ในตลาดกว้างใหญ่ มันต้องมีโอกาสของเราซ่อนอยู่

ตลาดทุกวันนี้ การที่จะแทรกตัวเราไปอยู่ในนั้นมันยาก เพราะ ขาใหญ่ ทำอะไรแข็งแรงกว่าเรา ต้นทุนต่ำกว่าเรา ช่องทางก็ดีกว่าเรา ทำให้เรามองไปมันก็ท้อ ด้วยเหตุที่ท้อเพราะ เราอยากทำเหมือนเขา เมื่ออยากทำเหมือนเขา แต่แข็งแรงสู้เขาไม่ได้ มันก็ไม่มีโอกาส มองตาปริบๆไป แต่ในบางครั้งถ้าเราเปลี่ยนมุมใหม่ เป็นการช่วยเขา ทำให้เขาดีขึ้น เพราะเรา หรือส่งเสริม ช่วยเหลือให้มันดีขึ้น เราก็อาจจะมีโอกาสขึ้นมา ในสนามตลาดอันโหดร้าย ยกตัวอย่าง สมัยนี้ ขายคอมพิวเตอร์...

คนทั่วไปยังเต็มไปด้วยหนี้

คนส่วนใหญ่แทบทุกคนเป็นหนี้ คนที่ไม่เป็นหนี้ ถือว่าเป็นคนส่วนน้อยที่โชคดี ยากดีมีจนไม่เท่าไร แต่ถ้าเป็นหนี้คือมีภาระหนี้สินติดพันแน่นอน หนี้ในมุมมองของผมแยกเป็น 2 แบบ 1 หนี้ที่ก่อเพื่อ อนาคต เช่น กู้ยืมมาลงทุน ขยายกิจการ ดำเนินธุรกิจ อันนี้ถือว่าดี เพราะเป็นสิ่งที่ทำเกินตัวเพื่ออนาคต อาจจะมีความเสี่ยง แต่เสี่ยงแล้วมีโอกาส 2 หนี้ที่ก่อเกิดเพื่อความสุข และความสบาย เป็นหนี้ที่ก่อแล้วไม่เกิดรายได้ เช่นเอาเงินซื้อรถ ซื้อตู้เย็น...

จะคิดทำอะไรก็ได้ แต่หน้าที่ตัวเองต้องทำให้เรียบร้อยก่อน

การที่ตัวเองจะคิดว่า เราทำอะไรก็ได้ ไม่เป็นภาระใคร เราทำอะไรเอง คนอื่นก็ไม่ต้องยุ่งนั้น มันหยาบมาก เพราะจริงๆแล้ว ตัวเองมันมีหน้าที่อยู่ที่หลายๆคนมองข้าม หน้าที่ๆเราต้องทำในชีวิตประจำวัน หน้าที่ที่เราต้องมีต่อคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัว หากเราตั้งใจจริงอะไรสักอย่าง ก็เห็นด้วยที่จะมุ่งมั่น การตัดในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่การตัดในสิ่งจำเป็น ถึงแม้ไม่เกี่ยวข้องกับที่เรามุ่งมั่นนั้น ย่อมไม่ดีแน่ ถ้าเราเป็นนักเรียน เราก็ต้องเรียนให้ได้อยู่ในระดับที่คนไม่ต้องเป็นห่วงเรา ไม่ต้องเก่งที่สุดแต่ก็ต้องไม่ทำให้ห่วยแตกจนคนรอบข้างเป็นห่วงและติเตียน เลิกเพ้อเจ้อกับความฝันลอยๆ เช่น ออกจากงานมามุ่งในงานอย่างเดียว การศึกษา นั้นเป็นตัวบ่มเพาะตัวให้มีความรู้ แถมยังต้องควรมีสติในการพินิจ...

