Category: daily note

เมื่อเราทำความดีกับใครสักคน 1 ดีกลับ 2 ร้ายกลับ หากเราทำดีแล้วถูกคน เขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนในความรู้คุณค่าในทันที แต่อย่างน้อย ถ้าเขาเป็นคนดีโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แล้วลำบาก เราช่วยเขา เขาก็จะไม่ลืมเรา วันใดวันหนึ่งวันหน้า เขาอาจจะช่วยเราในยามที่เราต้องการก็เป็นได้ หากทำดีไม่ถูกคน ดันไปทำกับคนที่ไม่รู้คุณคน ถึงแย่แค่ไหน น่าสงสารแค่ไหน เราช่วยเขาไปแล้ว เขาก็ไม่สนเรา แม้ตอนที่ช่วยจะพูดดี อ่อนน้อมแค่ไหน พอถึงเวลาเขาไปได้ เขาก็ไม่เห็นหัวเรา ยิ่งถ้าเราขอให้เขาช่วย...

การที่เราจะได้ภูมิคุ้มกันนั้น มันต้องมาด้วยสองแบบ แบบแรกคือป่วย แล้วไปหาหมอให้ฉีดยาให้ อย่างที่สองคือ ป่วย แล้วทนได้หายเอง จริงๆแบบแรกมันก็ดีกว่า เพราะว่ามีตัวช่วย มีโอกาสรอดสูง ถึงมันจะไม่ร้อยเปอร์เซ็น เช่นเดียวกับการที่เราทำอะไรผิดไป แล้วเราไปหาคนมาแนะนำ ถ้าเขาเป็นคนรู้ ก็โอกาสรอดสูงหน่อย ถ้าเราเชื่อแล้วทำตาม แต่ถ้าไปหาคนแนะนำ หรือมีคนที่ดีมาแนะนำแล้วไม่ฟัง ก็เหมือนไปหาหมอแล้วก็ไม่ยอมฉีดไม่ยอมกินยา แต่อีกทางคือ ป่วยแล้วทนได้หายเอง พวกนี้ ไม่รู้ว่ารู้ตัวว่าป่วยหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าอาจจะรู้สึกตัวว่าแปลกๆไป เป็นไข้...

คนเราถ้าไม่ผ่านเรื่องร้ายๆจริงๆจะไม่รู้หรอกว่ามันแย่แค่ไหน ถ้าคิดว่าเคยผ่านเรื่องเล็กๆน้อยๆ แล้วคิดว่านั่นแย่แล้วและผ่านได้ คิดใหม่นะครับ คำว่าแย่มัน มันไม่ใช่แบบที่พูดกันเกลื่อนๆ เกริ่อๆ แบบเวลาทั่วไป เวลาที่ไม่ทั่วไป แย่นั้น ถ้าเราไม่เตรียมตัวเตรียมใจหรือเตรียมอะไร มันจะดึงเราดิ่งลงสู่เหว ที่เราคิดว่าแย่แล้วมันจะยิ่งกว่าเสียอีก ความมืดแบบมืดมิดไม่มีแสงอะไรเล็ดลอดมา แม้มองมือตัวเองยังไม่เห็น ถ้างั้นไม่ต้องคิดอะไรมากครับ เตรียมอะไรไว้ได้แค่ไหน ให้เตรียมไว้ กลัวได้มากแค่ไหนก็กลัวไว้ แล้วมันต้องวัดกัน ว่าแย่จะผ่านไปก่อนถึงจุดตั้งรับของเราหรือไม่ คนที่คิดน้อย จุดตั้งรับก็จะต่ำ หรือไม่มีเสียด้วยซ้ำ ถ้าเราคิดมาก...

คนที่อยู่ภายใต้ความงมงาย มักคิดว่าตัวเองรู้และฉลาด ซึ่งไม่ใช่แน่ๆ เพราะเขาหลงในสิ่งที่เขาเชื่อ แม้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นความจริง เราต้องคิดอยู่ว่าเราอยู่ในโลกแห่งเรื่องราวของคนอื่นหรือเปล่า นักขายเก่งๆ ย่อมทำให้เราอยู่ในโลกแห่งมนต์สะกดได้เสมอ โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยว่าเราตกอยู่ในโลกของเขา หากเราจะเชื่อ ก็จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เล่าต่อกันมา จงนำมาคิดก่อน ว่าเรื่องทั้งหลายที่สะดับรับฟังนั้น มีความจริงอยู่แค่ไหน ถึงน่าเชื่อแต่ก็ไม่ใช่ความจริง ก็จงอย่าเอาใจไปใส่มัน มันเสียเวลา RIZwannasmart https://www.facebook.com/rizthink/

ความคิดของตัวเอง มันจะผสมหลังจากที่เรามองสิ่งต่างๆ บางครั้งสิ่งที่เราเห็น เราให้ค่าเป็นบวกบ้าง เป็นลบบ้าง มันก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ก็เพราะมันมีข้อดีและข้อเสีย คนส่วนใหญ่พยายามที่จะเอาชนะความเป็นกลางด้วยการทำให้ดีกว่า แต่เมื่อเราคิดถูกมันจะดีกว่า แต่ถ้าคิดผิดมันก็จะแย่กว่า ผิดถูกมากๆ มันอาจจะเละเทะเป๋ได้ หากเรามองมันอย่างเป็นความจริงไม่ต้องคิด เมื่อนำไปใช้ค่อยเอามาคิดต่อยอด มองทั้งบวกและลบ มันจะได้ภาพที่ชัดเจน เหมาะสม รู้ว่าควรและไม่ควรทำอย่างไร RIZwatchyourself https://www.facebook.com/rizthink/

