ความทุกข์มาจากความเยอะของคนเรา

มีเรื่องน้อย ปัญหาน้อย เรื่องเยอะปัญหาเยอะ แต่ที่เรื่องเจอมันก็ปัญหาแค่นั้น แต่ตัวเราใจเราโอเว่อร์ไป เลยทำให้มันเยอะเอง จะบอกว่าเรื่องนิดเดียวก็ไม่ใช่ แต่พอคิดไปไกลเลยเถิดงานนี้ละเรื่องใหญ่ การมองปัญหาเท่าที่เป็นจริง ไม่ถึงกับปล่อยวาง พอเห็น คิด เข้าใจ แก้ไข มันก็จะแก้ได้ง่ายกว่า คิดเองเออเองไปเองมั่วซั่วไปหมด มันก็จบยาก ที่ยากนะ ใจเราเองเลย ไม่ใช่ปัญหา ก่อนแก้ปัญหา ต้องระงับใจตัวเอง ไม่ให้ฟุ้ง อย่าเยอะ แล้วมันจะแค่นั้นเองเลย...

เรากังวลในเรื่องเดียวกันแตกต่างกัน

ผมทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่กันไป ทุกคนทำหน้าที่ของเขา ปัญหาของเขา ถ้าเขาแก้ไม่ได้ เราก็อาจช่วยแก้ได้ แต่แก้ในมุมมองของเรา ซึ่งก็ไม่ตรงใจเขา เรากับเขา กังวลไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราช่วยกัน เชื่อกันใจ งานก็สำเร็จได้ แม้ไม่สมประสงค์แต่ก็เสร็จเหมือนกัน พอได้อยู่นา RIZteam

ชีวิตอยู่สุขสบายจะหาความสำเร็จไม่ได้

ชีวิตอยู่สุขสบายจะหาความสำเร็จไม่ได้ ความทุกข์เป็นสิ่งที่เราต้องรู้จัก คนเราต้องมีความทุกข์ก่อน ความทุกข์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทำให้เราแข็งแรง ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทำให้เติบโต พอเราเข้าใจความทุกข์แล้ว เราถึงจะเข้าใจความสุขสบาย แต่ถ้าเราสนใจแต่ความสุขสบาย หนักไม่เอา เบาไม่สู้ อะไรก็ไม่เอา แล้วเราจะประสพความสำเร็จได้อย่างไร RIZcomfort

การผจญภัย แปลให้ออกแล้วจะเข้าใจ

เราเข้าใจคำว่าผจญภัยโดยรวมๆ ว่าเหมือนการเดินทางที่เราต้องออกไปสนุกสนาน และมีอันตรายก็ว่าไป แต่พอมาย้อนคิดละเอียดในความหมายแล้วนั้น แยกออกมาเป็นคำได้ว่า ผจญ กับ ภัย ผจญ คือการ พบเจอ ภัย คือ อันตราย มันแปลว่าพบเจอความอันตราย คนที่ออกไปผจญภัย รู้ตัวก็ต้องเตรียมความพร้อม หากไปไม่พร้อม มันก็เจอภัยแล้วเอาตัวไม่รอด หลายคนคิดว่าจะไปเที่ยวไปสบาย จริงๆด้วยความหมายของภาษามันบอกอะไรบางอย่าง ที่คนไม่ใส่ใจ ก็จะไม่เข้าใจในคำเตือนของคนโบราณที่รจนาภาษามาให้คนเข้าใจกัน คำทุกคำ มันมีความหมาย...

สวรรค์ รูปธรรมอาจจะแตกต่างกัน แต่นามธรรมเหมือนกันนะ

ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องศาสนาเท่าไรสำหรับผม ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดกับคนที่เข้าใจ หากไม่เช่นนั้นมันจะเป็นเรื่องมากกว่า หลักๆในโลกนี้ ศาสนา ก็จะรู้จักกันคือ คริสต์ อิสลาม พุทธ แต่ละศาสนาก็มีแนวทาง แต่ก็ทำให้คนเป็นคนดี จึงขออปุมาเป้าหมายก็น่าจะคล้ายกัน เวลาจะพูดถึงสรรค์ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่รวบรวมสิ่งดีๆ แต่ละศาสนาก็อธิบายแตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมในแต่ละกลุ่มคน จนเป็นรากฐานของคนแต่ละกลุ่ม คนส่วนใหญ่มาเห็นช่วงปลายแล้ว ดันยึดถือทิฐิ หรือโดนเอามานำเป็นเครื่องมือเลยทะเลาะกัน เกิดเป็นสงครามใหญ่ บานปลาย ทำให้หลงลืมการเริ่มต้นของแต่ละเรื่องแต่ละศาสนา มันต่างกันในภาพต่างๆ...

