happy chinese new year
ขอให้มีความสุขในวันตรุษจีน 新正如意 新年发财 Happy Chinese New Year RIZcny
Just another my IDEA
ขอให้มีความสุขในวันตรุษจีน 新正如意 新年发财 Happy Chinese New Year RIZcny
ตอนเราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง เราก็คาดหวังว่าเราต้องสำเร็จกิจกับสิ่งนั้น บางทีเราก็รู้บ้างว่าเราต้องเจออะไร และก็มีอีกมากที่เราไม่รู้ว่าเราต้องเจออะไร แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามที เราก็ต้องทำ และแก้ปัญหาไปเรื่อยๆจนถึงปลายทาง ถึงแม้ว่าจะถึงปลายทางแล้ว เราอาจจะเจอว่า ทำเสร็จแต่ไม่ประสพความสำเร็จก็ตาม ในบางครั้ง คนเราก็ล้มเลิกก่อนสำเร็จนิดเดียว แค่นิดเดียว ที่เราถอดใจ เพราะเราคิดว่าความสำเร็จมันอาจจะอยู่อีกไกล หรือมองไม่เห็น แต่บางที มันอาจจะแค่อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น เราไม่รู้หรอกว่าความสำเร็จมีอยู่จริงไหม เพราะไม่ใช่เราบอก ต้องให้คนอื่นบอก สังคมบอก เรารู้สึกได้แค่ความพอใจกับสิ่งที่เราทำ และก็เรื่องพยายาม...
การเตรียมพร้อม บางทีเราก็ไม่รู้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ถึงจะพร้อม เราก็คาดเดาไปเรื่อย แต่ก็ไม่รู้จริง ไม่รู้เลย แต่พอถึงเวลา มันจะเฉลยเอง ซึ่งก่อนถึง ไม่ใช่รอเวลา ให้มาถึง แล้วไปแก้ไขเฉพาะหน้า ก็ต้องเตรียม แต่จะเตรียมทางเดียวเราก็ไม่รู้ไม่แน่ว่าจะมาทางนี้ ที่ใช่ เราก็เลยต้องเผื่อไปมากๆหน่อย ถ้ามันมาจะได้เทียบเคียงไปต่อได้ ไม่ตื่นสนาม ถ้าเราเตรียมพร้อมให้มาก มากกว่าจริง เพราะเราใส่ใจ ว่ามันสำคัญ และเมื่อเรามองแบบนี้ เราจะไม่ประมาท...
ความหวัง มุมนึงมันก็สวยงาม แต่อีกมุมนึง มันก็น่ากลัว อยู่ที่มุมมองเลยครับ แต่คนส่วนใหญ่ ชอบมอง แต่ไม่ชอบทำ ชอบใช้ปาก แต่ไม่ใช้หยาดเหงื่อและแรงกาย มีความสามารถ แต่ไม่ได้พิสูจน์ว่ามันใช้ได้ อยากจะทำ มันก็มีสองทาง คือทำได้ และทำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ได้ทำ แต่ถ้าคิด จะทำ คิดว่าทำได้ สุดท้าย มันก็ยังไม่ได้ทำ ทำก่อน ทำสิ...
เมื่อเราก้าวจะทำอะไร เราย่อมมีต้นแบบ ซึ่งเป็นผู้ประสพความสำเร็จในสิ่งที่เราทำ และเมื่อเราฟังเขาพูด แม้ว่าเขาบอกว่ายาก เราก็ดูเหมือนง่าย แม้ว่าเค้าบอกเตือนก่อน เราก็คิดว่า ไม่เท่าไร น่าจะทำได้…ง่ายๆ แต่เมื่อเริ่มทำเอง ถึงมีคนแนะนำ มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด และจุดนี้ เป็นจุดที่คนส่วนใหญ่ ถอดใจ ก็เพราะมันไม่ง่ายจริงๆ และไม่มีอะไรง่ายๆ แต่ถ้าเรามีมุมมองว่า เมื่อเข้ามา เราต้องทำมันให้หนัก ให้สุด ให้เป็นตายกันไปข้างนึง ถึงแม้เรื่องจะไม่ง่าย แต่ถ้าเราทำมันอย่างหนักตั้งแต่ทีแรกแล้ว...
