Author: admin

คิดถึงตอนช่วงหน้าหนาว แล้วต้องอาบน้ำเย็น มันหนาวถึงกระดูก ถ้าสำหรับคนที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร แต่จินตนาการตามผมนะครับ ถ้าคุณไปอยู่ที่ดอย แล้วต้องอาบน้ำโดยไม่มีไฟฟ้า ผมว่าแต่ละคน กว่าจะกลั้นใจไปอาบน้ำได้ คิดแล้วคิดอีก และยิ่งคิดนาน ท้องฟ้าก็ค่ำลงเรื่อยๆ และแน่นอนอุณหภูมิมันก็หนาวลงเรื่อยๆเช่นกัน คิดว่าจะ ว่าจะ ว่าจะ นานเข้าจะยิ่งหนาวขึ้นไปอีก ก็ยิ่งทำให้คิดนานขึ้นไปอีก และพอคิดได้แล้ว และไปอาบน้ำ ซึ่งตอนอาบน้ำก็จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกที่ปลงตก คือ อาบเลย เอาราดหัวเลยซู่...

ความสำคัญ เรารู้ใช่ไหมครับว่าคืออะไร แต่เมื่อ คุยเรื่องเดียว แต่คนละคนก็ให้ค่าที่ไม่เท่ากัน มันไม่แปลกหรอกครับ เพราะตอนที่คุณให้ค่ามัน มันสะท้อนหลักการ วิธีคิด และโดยอย่างยิ่งประสพการณ์ แม้ว่าเราจะยอมรับในความไม่เหมือนกัน แต่เราก็รับในบริบทที่ต่างกันด้วย หากเช่น เราเห็นด้วย ว่าสำคัญแต่มันต่างกัน แล้วหากต้องตัดสินใจ ก็ควรพิจารณา เงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวข้อง ค่อยตัดสินใจ ซึ่งบ่อยครั้งทีเดียว ไม่อาจจะทำให้เกิดความลงตัวได้ แต่ก็ให้พยายามให้มากที่สุด เพราะสุดแล้วก็เท่านั้น เอง RIZmeasure...

เราต้องหาความสมดุลย์ระหว่างใจๆ และความสามารถ บางคนมีแต่ใจ แต่ไม่มีตัง มันก็ลงทุนไม่ได้ เพราะมันต้องใช้ตัง บางคนมีตัง แต่ก็ไม่มีใจ มันก็ไม่ยอมลง เพราะมันต้องใช้ตัง ความลงตัวของสองอย่างมันต้องมี ถ้าใจพร้อมตังพร้อม ลุยได้ครับ แต่ถ้าใจไม่พร้อม ตังไม่พร้อม ไม่ต้องไป เพราะจะลงทุนได้ต้องมีตัง อยากให้เข้าใจ เพราะมีใจอย่างเดียวไม่พอ ไม่ต้องโกรธกัน เพราะคนเรามันต้องรู้ตัวเอง และหาความพอดี RIZwillandability https://www.facebook.com/rizthink/

การจะตัดสินอะไร มันไม่ได้ใช้ความรู้สึก เพราะความรู้สึกของคนทุกคนมันไม่เท่ากัน ยิ่งอยู่กับคนหมู่มาก ยิ่งต้องมีมาตราฐาน จะเอาตามอารมณ์ของสังคมมันไม่ได้ เพราะอารมณ์ไม่ได้มากจากหลักการ แต่มันมาจากการปลุกปั่นของใครสักคน อยากให้สังคมดำเนินต่อไปได้ ก็ต้องหามาตราฐาน ที่ทุกคนต้องทำตาม หากไม่ดีก็ไปแก้มาตราฐาน ไม่ใช่ติดสินขัดกับมาตราฐานเพราะเพียงแค่เอาถูกต้องเป็นที่ตั้ง ไม่งั้นอยู่ร่วมกันยาก RIZrole https://www.facebook.com/rizthink/

ปกติ คนเราชอบประเมินสิ่งต่างๆ ต่ำกว่าความเป็นจริง หรือบางทีก็ยังเข้าข้างตัวเองเสียอีก หากเรานึกเร็วๆว่า เราต้องกินต้องใช้อะไรบ้าง เราก็คิดแบบหยาบๆทั่วๆไป มันก็พอที่จะครบอยู่ แต่มันไม่ครอบคลุมกับความเป็นจริงที่บางทีเราก็ไม่ได้นึกถึง เช่น เราอาจจะคำนวณค่าข้าวหยาบๆว่าเดือนนึงเราใช้เท่าไร อาจจะใช้มาตราฐานเฉลี่ยเป็นข้าวแกง แต่ในความเป็นจริงบางครั้งเราก็ทานสเต๊ก ทำให้สิ่งที่ประมาณการคลาดเคลื่อน หรือบางที เราก็ไม่ได้คิดในสิ่งที่ ไม่ใช่เป็นเรื่องประจำ เช่น รักษาพยาบาล หรือซ่อมบำรุงบ้าน รถ เป็นต้น มาพูดถึงความเสี่ยง หากไม่มีประสพการณ์มาก่อน เราก็ย่อมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้น...

