อย่าทิ้งความฝัน และทำได้แล้ว จงทำให้มันใหญ่ขึ้น

ตอนเด็กๆ มีพูดกันว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร พอโตมา ก็ต้องทำงาน ไม่รู้จะได้ทำอย่างที่ตอนเด็กๆคิดหรือไม่ แต่พอ ทำงานไปๆ อ้าวที่คิดไว้ ไม่ได้ทำ ชีวิต มันโดนขับเคลื่อนด้วย สิ่งที่ต้องทำ ได้เงินมาซื้ออาหาร จ่ายค่าโน่นนี่ แต่จิตใจเราละ มันยังขาดอยู่ ความฝันมันเป็นสิ่งชุบชีวิตและความรู้สึก หากได้ทำแล้ว มันย่อมเหมือนอยู่ในพวังค์ ถ้าเราได้ทำมัน แต่หากทำแล้วดี ทำได้แล้ว ทำแล้วมีความสุข จนขยาย...

ยิ่งถ้าเรายอมรับว่าเราไม่รู้ เราไม่เก่ง ยิ่งทำให้เราเรียนรู้ได้ไวขึ้น

คุยกับคนที่เรามองเขาว่าเก่ง เราไปถามเขา เขาก็จะตอบว่าเขาไม่เก่ง แต่ถ้าไปคุยกับคนที่เราว่าเขาไม่เก่ง เขาจะบอกว่าตัวเขาเก่งเต็มประดา คนที่คิดว่าตัวเองไม่รู้ ย่อมต้องขวนขวายหา หาโอกาส หาความรู้เพิ่ม และทุกครั้งที่เขาได้เพิ่ม เขาก็ยังหาต่อ และหาต่อไปเรื่อยๆ ทำให้เขาได้สั่งสม มาเรื่อยๆ เขาเลยมีของเยอะ ทำให้เราว่าเขาว่าเก่ง ยิ่งถ้าเรายอมรับว่าเราไม่รู้ เราไม่เก่ง ยิ่งทำให้เราเรียนรู้ได้ไวขึ้น เพราะเรายังพยายามที่อยากจะรู้อยู่ ไม่เหมือนพวกรู้แล้ว มันจะเริ่มปิดหูปิดตาตัวเอง และไม่นานเขาก็ไม่เก่งอีกต่อไป RIZgreatguy

การกระทำย่อมมีความล้มเหลวอยู่แล้ว

ล้มเหลว เป็นสิ่งที่คนกลัว แต่ถ้าทำอะไรแล้ว ย่อมมีโอกาสล้มเหลว ถ้าทำแล้วสำเร็จเลย มันไม่มี ถ้าคิดจะสำเร็จไม่มีล้มเหลว ไม่ต้องทำ แต่ไม่ทำมันก็ไม่มีไม่ได้อะไร เวลาผ่านไป มีแต่อายุจะเหลือน้อยลง อย่ากลัวครับ คิดไปเลยล้มเหลวแน่ๆ แต่ตั้งใจให้ดีที่สุด ละเอียดให้มากที่สุด แล้วทำ แก้ไปทีละเรื่อง ทีละข้อ เดี๋ยวมันได้เอง เพราะทำได้ มันต้องผ่านเรื่องร้ายมาก่อน RIZdoin

เราต้องจริงใจกับคน

เราหวังคนที่จะจริงใจกับเรา เราก็ต้องจริงใจกับเขาเหมือนกัน แม้บางคน ไม่ได้จริงใจกับเรา เราก็ต้องจริงใจกับเขาก่อน แม้ว่าเขาจะลังเลที่จะจริงใจกับเรา เราก็ต้องจริงใจกับเขาก่อน ถ้าเราไม่จริงใจกับใคร ถึงแม้ว่ามีคนจริงใจกับเรา เราก็ระแวงว่าเขาไม่จริงใจอยู่ดี ในท้ายที่สุดเขาก็ออกห่างจากไป จะดีไม่ดี ก็จริงใจกับคนไว้ก่อน เพราะคนดีๆจะรู้สึกได้ ส่วนคนไม่ดีที่ได้รับความจริงใจเราไป ไม่นานเขาก็จากไปเอง RIZtrust

เริ่มต้นจากความกลัว และมันต้องใช้ความกล้า

ทำให้สำเร็จ นั้น มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนรู้ดี แต่คนก็คิดว่ามันง่าย เพราะเขาไม่ได้ทำ ถ้าทำเขาจะไม่พูดแบบนี้ จะแค่เริ่มต้น มันก็กลัวแล้ว เพราะมันต้องเปลี่ยนแปลง ของเดิมจะดีไม่ดีอย่างไร แต่มันชิน เราจับทางได้ แต่ถ้าจะเริ่มต้นใหม่ หรือทำสิ่งใหม่นั้น มันก็เริ่มต้นจากความกลัวทั้งนั้นแหละ กลัวไปเรื่อย กลัวไม่ดี กลัวทำไม่ได้ กลัวไม่มีใครสนับสนุน และมันก็ต้องใช้ความกล้า กล้าที่จะทำ กล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวในสิ่งที่คิดว่าไม่ได้ต่างๆ และนั่นแหละ กล้าเข้าไว้...

