ทำสำเร็จไม่ใช่เพราะว่าเรามี แต่เพราะว่าเราสู้

ความสำเร็จ มันไม่ใช่อะไรที่ต้องมีก่อนถึงจะสำเร็จได้ ไม่ใช่มาจากความเพรียบพร้อม ต่อให้คนมีความเพรียบพร้อมก็ไม่แน่จะสำเร็จได้ และยิ่งความไม่พร้อมด้วยเหตุต่างๆการณ์ต่างๆทำให้เรายิ่งต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจะสำเร็จได้ ใช่ครับ สู้ครับ เห็นนักรบ ไม่ใช่ต้องมีอาวุธครบถึงจะชนะ มันแค่ได้เปรียบ แต่เพราะเราสู้ ยิ่งไม่มี ยิ่งด้อยกว่า เราย่อมต้องคิดแผน คิดถึงตัวช่วยเท่าที่เรามีหรือหาได้ สู้ครับ สู้ สู้ไป ยังไงเมื่อใจมา เรากล้าก้าวกล้าลุย มันก็ใกล้ความจริง จนกว่าจะถึงความสำเร็วที่ไม่ไกล RIZfight https://www.facebook.com/rizthink

ถ้ารีบ ทำอะไรได้ ทำก่อนเลย

ในช่วงแห่งความผิดปกติ ผมว่าคงไม่มีคนที่เตรียมแผนรับมือได้เต็มร้อย หากมีการเตรียมตัวมาก่อน มันก็ย่อมดีกว่า แต่ใดๆล้วนแล้วไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ปัญหาที่โถมเข้ามาย่อมไม่มีรูปแบบและคำเตือนที่แน่ชัด ว่าฉันจะมาแบบนั้นแบบนี้ แม้ควรจะวางแผนให้ละเอียดถ้วนถี่ แต่ถ้าเวลามันเร่งจนไม่มีเวลาวางแผน อะไรที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็ต้องทำไปก่อน อย่าปล่อยให้ว่าง อย่าทำให้ dead air มีอะไรทำได้ทำไปก่อน รวบรวมประสพการณ์ เชาว์สติปัญญา ทำเลยครับ เรียกว่าแก้ไขเฉพาะหน้า เพื่อซื้อเวลาวางแผนที่ดียิ่งขึ้น ทำไปแก้ไปอย่างมีชั้นเชิงและยั่งยืน RIZbetterhurry https://www.facebook.com/rizthink/

ในวิกฤติ สภาพคล่องสำคัญกว่ากำไร

ไม่ขายไม่ขาดทุน หรือขาดทุนไม่ขาย ถ้าในเวลาปกติที่เราก็ค้าขายพออยู่ได้แล้วก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่พอในวิกฤติ สภาพคล่องมันหายไปจากตลาด เราจำเป็นต้องคิดใหม่ ถ้าไม่มีเงินมาหล่อเลี้ยงองค์กร หรือส่วนตัวนั้น จะเป็นปัญหา กำไรจริงๆ เกิดจากการขายได้ ไม่ใช่กำไรที่คิดว่าจะขายแล้วได้เท่านั้นเท่านี้ แต่ขายไม่ได้ แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด อย่างตัวเราเอง อะไรไม่จำเป็นก็ขายๆออกไปบ้าง ให้มีสภาพคล่อง ให้ได้จับเงินสด เพื่อความปลอดภัย ยิ่งวิกฤติอะไรไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้นได้ ของถูกเต็มตลาดเพราะทุกคนต้องการเงินสดมาเป็นสภาพคล่องให้หล่อเลี้ยงให้อยู่รอด ให้ตายช้ากว่าวันนี้ หากโชคดีอยู่จนวิกฤติผ่านไป เรายังกลับมาตั้งตัวได้ แต่พวกหยิ่งๆ...