ใครๆก็จะบอกว่า เมื่อสำเร็จกิจการใดๆนั้น มันสวยงาม และหอมหวานเสมอ สำหรับผม ก็ได้มีโอกาส ที่ได้พบเจอคนมากหน้าหลายตา ทั้งที่ประสพความสำเร็จ ทั้งที่ล้มเหลว แต่นั่นมันเป็นคำตอบปลายทาง หลังจากที่ผมเอียน กับการฟังเรื่องของคนที่ประสพความสำเร็จนั้น ผมได้สนใจในบางสิ่งบางอย่าง คือความพยายามของคนเหล่านั้น ที่ทำตอนยังไม่บรรลุกิจ หรือประสพความสำเร็จ ว่าเค้าต้องบากบั่นยังไง เค้ามองเห็นปลายทางหรือเปล่า และแน่นอนมันก็ต้องมีเรื่องให้ท้อ มีคนปรามาส เขาผ่านมันได้อย่างไร หยาดเหงื่อ และความกดดัน มันเป็นอย่างไร ที่ทำให้เขาพุ่งไปข้างหน้า...
ความรู้เดี๋ยวนี้ อยู่กับบ้านก็หาได้เพราะเราสามารถสืบค้นหาในอินเตอร์เน็ต เพราะอินเตอร์เน็ต มันเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตหลายๆอย่าง แม้หลายคนจะพูดว่า ไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ เพราะเราหาได้ในเน็ตนั้น แต่ถ้าเราไม่ได้ออกไปไหน เราจะไม่ได้เห็นอะไรด้วยตาตัวเอง เพราะในอินเตอร์เน็ต เราจะเห็นด้วยตาคนอื่น ในมุมมองความคิดของคนอื่น ถ้าเราอินกับสิ่งนั้นมากไป เราจะโดนชักจูงไปตามแนวความคิดของแต่ละคนที่เราติดตามอยู่ เพราะแค่กล่องสี่เหลี่ยมที่เรามอง มันอาจจะบอกความเป็นไปทุกซอกทุกมึงของโลกนี้ได้ แต่มันไม่มากพอที่จะบอกเรื่องราวความจริงได้ บางครั้งเราเปิดข่าว cnn มันก็ออกไปแนวทุนนิยม เมื่อเราเปิด cctv มันก็บอกมุมมองในโลกสังคมนิยม เหมือน aljazeera...
เวลาจะพรีเซนการขาย บางทีได้เวลามาก เราก็พูดมาก ได้เวลาน้อย เราก็พยายามพูดมาก แต่ที่เราพูด เราไม่ได้สนใจคนฟังเลย เราสนใจว่าจะมีเวลาแค่ไหน ที่เราจะยัดเยียดทุกอย่างให้คนฟังไป แล้วใครจะคิดตามเราละ เราอาจจะคิดไปเอง เราพูดเท่าที่เราอยากพูด เราพูดจนเราพอใจ คิดไปว่า ลูกค้าได้ประโยชน์ แต่ไม่เคยคิดจะถาม หรือสนใจลูกค้าเลยว่า ลูกค้าสนใจไหม แต่ถ้าเราคิดกลับเป็นคนฟัง เราต้องพูดอะไรที่เขาอยากฟัง ไม่ใช่ที่เราอยากพูด แม้ว่าเขาจะมีเวลาให้เราเยอะ แต่แค่ไหนที่เขาอยากฟัง เวลาเค้าอาจจะมีเป็นชั่วโมง แต่ถ้านาทีแรกเรียกร้องความสนใจไม่ได้...
จะพูดให้คนฟัง มันไม่ได้เริ่มด้วยว่า สิ่งที่พูดต้องน่าสนใจหรือมีสาระ แต่คนจะเริ่มฟังจากน้ำเสียงมากกว่า จะเรียกว่าพูดหวาน พูดเข้าหู มันก็ต้องมี โทนเสียงที่ชักชวน เราเรียกมันว่า พูดจาให้ไพเราะ เพราะถ้าพูดไม่เข้าหู ดีแค่ไหน เป็นประโยชน์เท่าไร คนก็ไม่อยากฟัง ถ้าไม่มีคนฟังแล้ว ทุกอย่างก็จบหมด RIZtalk
จะทำอะไร ทำคนเดียว ต่อให้ตัวเองทำได้ทุกอย่าง มันก็ไม่เร็วทันใจไปซะทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว แน่นอน มันอาจจะอิสระกว่า แต่รวมๆแล้ว การทำอะไรเป็นหมู่คณะ ถึงจะมีปัญหา แต่มันก็ดีกว่า เพราะ การแบ่งงาน กันตามถนัดแล้ว ย่อมทำให้ ทุกคนได้ทำงานที่แตกฉานในแต่ละคนไป แต่ทุกคนที่ร่วมกันทำเป็นกลุ่ม กลัวปัญหา เพราะว่าแต่ละคนไม่ยอมกัน บ้างก็ไม่อยากโดนเอาเปรียบ บ้างก็ว่าเหนื่อยมากน้อยกว่า แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ปัญหาว่าเป็นกลุ่มไม่ดี ต้องแยกแยะให้ออกว่า จริงๆมันคือ ปัญหาจัดการในการรวมกลุ่มไม่ดี...