วงจรอุบาทว์ในการค้าที่ไร้หัว

ปกติแล้วหากอะไรเป็นกระแส คนก็จะแห่ตาม เมื่อตามจนเฝอถึงระดับหนึ่ง คนก็จะเลิกรากันไป
ยกตัวอย่าง
ปากซอยบ้าน มีร้านขายข้าวมันไก่อร่อยมาก มีคนกินเต็มร้านล้นจนยืนรอออกมานอกร้านต่อคิวยาว
พ่อค้าหัวใส ก็เลยเปิดร้านขายข้าวมันไก่ ขึ้นถัดจากร้านแรก ปรากฎว่า ก็ขายดีเหมือนกันร้านแรก
พอพ่อค้าคนอื่นมาเห็น ก็เห็นว่า ถ้าเปิดข้าวมันไก่แถวนี้ต้องขายดีเหมือนร้านแรก ก็เลยแห่มาเปิด
ถนนทั้งสายมีเป็นสิบกว่าร้าน พอเปิดเป็นสิบกว่าร้านนั้น คนก็ยังชอบกินร้านแรกเป็นหลักอยู่ ร้านหลังๆ ก็ขายไม่ออกเงียบเหงากันไป
ตอนนี้ร้านหลังๆ ก็เลยจุดสงครามราคาลดแลกแจกแถม มันก็ทำให้คนแห่มากินร้านที่ลดราคา ส่วนร้านแรกก็คนลดน้อยลงไป แต่ที่ลดราคามานั้น เข้าเนื้อขายขาดทุน ทำให้ไปๆมาๆ ร้านที่เปิดก็ปิดตัวลง ไปทีละร้านสองร้านเจ๊งกันไป
สุดท้ายเหลืออยู่สามร้าน
แต่สามร้านนี้ก็เฉลี่ยพออยู่ได้ ร้านแรกก็ขายดี แต่ก็ไม่ดีเหมือนที่ผ่านมา ร้านสองก็เก็บตกร้านแรก และร้านสามก็เก็บคนที่ไม่อยากรอร้านแรกและร้านที่สอง

และปกติ นี่คือวงจรของไทย อะไรดีก็แห่กันทำ แห่กันทำเป็นบ้าเป็นหลัง ขอให้ตามกระแส พอขายได้ ก็สั่งเข้ามามากๆตุนไว้ พอเริ่มขายไม่ได้ ก็เทของในราคาถูกๆ บางที และบ่อยทีก็เข้าเนื้อ เจ็บตัวกันไป

หากเราทำอะไร ที่เป็นการต่อยอดต่อเติมย่อมดีกว่า
1 เราไม่ได้แข่งขันกับเจ้าตลาดหลัก
2 เราช่วยส่งเสริม เกื้อกูลกัน ระหว่างเจ้าตลาดกับเรา
3 มอบคุณค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภค

เช่น ถ้าข้าวมันไก่เขาขายดีอยู่แล้ว เราก็ควรจะเปิด ร้านน้ำ หรือร้านขนม ร้านของฝากอยู่ข้างๆ ในขณะที่คนรอ ก็ย่อมมาซื้อหาสินค้าของเราด้วย ทั้งยังไม่ทำให้คนเบื่อในการรอ

บางมุม ตั้งใจจะรวยเหมือนเขาเกินไป มันก็พังง่าย
แต่ถ้าเป็นมุมที่ต่อยอดต่อเติมมันก็ดีง่าย

RIZmorethandirectfight