ธุรกิจส่วนใหญ่ ยิ่งขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีจำนวนมากมาย ก็ยังต้องใช้เงินหมุนเงินกู้ระยะสั้นอยู่ แน่นอนเพราะขนาดธุรกิจ ที่ยังไม่ได้มีความมั่นคง หรือต้องทำอะไรเกินตัวอยู่มาก ยังต้องดิ้นรนรายวันกันไป ไม่ใช่เพราะเขาทำงานไม่เก่ง แต่มันเพราะข้อจำกัดมากมายที่บีบเขา แต่ถึงอย่างไร มันก็ต้องหาทางประนีประนอมสิ่งที่เป็นอยู่กับสิ่งที่อยากให้เป็นตามความเหมาะสมให้ดียิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้น จากเล็กไปใหญ่ ไม่มีความแข็งแรง ความเสี่ยงเท่าหรือมากกว่าไปเดิมมันอันตรายกว่าอยู่แบบเล็กๆอีก ทำแล้วคิด คิดแล้วแก้ แก้แล้วคิด แล้วแก้ต่อไป อย่างอ้าง เพราะความจริงมันหนีไม่พ้น หลอกตัวเอง และให้กำลังใจไม่เป็นเรื่อง...

ผมว่าถ้าชั่วโมงปกติ ของธรุรกิจ ความสำคัญคือ ต้องทำกำไร ทำกำไรก่อน ปั้นทีมงานให้เข้มแข็ง ทำธุรกิจให้ยั่งยืน ครับ ใช่เลยครับ นี่เป็นเวลาปกติของคนทำธุรกิจ แต่สำหรับช่วงนี้ วิกฤติครับ วิกฤติโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง ลำดับความสำคัญของแต่ก่อน ที่คิดถึงกำไรเป็นหลัก ถ้าเอาตรรกะนี้มาใช้ รับรองขายกันไม่ออก ของนอนกองในโกดัง หรือถ้าเป็นบริการ ก็นั่งตบยุงรอลูกค้า ไม่นานจะไม่รอด ช่วงนี้โหมดดิ้นตาย เอากระแสเงินสดเข้าให้มากที่สุด ลดของลดสต๊อกให้ได้...

คนทุกคนมีความสามารถนะครับ สำหรับบางคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเฉพาะ ก็อย่าไปคิดว่าจะทำได้อย่างเดียว เพราะคิดว่าฝึกมาทั้งชีวิตแล้ว จะไปทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้ จริงๆทำได้นะครับ แต่เราต้องรู้จัก core competency หรือจุดแข็งของเราเอง แล้วก็พลิกแพลงมันได้ และถ้าพลิกแพลงเป็น มันจะพลิกได้ไปเรื่อยๆไม่รู้จบ บางคนอาจจะเห็นเราทำกิจกรรมแบบข้ามห้วยหรือพลิกฝ่ามือเลย เขาอาจจะมองไม่ออกว่ามันมีความเชื่อมโยงกับเราได้อย่างไร ขอให้รู้ตัวเอง แล้วไม่หยุดไม่ท้อ เดี๋ยวก็หาอะไรใหม่ๆได้เจอเอง ไม่ต้องน้อยใจ หมดอะไรตายอยาก RIZflip https://www.facebook.com/rizthink/

เมื่อเราออกเดินทาง เราจะก้าวไปข้างหน้า แต่เราก็ไม่รู้หรอกว่าที่เราก้าวไปข้างหน้า มันข้างหน้าจริงไหม เราต้องหมั่นดูสิ่งแวดล้อมข้างทาง หรือหมั่นถามคนอยู่ระหว่างทางว่าทางที่เราไปนั้นถูกทางหรือไม่ เพราะเราจะก้าวหน้าอย่างเดียวโดยไม่รู้อะไรเป็นอะไร เราอาจจะเดินวนไปวนมาก็ได้ หรือเดินถอยหลังอยู่ก็ได้ ถ้าเราไม่หมั่นตรวจเช็คอยู่เรื่อยๆ ที่ทางที่เราคิดว่าถูก มันอาจจะผิด และเมื่อผิด เราไม่ได้แก้ให้มันถูก มันก็จะผิดแล้วจะทำให้เราเสียเวลา พาลเสียอนาคต และเสียกำลังใจ หมั่นมีวินัยสักหน่อย มันช่วยได้มากกว่าเดา RIZjourney https://www.facebook.com/rizthink/

ธุรกิจ มันเป็นเรื่องของความไว อะไรที่ตลาดต้องการ ถ้าเราทำได้ ก็ชิงส่วนแบ่งก่อน โกยเงินก่อน แต่สำหรับบางคนที่คิดนาน ต้องการความมั่นใจ ถ้าช้าเกินไป ตลาดมันวายไปแล้ว สิ่งที่ตลาดอยากได้ เมื่อมีคนเข้ามานำเสนอจนเกริ่น ตลาดก็จะคลายความอยาก อาจจะไม่อยากได้แล้วก็เป็นได้ ถ้าเราจะนำเสนอลูกค้า เราก็ควรอย่าให้ช้าไป หรือจะมาช้า แล้วเราไม่มีเหตุผลดีๆจริงๆ ว่าดีกว่าอย่างไร ก็อย่ามาเลย และต้องไม่ใช่เรื่องของราคา เมื่อ ผู้ผลิตสินค้าออกมาขายมาก มันก็ห้ำหั่นกันอยู่แล้ว ตลาดสีฟ้า...