จะว่าเป็นเรื่องของสังคมที่คนส่วนใหญ่ก็ชอบอวดกัน แล้วปัญหาก็เกิดตามมาว่า จะมีคนอิจฉา คนที่อยากเป็นแบบนั้น คือถ้ามีจริงรู้จริงก็ไม่ว่า แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ควรแหละครับ การอยู่แบบไม่เป็นที่จับจ้องย่อมมีความคล่องตัวกว่าทั้งขึ้นและลง ขึ้นก็หมิ่นเหม่ต่อการโดนหมั่นใส้ ลงก็โดนเหยียบหยาม การดำรงค์ตนให้อยู่รอดปลอดภัย มันต้องอยู่มากกว่ารู้จริง มันต้องเอามานำใช้ได้ เพราะไม่พูด เขาก็คิดว่าเราไม่รู้ เมื่อไม่รู้ย่อมไม่มีปัญหา ไม่เกิดเรื่อง แต่พวกรู้ แล้วยิ่งเจอพวกจับแม่มด คอยไล่จับผิด นิดเดียวก็ไม่ได้ หาเรื่องจัง เลยไม่ได้สงบกันพอดี ปัญหาเกิดตลอด RIZknowning...

ยิ่งโลกหมุนเร็วเท่าไร ปัญหามันก็วิ่งเข้ามาเร็วขึ้นตามไปด้วย ยิ่งไปรู้เรื่องมาก ใช่ครับ ปัญหาก็มากเรื่องด้วย ข้อมูลข่าวสาร วิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันก็ทำให้เราต้องคิดต้องจัดการ ถึงจะอย่างไร เราก็มี หนึ่งหัว สองมือ จะต้องทำทุกอย่างที่เข้ามาไม่ได้ ถึงคนอื่นจะพุ่งเข้ามา หรือเรื่องเข้ามาหาเรา และมันรีบด่วนเสมอ เราก็ต้องเลือก และถามตัวเองว่า เรื่องนี้ด่วนไหม เราต้องจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรสำคัญและเร่งด่วนที่จำเป็นต้องทำก่อน ก็ทำเรื่องนั้น จะให้ทำทุกเรื่องที่วิ่งเข้ามาก็ไม่ไหว และเยอะเรื่องที่มามันไม่เป็นเรื่อง RIZurgent...

ในเกมส์บางเกมส์มันมีหลายด่าน ที่แข่งกัน แน่นอนครับ การอยากจะชนะทุกเกม perfect winning เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ และก็ดูพยายามเสียเหลือเกินที่จะเอาชนะแบบนี้ให้ได้ ซึ่งมันเป็นไปได้ยาก และมันก็ไม่ได้เหมาะสมกับการอยู่ร่วมในสังคม เพราะถ้าเราชนะเขาอย่างเดียว กินเงินเขาตลอด ใครจะคบค้าสมาคมกับเรา และการกระทำแบบนี้ ถือว่าไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีศิลป์ เพราะการแพ้บ้างชนะบ้าง มันเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่ง บางครั้งที่แพ้ มันเป็นการหลอกล่อ สร้างความไขว้เขว แม้บางครั้งมันทำให้เราเสียเงินหรือเสียทรัพยากรไปบ้าง แต่จะเป็นอะไรละ ในเมื่อ สุดท้ายเราได้กลับมาหมด...

อย่าประมาท อันนี้เอาไว้เตือนสติตัวเอง อย่าคิดอะไรง่าย อย่าเอาประสพการณ์มาใช้อย่างผิดๆ และอย่ามั่นใจอะไรเกินไป มันก็ต้องมีคิดไว้บ้างเผื่อพลาดไว้บ้าง แล้วมาประเมินว่าต้องรับความเสี่ยงแบบไหน ส่วนอย่าอยู่ใกล้คนประมาท ในเมื่อตัวเรามีสติและไม่ประมาทแล้ว ก็ไม่ควรอยู่ใกล้สิ่งที่เป็นความเสี่ยง โดยเฉพาะคนที่ประมาท คิดอะไรง่ายๆ คิดว่าทำได้ มีความมั่นใจโดยไร้เหตุอันควร หากเราอยู่ใกล้แล้วนั้นจะขึ้นชื่อว่าเราเป็นผู้มีสติก็คงไม่ควร เมื่อเป็นผู้น้อย หากเลี่ยงได้ก็เลี่ยงอย่าตามผู้ใหญ่ที่เห็นว่ากำลังเดินตกเหว RIZrisk https://www.facebook.com/rizthink/

เรื่องแย่ๆมีสองแบบครับ คือ 1 เรื่องแย่ๆของคนอื่น กับ 2 เรื่องแย่ๆของตัวเราเอง ซึ่งถ้าหากเป็นเรื่อง 2 เราก็แก้ของเราเอง แต่ถ้าเป็นเรื่อง 1 เราแก้ไม่ได้ครับ ยิ่งเรื่องคนอื่นเยอะ อาจจะมีผลกระทบกับเราจะโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องใช้คือสติ แยกแยะ ว่ากระทบเท่าไหน ก็เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวจะสติแตก จิตหลุดก่อน เช่นนี้เราจึงต้องหัดประคองใจของเรา เพราะใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจเรานิ่งแล้ว...