เมื่อเวลาไม่เข้าข้าง เราจะช้าไม่ได้

สายน้ำไม่ค่อยท่า วันเวลาไม่เคยรอใคร มันก็คงจะจริง หากเราจะเรื่อยๆเปื่อยๆ หรือจะพยายามตั้งใจอย่างไรก็ตาม เราจะช้าไม่ได้ ปล่อยปะละเลยว่าค่อยๆทำไม่ได้ เราต้องแข่งกันมัน คุณเวลา เวลาเป็นสิ่งที่จะหมดไปเรื่อยๆ อย่างน้อยชีวิตเราก็มีจำกัด เมื่อเรารู้ว่า เวลามันไม่เคยคอยเรา เราควรจะเคารพกฎ และทำตัวอยู่ในกรอบเวลา หรือสร้างกรอบในเวลาอีกทีหนึ่ง เพื่อจะได้ให้เสร็จกิจในเวลาที่เราตั้งเงื่อนไขไว้ RIZtime https://www.facebook.com/rizthink/

ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก่อนค่อยไปช่วยเหลือคนอื่น

คนไทยก็เป็นคนที่ขี้สงสาร เห็นใครมีปัญหาหรือเดือดร้อนแล้ว ก็อยากจะช่วยเหลือ และดันสังคมเรามองว่า เจอคนที่ลำบากไม่ช่วยเหลือ ถือว่าเป็นคนไม่ดี คนเห็นแก่ตัว ก็เลยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะการอยากช่วยเป็นสิ่งที่ดี แต่ช่วยได้หรือไม่นั้น เราไม่ได้เอามาคิดต่อ จริงๆไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัวนะครับ ถ้าเราเจอคนลำบากแล้วเราไม่ได้ช่วยเขา แต่เราก็ต้องมีเหตุผลที่ไม่ช่วยด้วยเหตุอันสมควร ไม่งั้นใครๆก็มาขอให้เราช่วยแล้วเราต้องช่วยก็ตายพอดี หรือช่วยไม่ได้ก็ใจเหลือเกินที่จะช่วยแล้วมันเบียดเบียนตัวเอง จึงต้องมีเงื่อนไขของการที่จะช่วยเหลือคนอื่น เช่น เราเหลือแล้ว จึงเอาส่วนเกินไปช่วย เรามีแล้วพอสมควร สามารถช่วยคนอื่นโดยไม่เบียดตัวเองเป็นต้น เอาที่ทำได้ อย่าไปสนใจคำพูดหรือสายตาคนมอง เพราะเราอยู่กับตัวเอง...

แก้ไขปัญหา ต้องให้ตรงจุด

ปัญหาที่มันมีทุกวัน เป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข การจะข้ามพ้นเรื่องราวไปได้ ก่อนอื่น พอเจอปัญหาต้อง คิด วิเคราะห์ และทำ อย่าพอเจอปัญหา ก็แก้ไป สักแต่คิดว่าแก้ เพราะถ้าแก้ไม่ตรงจุด แล้วคิดหรือบอกคนอื่นว่าแก้แล้ว ปัญหาก็ไม่ได้หายไปแต่อย่างไร มันก็ใช้ไม่ได้ จะแก้ต้องแก้ให้ตรงจุด อย่าทำเหมือนผักชีโรยหน้า เอาตัวรอดเป็นคราวไป เพราะมันถ้าถึงจุดนึง มันไม่รอด แต่เอาจริงๆคือ มันไม่รอดแต่แรกแล้วคิดว่ารอดกันไปเอง RIZrightpoint https://www.facebook.com/rizthink/  

แนะนำได้ แต่จะให้เข้าใจแทนทำไม่ได้

เมื่อคุณถาม ผมก็ตอบ เมื่อคุณสงสัย ผมก็สอน เมื่อคุณไม่รู้ ผมก็แนะนำให้ แต่ถ้าผมบอกคุณแล้วคุณไม่เข้าใจ จะให้ผมบอกอีกรอบก็ได้ ช้าๆชัดๆ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเข้าใจได้เหมือนผม มันต่างกันเลยนะครับ เพราะคุณต้องเข้าใจของคุณเอง มันต่างกันตรงนี้ เพราะผมก็ไม่ใช่คุณ และคุณก็ไม่ใช่ผม RIZwhenitellyou https://www.facebook.com/rizthink/

