ความรู้เยอะก็ต้องจัดการ

ความรู้เมื่อไม่เป็นปัญหา แต่สมัยนี้มันมากไป มันล้น เราเองก็ควรรู้ในสิ่งที่ควรรู้ จะรู้ไปเรื่อย มันก็รู้ไม่หมด มีเรื่องที่ควรรู้ที่เราต้องรู้ มีเรื่องที่เราไม่ต้องรู้ก็ได้ มีเรื่องที่ถ้าไม่มีอะไรจะรู้ก็รู้ดีกว่า เราต้องหัดกลั่นกรอง และเราก็ต้องจัดการมัน ข้อมูลมีล้นจนแทบว่าชีวิตทั้งชีวิตก็ยาวไม่พอที่รู้ทั้งหมด แต่จะรู้มากกว่า รู้ลึกกว่า ก็ย่อมเป็นไปได้ หากเราจัดการไม่ดี รับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์มากไป มันก็คงเสียเวลาเปล่า เพราะการจัดการ มันก็ต้องเลือก และที่สำคัญคือเรามีเวลาจำกัด ใช้สอยอย่างประหยัดนะครับ RIZkm https://www.facebook.com/rizthink/

ความรู้ ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้วตอนนี้

สมัยก่อน กว่าจะหาความรู้ได้ เราต้อหาที่อาจารย์ หรือดูที่สำนัก แต่ละที่มันก็จะมีความเด่นแตกต่างกันไป เหมือนเป็นความลับที่สืบทอดเฉพาะวงในเท่านั้น จากรุ่นสู่รุ่น หรือต้องหาตามห้องสมุด มันทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงองค์ความรู้หรือข้อมูลได้ แต่ตอนนี้ แทบทุกอย่าง เราสามารถหาได้ในอินเตอร์เน็ต มีเรื่องราวทุกอย่างที่คนขยันเขียนขยันแชร์ ทั้งเป็นความรู้บริสุทธิ์ ความคิดเห็น และประสพการณ์ มีให้เราได้อ่านได้ค้นคว้าและเลือกใช้ เมื่อมันเชื่อมต่อและแบ่งปันกันขนาดนี้ เราไม่สามารถที่เราจะเหนือกว่า หรือเหนือกว่าได้นาน ความรู้ไม่ได้ผูกขาด มันเป็นสาธารณะไปเสียแล้ว หากเราจะแข่ง เราก็ต้องแข่งในมุมอื่น ชิงไหวชิงพริบกันแล้ว...

หาความสุขเล็กๆน้อยๆ ในวันที่แย่ๆ

คนเราจะมีความสุขอะไรนักหนาตลอดเวลาใช่ไหมครับ แต่บางคนเราก็เห็นเขามีความสุขเหลือเกิน ไม่รู้เพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือเราเห็นอย่างนั้น บางคนก็ว่ากันว่า มันเป็นเรื่องของทัศนคติ แต่ถ้าวันแย่ๆโผล่เข้ามาแบบไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้รับเชิญ เราก็ต้องหาความสุขเล็กๆน้อยๆ เช่น กินอะไรอร่อยๆ หรือแม้แต่กินขนม ทำอะไรที่เราชอบ หรือพูดคุยกับคนที่เราสบายใจได้ เพราะเรื่องเล็กๆ จะทำให้เราเว้นว่างจากช่วงใหญ่ๆ แล้วมีกำลังใจสู้ต่อไป RIZsmallhappy https://www.facebook.com/rizthink/

พูดช้าๆ เข้าใจง่ายกว่า

ต่อให้เวลาเร่งรีบแค่ไหน เวลาพูด สั่งงานคน ก็ต้องค่อยๆพูด จะรีบพูดเหมือนอวดภูมิ หรือคิดว่าเขาต้องเข้าใจอยู่แล้วนั้นไม่ถูกต้อง หากถ้าเขาเข้าใจแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องพูด ที่เราต้องพูดเพราะเขายังไม่เข้าใจ จะพูดสักไปที รีบร้อนมันก็ไม่ได้อะไร แต่เราคิดว่าได้หรือ หรือคนอื่นตามไม่ทัน เราไม่ได้พูดให้ตนเองฟัง เราต้องพูดช้าและชัด ให้คนอื่นเรา เข้าใจและคิดตามทัน สื่อสารง่ายๆ ไม่ต้องยากนะครับ riztalkclear https://www.facebook.com/rizthink/

ยืนระยะให้ยาวพอ

การจะวัดความเก่งและประสพความสำเร็จนั้น มันต้องมีเงื่อนเวลาเข้ามาอยู่ด้วย เดี๋ยวนี้ พอทำอะไรสักครั้ง ก็เรียกว่าประสพความสำเร็จแล้ว มันอาจจะเป็นโชคของมือใหม่ก็ได้ ตัวจริงหรือเปล่า เราก็บอกไม่ได้ ทำได้ครั้งสองครั้งไม่ได้แปลว่าจะทำได้ตลอดไป นี่แหละครับ heritage ถึงมีเก๋าของมันอยู่ ไม่ใช่แค่ดีอย่างเดียว มันต้องดีติดต่อมายาวนาน นานระดับรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยๆเป็นร้อยเป็นหลายร้อยปีทีเดียว เรียกว่า นานพอที่จะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งโชคและปัญหามาแล้ว สิถึงเรียกว่าตัวจริง RIZitisreal มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/rizthink/

