ทุกวันที่ผมเปิดหน้าเฟสของผม ส่วนหนึ่งก็มี พวกที่ ก๊อบปี้ลิ๊ง หนังสือดีๆ โพสแชร์อยู่เป็นเนืองๆ แต่ด้วยความสงสัยอันเป็นนิสัยส่วนตัวนั้นลอยมาเป็นคำถามตัวโตๆว่า ไอ้ที่แชร์ๆนะ อ่านกันบ้างไหม ของดีที่อยากแบ่งปัน ก่อนจะแบ่งนี่ตรวจทานกันหรือยัง
ไอ้แชร์แล้วได้บุญๆ ก็เลยแชร์กันหน้ามืดตามัว แชร์กันตามกระแส เค้าแชร์มาเราก็แชร์ต่อ บอกต่อไปเป็นลูกโซ่ ไม่ได้กรองว่ามันเรื่องจริงหรือหลอกลวง หรือเป็นเรื่องจริงที่เก่าแล้วยังเอามาเล่นใหม่เป็นละครน้ำเน่าได้เรื่อยๆ
ขึ้นชื่อว่าบุญ ขึ้นชื่อว่ารวย ใครๆก็อยากได้ แต่การที่ได้มาโดยไม่ได้คิด มันก็เหมือนไม่เข้าใจเหตุผลปัจจัยของสิ่งๆนั้น คล้ายเป็นการที่ลบหลู่สิ่งนั้นให้ดูด้อยค่าลง ถ้าแชร์แล้วได้บุญมันก็มีเหตุ มีปัจจัย เช่น คนแชร์มีใจบริสุทธิ์ อยากให้ประโยชน์แก่ใครหรือคนทั้งหลาย คนรับก็ได้นำสิ่งนั้นไปเป็นเพื่อประโยชน์หรือพัฒนาตนเองหรือคนรอบข้าง ไม่ใช่ทำอะไรหยาบๆโยนๆไปแล้วคิดว่าได้บุญ ใครจะมาสาธุกันละ
ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังสือมันก็มีดีทั้งนั้นแหละ ยิ่งทุกวันนั้น การแบ่งปันไม่จำเป็นต้องเอาหนังสือมาให้แค่ส่งไฟล์มาก็ถึงผู้รับได้อ่าน แต่ใครจะได้อะไรแค่ไหน คำพูดนี้มันสำหรับคนอ่าน แต่คนปัจุบัน ใช้ชีวิตกันแบบรีบเร่ง บทความยาวๆยังไม่อ่าน อ่านเร็วๆก็อ่านแค่หัวข้อ คำโปรย บางทีก็อ่านไม่จบ ก็มาแสดงความคิดเห็นกันแล้ว แล้วมันจะได้เรื่องเป็นเรื่องเดียวกันหรือ เห็นเถียงกันไปเถียงกันมาออกทะเล แบบกู่ไม่กลับ จับไม่ได้รู้เลยว่าต้นทางหรือผู้ที่เขียน เขาต้องการจะบอกหรือสื่ออะไร
แต่รวมๆแล้วคือ
1การอ่านดีกว่าการไม่อ่าน
2อ่านมากดีกว่าอ่านน้อย
3อ่านแล้วคิดดีกว่าอ่านแล้วจำ
4อ่านแล้วทำมันก็ดีอ่านแล้วคิด
5ปรับใช้ดีกว่าลอกตรง
คนที่อ่านหนังสือโดยไม่คิด มักจะเชื่อหนังสือและนำมาอ้างอิง ก็ดีแต่ไม่จะไม่เก่งไปกว่าคนเขียน
แต่คนที่อ่านหนังสือแล้วคิด มันจะเอามาปรับใช้กับชีวิตเพื่อพัฒนาไปสู่ความเจริญก้าวหน้าได้
RIZอ่านทุกวัน