ทำดีกับใคร ใช่ว่าจะได้ดี แต่ก็ควรทำดีต่อไป

เมื่อเราทำความดีกับใครสักคน 1 ดีกลับ 2 ร้ายกลับ หากเราทำดีแล้วถูกคน เขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนในความรู้คุณค่าในทันที แต่อย่างน้อย ถ้าเขาเป็นคนดีโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แล้วลำบาก เราช่วยเขา เขาก็จะไม่ลืมเรา วันใดวันหนึ่งวันหน้า เขาอาจจะช่วยเราในยามที่เราต้องการก็เป็นได้ หากทำดีไม่ถูกคน ดันไปทำกับคนที่ไม่รู้คุณคน ถึงแย่แค่ไหน น่าสงสารแค่ไหน เราช่วยเขาไปแล้ว เขาก็ไม่สนเรา แม้ตอนที่ช่วยจะพูดดี อ่อนน้อมแค่ไหน พอถึงเวลาเขาไปได้ เขาก็ไม่เห็นหัวเรา ยิ่งถ้าเราขอให้เขาช่วย...

ภูมิคุ้มกัน

การที่เราจะได้ภูมิคุ้มกันนั้น มันต้องมาด้วยสองแบบ แบบแรกคือป่วย แล้วไปหาหมอให้ฉีดยาให้ อย่างที่สองคือ ป่วย แล้วทนได้หายเอง จริงๆแบบแรกมันก็ดีกว่า เพราะว่ามีตัวช่วย มีโอกาสรอดสูง ถึงมันจะไม่ร้อยเปอร์เซ็น เช่นเดียวกับการที่เราทำอะไรผิดไป แล้วเราไปหาคนมาแนะนำ ถ้าเขาเป็นคนรู้ ก็โอกาสรอดสูงหน่อย ถ้าเราเชื่อแล้วทำตาม แต่ถ้าไปหาคนแนะนำ หรือมีคนที่ดีมาแนะนำแล้วไม่ฟัง ก็เหมือนไปหาหมอแล้วก็ไม่ยอมฉีดไม่ยอมกินยา แต่อีกทางคือ ป่วยแล้วทนได้หายเอง พวกนี้ ไม่รู้ว่ารู้ตัวว่าป่วยหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าอาจจะรู้สึกตัวว่าแปลกๆไป เป็นไข้...

วิกฤตินั้นกลัวมากไป ดีกว่ากลัวน้อยไป

คนเราถ้าไม่ผ่านเรื่องร้ายๆจริงๆจะไม่รู้หรอกว่ามันแย่แค่ไหน ถ้าคิดว่าเคยผ่านเรื่องเล็กๆน้อยๆ แล้วคิดว่านั่นแย่แล้วและผ่านได้ คิดใหม่นะครับ คำว่าแย่มัน มันไม่ใช่แบบที่พูดกันเกลื่อนๆ เกริ่อๆ แบบเวลาทั่วไป เวลาที่ไม่ทั่วไป แย่นั้น ถ้าเราไม่เตรียมตัวเตรียมใจหรือเตรียมอะไร มันจะดึงเราดิ่งลงสู่เหว ที่เราคิดว่าแย่แล้วมันจะยิ่งกว่าเสียอีก ความมืดแบบมืดมิดไม่มีแสงอะไรเล็ดลอดมา แม้มองมือตัวเองยังไม่เห็น ถ้างั้นไม่ต้องคิดอะไรมากครับ เตรียมอะไรไว้ได้แค่ไหน ให้เตรียมไว้ กลัวได้มากแค่ไหนก็กลัวไว้ แล้วมันต้องวัดกัน ว่าแย่จะผ่านไปก่อนถึงจุดตั้งรับของเราหรือไม่ คนที่คิดน้อย จุดตั้งรับก็จะต่ำ หรือไม่มีเสียด้วยซ้ำ ถ้าเราคิดมาก...