกฝน ความพยายาม บางที มันก็ไม่คุ้มค่า เพราะมันต้องเสียอะไรไปอีกหลายๆอย่าง เพื่อเป็นที่หนึ่ง ในบางเรื่อง บางครั้งเราเสียเวลาของครอบครัว เพื่อน หรือคนที่คุณรัก มันคุ้มกันไหม บางมุมก็คุ้ม บางมุมก็ไม่ใช่...