ยิ้มยังไงก็ดีกว่าหน้าบึ้ง

ผมว่า เวลาดูหน้าคน เรื่องสวยไม่สวยนี่ก็เรื่องนึง แต่ดูว่ามีสเน่ห์นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความมีสเน่ห์ของคน มันจะรู้สึกได้เหมือนมีอะไรขับมาจากข้างใน จะว่าด้วยสวยอย่างเดียวแต่ไร้สเน่ห์มันก็เท่านั้น ฉนั้น ไม่ว่าจะสวยหรือไม่สวย มันก็มีสเน่ห์ได้ การมีสเน่ห์ไม่ใช่อยู่ดีๆมันจะมีมา ต้องฝึกตัวเหมือนกันให้จิตใจโอบอ้อมอารี มีใจช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จัก อย่างน้อยที่สุด ก็ทำท่าทีเป็นมิตร ด้วยเริ่มต้นง่ายๆด้วยการยิ้ม เพราะยิ้มไว้ ความร่าเริงแจ่มใสมันก็จะตามมา หากเราหน้าบึ้ง มันก็จะเหมือนโลกทั้งโลกก็หน้าบึ้งให้คุณ พอรู้สึกไม่ดี ปัญหาต่างๆนานา มันก็จะประดังเข้ามา...

อย่าประเมินมูลค่าด้วยเงินทั้งหมด

ทุกวันนี้ เรามีตัวเลขของจำนวนเงินเป็นสิ่งที่บ่งบอกคุณค่าซื้อขาย ไข่ไก่ราคาเท่านั้น ข้าวสารราคาเท่านี้ ตัวเลขพวกนี้มันเป็นแค่สื่อกลาง ที่เอาไว้อ้างอิงเปรียบเทียบเพื่อแลกเปลี่ยนกัน แต่เพราะประวัติศาสตร์มันมายาวนาน ดูเหมือนคนจะเริ่ม ไม่เข้าใจของต้นที่นำมาแลกเปลี่ยน แต่เข้าใจเพียงมูลค่าของมัน ประโยชน์กับความคุ้มค่าแลกกันเป็นจำนวนเงินที่ต้องขาย หรือต้องจ่าย แต่คุณค่าที่เราได้รับนั้นนอกเหนือจากมูลค่ามัน เราๆกับไม่คิด หรือลืมคิดไป สิ่งที่มีไว้ มีประโยชน์ ที่เรายอมแลกมันมา อาหาร ทำให้เราอิ่ม เราต้องเห็นคุณค่าของที่มันทำให้เราอิ่ม ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่ทำให้เราอิ่ม เครื่องนุ่งหุ่ม เอาไว้กันร้อนกันแดดกันฝนกันหนาว ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาถามว่ามันเท่าไร...

ปัญหาของฮีโร่ คือไม่รู้จักองค์ประกอบ

ภาพจะให้สวย มันจะมีอะไรโดดๆอย่างเดียวอยู่กลางรูปมันก็ไม่ได้ มันต้องมีจุดเด่นหลัก และสิ่งสนับสนุนที่ทำให้ภาพนั้นสวยงาม นาฬิกาที่บอกเวลาได้ เพราะมันเครื่องจักรและฟันเฟืองประกอบกัน ทำหน้าที่ของมันช่วยกัน จนสรุปเป็นงานเดียวคือบอกเวลา คนเราที่คิดว่าเก่ง มันก็ต้องมีคนส่งเสริม อยู่ดีๆ มาเดี่ยวๆ มันก็ไม่ง่าย ถ้าเทียบสิ่งหนึ่งอยู่กลางความเวิ้งว้าง ว่างเปล่า มันจะมีค่าอะไร เพราะมันไม่มีอะไรอยู่แล้วทำได้ก็เท่านั้น จะได้ที่หนึ่ง มันก็ต้องมีที่สอง และที่รองๆไปอีก จึงจะเด่นได้ ไม่งั้นการแข่งขันมันก็ไม่เกิด สิ่งที่แปลก ไม่ได้บอกว่ามันดีเสมอไป แต่สิ่งที่ดี...