ไม่อ่านหนังสือ ไม่ชอบฟังเรื่องมีประโยชน์ จะฉลาดได้เหรอ

คนมีความคิด ก็ต้องคิดเป็น ก่อนคิดเป็นมันก็ต้องมีพื้นฐาน คนเราก็ไม่มีเวลามากพอ การอ่านหนังสือ ทำให้เราเราเปิดโลกทัศน์ แต่กับนิสัยคนไทย ชอบอะไรง่ายๆ เอาสบายๆ ความบันเทิง แล้วจะมีความคิดได้อย่างไร พอเสพสิ่งที่เป็นความบันเทิงมากๆ จึงเป็นผู้ตามมากกว่า อันนี้ก็เป็นข้อด้อยอย่างหนึ่ง เมื่ออ่านน้อย ทำให้มีภูมิน้อย การเปิดรับก็จะน้อย จึงทำให้เป็นคนที่ก็ไม่ชอบฟังเรื่องที่มีประโยชน์ แล้วคนจะฉลาดได้เหรอ อ่านก็ไม่เอา ฟังก็ไม่เอา แล้วยังพูดมากกว่า แย่เลย RIZreadnot

เราต้องยอมรับ ตามวัย

โลกนี้ไม่ใช่เป็นของเรากลุ่มเดียว แต่มันมีระยะเวลากาลของมัน มันเปลี่ยนถ่ายจากรุ่นสู่รุ่น เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า และผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็จะเป็นผู้สูงอายุ ที่ต้องเกษียญในวันหน้า ใครคนกลุ่มหนึ่งจะถืออำนาจชี้นำไปตลอดไม่ได้ จะสืบทอดให้เหมือนก็ไม่ได้ ต่างกรรมกันไป ไม่แปลกครับที่เราก็คุยกับคนข้ามยุคไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องมันเกิดที่ว่า เราไม่ยอมฟังเขา ไม่ยอมเข้าใจเขา ถ้าเราเปิดใจฟังเขา ยอมรับว่ามันยังไม่ถึงยุคเรา หรือว่าผ่านยุคเราไปแล้ว ก็จงอยู่ให้เป็น อยู่ให้รอด RIZaccept

ทักษะ startup ที่ต้องมีคือการ นั่งเทียน

ช่วงนี้ผมเกี่ยวข้องกับ startup เลยรู้สึกว่า มันมีนิสัยสนุก ที่คนต้องการจะทำ startup ต้องมีอย่างหนึ่งคือ “นั่งเทียน” หรือเรียกสวยๆให้มันดูดีๆคือ Untested hypotheses สมมุติฐานที่ยังไม่ได้ทดสอบ เพราะแน่นอนครับ สิ่งที่ส่วนใหญ่ startup คือ สิ่งที่ยังไม่น่าจะมีในตลาด ถ้าเราต้องทำการทดสอบอย่างจริงจัง เราจะเสียทั้งเงิน และเวลา และstrtup ต้องมีคือเรื่อง speed จำเป็นมากครับ แต่มันก็ต้องมาด้วยการเดาล้วนๆ...

อยากจะใหญ่ แต่ใจไม่ใหญ่ ลำบากครับ

คนที่อยากเป็นผู้นำ คนที่อยากใหญ่ มันมีหลักการของมันอยู่เหมือนกัน การเป็นหัวหน้า ก็จะเป็นเพราะฝีมือ ความสามารถ ถึงได้เลื่อนตำแหน่งมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ได้สิทธินั้นแล้วจะทำได้ เพราะบางคน เก่งแต่ตัวเอง เก่งแต่ตาม นำไม่เป็น หรือบางคนคิดว่าฉันเก่ง นำไปแล้ว ก็ไม่มีคนตาม ก็ต้องมาดูว่า ที่ไม่มีคนตาม หรือไม่ทำตามสั่งเพราะอะไร ตำแหน่งมันแถมพระเดชมา อำนาจสิทธิขาดตามหน้าที่ แต่พระคุณ มันต้องค่อยๆสร้าง และควรสร้างตั้งแต่ยังไม่เป็นหัวหน้า พอไม่ได้อยู่คนเดียวหรือเป็นผู้ตามแล้ว...

หลักการแก้ปัญหา

การแก้ปัญหานั้น เราต้องเข้าใจปัญหาก่อน ว่าปัญหานั้นคืออะไร เราจะหาวิธีการมองออกว่าเราจะแก้อย่างไร แล้วจะใช้การแก้ปัญหาแบบไหน 1 เจอปัญหาแล้วแก้เลย 2 รอก่อนใช้เวลาในการแก้ไข ส่วนใหญ่เรามักรู้ว่าต้องใช้ ข้อที่1 คือ เจอปัญหาแล้วแก้ไขเลย ถือว่าเป็น action ที่โดนใจที่สุด แต่ก็สำหรับบางเรื่องเท่านั้น เพราะ บางเรื่องมันแก้ไม่ได้ เลยต้องใช้ ข้อ2 ในการแก้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความรู้สึกที่สูญเสีย ก็ต้องปล่อยให้เวลารักษาใจ พอเข้าใจอะไรก็ดีขึ้น...