อย่ามีศัตรูพร่ำเพรื่อ

ถึงเราไม่ชอบใคร ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างไร ก็อย่าสร้างศัตรู วันนี้เราชนะ เราข่มเขาได้ แต่เราไม่รู้หรอกในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะโดนย้อนศร ขอดเกล็ดหรือเปล่า เพราะความแค้นมันฝังหุ่น บางคน จริงๆก็ส่วนใหญ่แหละไม่ปล่อยวาง ล้างแค้นสิบปี ไม่มีสาย ถ้ามีแต่คนที่เราไม่ชอบเต็มไปหมด แล้วเราประกาศให้โลกรู้ แน่นอน หากมีอะไรต่อไป คนพวกนี้ อาจจะเด่นดัง ใหญ่โตขึ้นมา วันนึง เราอาจจะต้องเกี่ยวข้อง หรือไปพึ่งเขา ขอให้เขาช่วย แต่มันคงไม่ได้เพราะหาเรื่องเขาก่อนแล้ว...

เจอคนเยอะๆ ก็จะเห็นอะไรหลากหลาย

อย่าทำตัวเป็นคนโลกแคบ ออกไปพบปะผู้คนบ้าง ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างอายุ ต่างอาชีพ เขามีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน อย่าคิดว่าใครๆก็คิดเหมือนกับเรา ต้องระวังหลงตัวเอง การรู้จักจากคนเยอะๆ ทำให้เราเข้าใจคน จะได้รู้ทัศนคติของคนแต่ละคน มีไอเดียในการมองโลกของความจริง คนแต่ละสาขาวิชาชีพก็จะมีความถนัดไม่เหมือนกัน มีความเชื่อไม่เหมือนกัน ชาวสวนก็คิดอย่าง ชาวเมืองก็คิดอย่าง คนที่คงแก่เรียน ดร. ก็คิดอย่าง ชาวบ้านก็คิดอย่าง รู้จักมากๆ เราจะได้ไม่คิดไปเอง คุยกับใครจะได้รู้เรื่อง สร้างเรื่องได้เหมาะกับกลุ่มคน RIZseemoreppl

เมื่องานมันเครียด คิดไม่ออก ก็ทำอีกงาน

บางคนบอกว่าทำงานแล้วเครียด คิดไม่ออกก็ต้องไปพักผ่อน ผมเห็นด้วยนะครับ ว่าพักผ่อน แต่จะพักผ่อนอย่างไร กับอะไร บางคนไปเที่ยว ก็ดีครับ แต่บางคนหาอะไรทำอีกอย่าง เพื่อผ่อนคลายสิ่งที่ทำอยู่หลักๆ แม้ว่ารองๆ ก็เป็นเรื่องงานอีกงาน แต่มันก็ดึงความสนใจ ทำให้เพลินๆไปได้เหมือนกัน แม้คนอื่นจะบอกว่าทำงานอีกละ แต่มันก็อีกงาน เพื่อความผ่อนคลาย เราเองย่อมรู้เอง ไม่ต้องให้คนอื่นมารู้หรอกครับ เพราะเขาไม่เข้าใจ RIZanotherjob

ภาษากาย

การที่พูดโดยที่เราไม่พูดนั้น มันก็คือการแสดงออกทางท่าทาง บางที พูดอย่างแสดงอีกอย่าง คนเห็นก็เชื่อในภาษากายมากกว่า เช่น เรากินอาหารแล้วไม่อร่อย แต่เราบอกอร่อย แต่ร่างกายยี้มันออกมา คนเห็นก็รู้ได้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่การที่ฝึกแสดงออกภาษากายให้ตามสิ่งที่เราพูดนั้น แรกๆก็ออกจากยากหน่อย แต่คำแนะนำของผมคือ แกล้งทำไปก่อน สักพักมันก็จะได้เอง ถ้าเราไม่ฝึก แม้จะขัดกับความรู้สึก แต่จะให้รู้สึกตลอดเวลามันก็ไม่ได้ แกล้งๆไป เก่งแล้วมันจะเนียนเอง คนดูไม่รู้ มีแต่เรารู้ว่าเราอยากบอกอะไร RIZbodylanguage

ทำมากกว่าคนอื่น ย่อมได้มากกว่าคนอื่น

การทำงานของคนที่จะประสพผลสำเร็จนั้น มันต้องผ่านช่วงหนึ่ง หรือฝึกจนเป็นนิสัย การที่เราทำงาน 8 ชม.เท่าคนอื่นนั้น เราก็จะไม่ได้แตกต่างจากเขา ถ้าเราทำเพิ่มมากกว่า 10% เราย่อมดีกว่า 10% ถ้าเราทำมากกว่า 50% ก็ย่อมดีกว่า 50% ถ้าเราทำมากกว่า 100% ก็ย่อมดีกว่า 100% ดีกว่าไม่ใช่รวยกว่า แต่มันอาจจะรวยกว่าก็ได้ มันเป็นการฝึกฝน เพื่อเกิดความชำนาญ มีทักษะเพิ่ม เพราะมันเป็นประสพการณ์...