มันต้องมีอะไรที่เราทำได้สักอย่างสิ

เห็นคนโน้นเก่งอย่างโน้น คนนี้เก่งอย่างนี้ เราก็อยากเก่งอย่างคนโน้นคนนี้ อยากไปหมด แต่ก็รู้ เบื้องหลัง มันไม่ได้มาได้ง่ายๆ โชคไม่ได้ช่วยง่ายขนาดนั้น แต่ถึงกระนั้น เราก็ต้องเข้าใจตัวเอง ว่า มันต้องมีอะไรสักอย่าง สินะ ที่เราทำได้ แต่การที่จะคนหาว่าอะไรสักอย่างนั้น มันก็ต้องลอง ลองผิดไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะเจอถูก ไม่ต้องกลัว เพราะยังไงก็เจอผิดอยู่แล้ว มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามากก็ยิ่งดี อย่างน้อยจะได้รู้ว่า ที่ไม่ใช่เป็นอย่างไร ตัดไปเรื่อยๆ...

ถ้ามีปัญหา ตั้งสติก่อนครับ

โอ้ย เรื่องราวเยอะแยะล้านแปด มีเรื่องราวแน่นอน และทุกคน ตอนที่เราเจอปัญหาที่ยังไม่เคยเจอ แน่นอน อาจจะสตั๊น แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองนิ่งนาน ไม่งั้นเดี๋ยวจินตนาการ มันจะพาเราดำดิ่งลึกไป คิดมากล้านแปด ป่วยการที่จะคิดและมัวแต่ทายอนาคต ให้ตั้งสติก่อนครับ แล้วลิสปัญหามา เขียนเป็นข้อๆ และเขียนทางแก้ ถ้ายังแก้ไม่ได้ หาตัวช่วย ถ้าหาไม่เจอ หาเคสเปรียบเทียบ มันมีทางแก้ และหากไม่มีทางแก้ มันก็มีทางออก จะได้รู้ จะได้แก้ไข...

อย่าบอกว่าเกาเก่งแล้วเกาตรงไหนก็ได้

เวลาคัน เราก็ต้องเกา เกาเก่งไม่เก่งนั้น มันแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน จะใช้เล็บ จะลูบ จะอย่างไรก็ตาม สำคัญอันดับแรกคือ เกาที่คัน ที่ไม่คันไม่ต้องไปเกา ไม่ต้องเกาเผื่อ เพราะไม่คัน ไม่ต้องไปเกาก่อนคัน เพราะยังไม่รู้ว่าคันหรือเปล่า คนที่เกาเก่ง ไม่ใช่เกาไปเรื่อยเปื่อย เห็นเนื้อแล้วเกาดะ มันไม่ใช่นะ คนที่เข้าใจประเด็นของการคัน และเกาให้น้อยที่สุด มันคือใช่ สุดท้ายที่เขาชมว่าเก่ง คือถูกที่ถูกเวลา สั้นกระชับ ไม่มีเผื่อ...

ง่าย และรวดเร็ว

ผู้บริโภคเท่าเดิม แต่ผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น การแข่งขันก็สูงขึ้นตามลำดับ การนำเสนอ จะมัวเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว คิดเป็นหลักการ ค่อยๆคิดค่อยๆทำ ไม่ทันกินแน่นอน จุดเด่น หลายๆอย่าง เช่นงานปราณีต ก็อยากได้ แต่ถ้าต้องใช้เวลานาน มันก็ไม่มีคนรอ สุดท้าย คนก็คิดแล้ว อยากได้เลย ถ้าไม่ได้นี่ไม่ไปซื้อคนอื่น ก็ไม่เอาเลย จะบอกว่าเอาใจยากมันก็ไม่ใช่ แต่ต้องเข้าใจความสัมพันธ์คือ ข้อมูล และเวลา บางคนอาจจะยอมซื้อแพงสักหน่อย ถ้า...

อย่าเสียดายโอกาสที่มันผ่านมาแล้ว

ผมเป็นคนที่มีโอกาสอยู่ในช่วงเวลาสำคัญๆหลายๆอย่าง หลายๆครั้งก็ได้รับโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจ หลายครั้งทีเดียวที่ผมได้รู้อะไรมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ปล่อยผ่านไป แต่พอวันนึง รู้ว่าสิ่งที่ไม่ได้สนใจนั้น หรือสิ่งที่คนชวนนั้น กลับการเป็น talk of the town ทำให้เราน่าเสียใจ อย่าไปคิด อย่าไปพูดถึงมันมาก มันจะเป็นวันดีๆ หรือร้ายๆ มันก็ผ่านมาแล้ว สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ยิ่งความสำเร็จ มันคือ สิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้ ไม่ให้ไปหาสิ่งใหม่ๆ...

