ถึงใจร้อนยังไง ทำงานก็ต้องใจเย็น

เจออะไรขัดหูขัดตาไปหมด ตั้งแต่ตื่น เจอรถติด หงุดหงิด เจอคนปาด ตะโกนด่ามันอยู่ในรถตัวเองแช่งมัน เจอคนแย่งที่จอดบีบแตรระบายอารมณ์ยาวๆ
อันนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว แม้จะไม่ควรก็ตาม
แต่เมื่อเข้ามาในที่ทำงาน หรือต้องทำงาน ต้องรีบลอกความใจร้อนทิ้ง หน้าหงุดหงิดออกไป ยิ้มแล้ว ก็พูดว่า คร๊าบบบบ ได้คร๊าบบ ทำได้คร๊าบบบ มันจะทำให้งานราบรื่นไปกึ่งนึง
เมื่อเราใจร้อน เราต้องการให้คนอื่นใจเย็นกับเรา ยอมเรา แต่ในขณะเดียวกันคนอื่นก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น มีใจร้อนมา ก็อยากมาได้ความสบายใจ แต่ถ้าเมื่อคนใจร้อนสองคนมาคุยกัน คงไม่ได้คุยกันด้วยสติ พกอารมณ์มาเต็ม คงจะสาดเสียเทเละกันก่อน ที่จะได้สติใจเย็นลงได้ ก็คงมาขอโทษขอโพยกัน หรือไม่ก็หนักๆ ก็เลิกคบกันไป

การอยู่ร่วมกับคนอื่น เราไม่อยากเจอปัญหา ไม่อยากให้คนอื่นมีปัญหา เราก็ต้องพยายามไม่มีปัญหากับคนอื่นด้วยเช่นกัน
เราหวังอะไร เราก็ต้องระลึกถึงใจเขา ใจเรา ไม่ใช่แค่เราไม่สร้างปัญหาแล้วจะดี จะให้ดียิ่งกว่าก็ต้องเป็นผู้ที่ประสานรอยร้าว และช่วยเป็นน้ำเย็นดับความร้อน

ปัญหาส่วนใหญ่ของการทำงานคือ ไม่ได้ทำงาน ถ้าได้ทำงาน หรือบรรยากาศเป็นใจให้ทำงาน ก็จะได้งาน

RIZพยายามใจเย๊นเย็น