ใครทำใจไม่ได้ ก็ไปอยู่บ้านเถอะ โลกคือการเปลี่ยนแปลง

ของดี มันอยู่เหนือการเวลา ถ้าทำอะไรดีๆมันจะอยู่ไปตลอด แต่การจะให้สิ่งนั้นอยู่ไปตลอด การนำเสนอก็ต้องให้มันเหมาะกับการเวลาด้วย จะมาคิดแบบ อยากดังต้องลงหนังสือ ออกทีวี มันเริ่มไม่คุ้มค่า มันมีสิ่งอื่นในปัจุบัน ที่ทำได้ดีกว่า ง่ายกว่า สดวกกว่า และถูกกว่า เพชรยังไงมันก็เป็นเพชร ทองยังไงก็เป็นทอง คุณค่ามิรู้เสื่อม แต่คนเก่าแก่ ได้จากไป คนซื้อใหม่ๆ ก็เริ่มขึ้น เพิ่มขึ้น การนำเสนอ เราก็ต้องไปอยู่ในจักรวาลของเขา จะมีกี่คนที่เขาจะหาในจักรวาลของเรา...

เราชนะคนอื่นได้ แค่ทำไปเรื่อยๆ

คนเก่งเยอะแยะครับ สังคมเรา ประเทศเรา ไม่ว่าจะทำอะไร ก็มีคนเสนอแนะและติอยู่เสมอ องค์ความรู้มีมากมาย แต่รู้มาก มันก็ไม่ได้แปลว่าจะทำมาก ดีไม่ดี ทำน้อย หรือไม่ทำด้วยซ้ำไป เพราะรู้มากเกินไป และเห็นปัญหามากเกินไป อย่าไปมองคนทั่วไปว่าโง่นะครับ แต่เค้าอาจจะฉลาดมากจนไม่รู้จะทำอะไรดีก็เป็นได้ ถ้าอยากเอาชนะคนพวกนี้ เราแค่เริ่มทำอะไรสักอย่าง แล้วทำมันไปเรื่อยๆ บางคนอาจจะเห็นดีแล้วลอกตามเรา แต่มันก็ช้าไปครับ เพราะเค้าเป็นผู้ตาม ตามไปตามมาเขาก็เลิกก่อน ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ เพราะ ความอดทน...

เพื่อนจะเป็นเพื่อนได้ไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันไปเสียหมดทุกเรื่อง

ผมมีเพื่อนหลายกลุ่มหลายคน บางคนเป็นเพื่อนเพราะมีแนวความคิดตรงกัน ทำอะไรคล้ายๆกัน ซึ่งมันก็ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะดูเหมือนอะไรๆก็ไปทางทิศเดียวกัน แต่ปัญหา มันมักจะเกิดตอนความคิดเห็นไม่เหมือนกัน มีทะเลาะกันบ้าง ถ้ามันผ่านไปแล้วพินิจดีๆ มันก็จะไม่มีอะไร แล้วเราก็เป็นเพื่อนกันต่อไป พวกนี้ต้องระวัง คิดต่างทีไร มีปัญหากันทุกที กับกลุ่มนี้ ถ้าทำอะไรแนวเดียวกัน ก็จะดี ไปกันได้ และผมมีเพื่อนส่วนน้อย จริงๆหาได้น้อย ที่ คิดต่างกันตลอดเวลา นั่งถกเถียงกันตลอดเวลา มาเป็นเวลาหลายๆปี...

การแบ่งความรู้ให้คนอื่น คือการทบทวนความรู้ตัวเอง

ความรู้ มันเป็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรานะ บางคนรู้ บางคนไม่รู้ บางคนแสวงหา บางคนหาทางลัด มันก็มีทางของมัน ในอดีต วิชาความรู้ ที่ได้สั่งสมถ่ายทอดมา จากรุ่นสู่รุ่นนั้น ได้ล้มหายตายจากไปเยอะ เพราะ การสอนเป็นการบอกเล่า จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง รุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งหากแต่ละรุ่นมีอะไรเพิ่มเติม ก็จะเพิ่มไปแล้วส่งต่อ แต่เพียงแต่สมัยก่อน การส่งต่อนั้น ไม่ได้ทำอย่างแพร่หลาย แพร่กระจาย อยู่ที่สำนักใด ก็สืบช่วงกันแต่แค่นั้น ซึ่งมันก็น้อยลงๆ...