เสียสละคนละนิดคนละหน่อย โลกก็น่าอยู่ขึ้นแล้ว

ได้เปรียบใครๆก็อยากได้ เสียเปรียบก็ไม่มีใครอยากจะเสีย แต่สังคมมันอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าทุกคนเอาแต่เอาเปรียบ มันจะไม่เหลือพื้นที่ให้เกี่ยวเกาะข้องแว้งกันเลย แต่พอไม่เป็นสังคม กลุ่มก้อน เป้าหมายที่ต้องใช้หลายหลายคนทำ มันก็ทำไม่ได้ ฉนั้น การอยู่เป็นสังคมกลุ่มก้อน มันต้องมีการเสียสละ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย มันก็มีบ้างที่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน แต่เพื่อให้การณ์ใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงได้ มันก็มีการสับกันไปมาในการเสียสละ ผลัดกัน ร่วมกัน มันก็จะทำให้งานเสร็จ ทุกคนก็ยินดี ได้สมสิ่งที่ทำ RIZhelpingabit

การโทษคนอื่นมันง่าย แต่ทำเองมันยากนะครับน้อง

เจอคนมาก็มาก ฟังคนบ่นมาก็เยอะ แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้ต่างเท่าไรหรอก ไอ้เราก็ไปหาความรู้เพิ่ม เผื่อมีส่วนไหนที่ยังไม่รู้หลงลืมไป มันก็จะได้ฉุกคิดมาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อออกไปมีปฎิสัมพันธ์ ทางมารยาท ก็ต้องทักทาย โอภาปราศัยกันสักหน่อย ถามสารทุกข์สุขดิบบ้าง บางคน ก็รับด้วยมารยาท แต่บางคนก็แนะนำเรา แถมเล่าเรื่องราวที่ให้เราต้องเก็บมานั่งขบคิด แต่จริงๆแล้ว บางคนบ่นให้ฟัง ว่า อยากทำโน่นนี่ แต่ไม่มีคนสนับสนุน ไม่มีหน่วยงาน องค์กร หรือใครที่เข้าใจสนับสนุน...

ถ้าเราไม่มีความเชื่อมั่น อะไรมันก็ผิดไปหมด

ถ้าเราคิดอะไรของเรา มันก็โอเค ที่เราจะทำมัน แต่ถ้าเราอยากทำอะไรที่มันยากๆ แล้วเราไม่รู้ ถ้าเราศรัทธา เชื่อมั่น เราก็จะพยายาม หรือเรื่องแย่ๆบางเรื่อง เราก็มองข้ามไปเพื่อเราจะไป ฝ่าฟันมันไปได้โดยที่เราไม่ได้สนใจปัญหาซะมากนัก ที่จะเป็นอุปสรรคที่จะฉุดรั้งขวางคุณได้ แต่เราไม่มีความศรัทธา ไม่มีความเชื่อมั่น มันก็ดูเหมือนจะผิดไปหมด ทั้งๆที่เป็นเรื่องธรรมดาของมัน มันเหมือนจะทำให้เราอคติ แล้วทุกอย่างก็พัง พัง พัง ย้อนกลับไปเหมือนโดนจับผิด ทั้งๆที่มันไม่ผิด เดี๋ยวทำอะไรก็เหมือนจะผิด แต่ถ้าคิดว่าถูก ไม่ว่าผิด...

ให้โอกาสตัวเองบ้าง

รู้าสึกท้อแท้ จนไม่อยากทำอะไรไหมครับ ทั้งๆที่เราพยายามเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่สำเร็จ หรือบางทีเรียกว่าล้มเหลวเลยก็ได้ มันคงหมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ล้มแล้วก็ขอนอนพักก่อน นอนกองตรงนั้นแหละ อยู่กับ safe zone ที่เป็น comfort zone เพราะมันปลอดภัย จริงๆ เพราะมันคุ้นเคย อยู่กับโลกเดิมๆ ที่ชินอยู่แล้ว กลับในที่ๆเราเคยทำได้ แต่ทุกอย่างมันเป็นอดีตที่เราคิดว่ามันเป็นปัจุบัน timeless ต้องเข้าใจก่อนว่า ถ้าผิด...

ไม่ใช่คนพูดถูกต้องอย่างเดียว คนพูดต้องน่าเชื่อถือด้วย

สงสัยไหมครับ คนบางคนพูดชุ่ยๆ มั่วๆ ยังมีคนฟังที่เชื่อ และทำตาม แต่อีกคน พูดถูกเหมือนสรุปออกมาจากตำรา แต่ก็ไม่มีคนฟังและสนใจ เหมือน วอเรน บัฟเฟต พูด สมัยก่อน ตอนที่ยังไม่ดัง ไม่รวย พูดอะไรใครก็ไม่ฟังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ ดังแล้ว รวยแล้ว พูดผิดๆถูกๆ คนยังเอาไปตีความหมาย ไปทำตายเลย ทั้งหลายทั้งปวง มันก็มาจากความน่าเชื่อถือ เครดิตของผู้พูด...