ถ้าเจอทางตัน เราก็ไปทางอื่น

ทางที่เดิน เราเดินไปเรื่อยๆ มันก็มีเจออุปสรรคบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มันอยู่ที่ว่าเจออุปสรรค แล้วเราจะแก้ไขปัญหาเดินทางไปอย่างไรต่อ ถนนที่เราเดิน ที่เราคิดว่าเป็นเส้นตรง ทางจริงๆ อาจจะคดเคี้ยว หากเราเดินตรงอย่างเดียว เราจะเห็นอุปสรรคมากกว่า คนที่เดินทางเป็น ที่คอยดูจังหวะ สถานการณ์ รู้หลบ รู้หลีก หากทางมันตัน ถ้าเราจะเดินต่อ เราก็ไปทางอื่น ไม่ต้องฝืน เอาหัวชนทาง RIZroad

คิดน้อย ทำน้อย จะรวยมากได้อย่างไร

เห็นคนอยากได้อะไรง่ายๆ รวยง่ายๆ พอคิดแบบนี้ คนที่มีตรรกะ แยกออกนะ เป็นไปไม่ได้ ของพวกนี้ มันก็ไม่ได้มาด้วยดวงได้ทุกคน ดวงเป็นบุญกรรมนำแต่ง และคาดการณ์จะใช้ไม่ได้ คิดน้อย ทำน้อย หวังรวยมาก เจ๊งแน่ๆ คิดมาก ทำน้อย หวังรวย ยังพอมีทาง คิดมาก ทำมาก หวังรวย อันนี้น่าจะได้ เราจะสู้คนอื่นได้ นอกเหนือจากดวงแล้ว เราต้องทำการบ้านให้มากกว่าคนอื่น...

เราไม่ต้องเรียนจบอะไรมา ถึงทำได้ ขอแค่อยากทำ

เจอคนถาม จบอันนี้มา ทำอันนี้เป็นหรือเปล่า… คือบางที รู้ป่าวว่าที่เรียนมาคืออะไร จบคอมมา ในบางทีก็ไม่ได้เรียนซ่อมคอม จบรัฐศาสตร์มา ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นนายอำเภอ เราจะฟังเพลง เราต้องเรียนจบดนตรีเหรอ เราจะเตะบอลสนุกๆกับเพื่อนฝูง เราต้องจบกีฬามาไหม ถ้าเราอยากทำ เราศึกษาเองได้ ศึกษานอกตำรา เดี๋ยวนี้ก็มีเยอะไป ขอให้ชอบ ขอให้พยายาม ขอให้ทำจริง เดี๋ยวมันก็ได้ แต่ต่อให้เรียนมา ไม่ชอบ มันทำได้แบบแกน อย่าเรียกว่าทำได้เลย...

ของดี ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด

ถ้าเราจะคิดถึงของดี เรามักคิดถึงของดีที่สุดที่มีความเกี่ยวข้องกับราคาแพงที่สุด จุดนี้เราอาจจะเข้าใจผิดทางก็ได้ เพราะ ถ้าพูดถึงความต้องการจริงๆแล้ว เราต้องการอะไรที่คุ้มค่ามากกว่า ถึงแม้ว่ามันไม่ได้ดีที่สุด แต่มันแพงกว่าเงินที่เราจ่ายไป หรือสิ่งที่เราต้องแลกเปลี่ยนมันออกไป คนชอบกินบุฟเฟ่ เพราะมันคุ้ม คุ้มกว่าที่จ่าย คนชอบซื้อของถูก ถึงแม้ว่ามันใช้ได้ไม่นาน อาจจะเป็นของที่ไม่ทนทานด้วยซ้ำไป แต่เราก็จับจ่ายซื้อมันมา เพราะมันคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป แม้ว่าจะเสียสักสิบครั้ง แต่ก็อาจจะถูกกว่าการซื้อดีๆสักครั้ง เราก็เลือกของถูกมากกว่าอยู่ดี ถ้าเราแปลความหมายของความต้องการของคนออกจริงๆ ก็โอเคอยู่นา แต่ถ้าเราแปลตามที่เขาพูด ไม่ต้องแปลกใจถ้าเขาไม่ทำตามที่พูด เพราะเราเข้าใจผิดเอง...

technology ไม่ได้ disrupt ทุกอย่างหรอกนะ

เวลาพูดภาพกว้างๆ ว่า สิ่งนี้มา สิ่งนั้นจะตาย สิ่งนั้นมา สิ่งนี้จะตาย มันก็ใช่ และไม่ใช่ เพราะถ้าใช่ ธุรกิจที่สืบทอดมาเป็นร้อยหลายร้อยปี ก็คงต้องตายไปแล้วหลายๆครั้ง คนส่วนใหญ่ มองกว้าง และมองง่ายไป ไม่ลึกพอที่จะเข้าใจว่า ทำอะไรก็ได้ขอให้ดีพอ เพราะถ้ายกระดับจาก mass เป็น craft มันจะกลายเป็น art ทันที ญี่ปุ่นเขาถึงมีธุรกิจเก่าแก่เยอะแยะ แม้จะปรับตัวเป็นตามยุคและสมัย...