ถ้าจะรักษาอดีตไว้อย่างเดียว เมื่อไรจะมีอนาคต

อดีต มันมีที่ ดีงาม และ เสื่อมโทรม บางสิ่ง ก็ควรจะรักษา บางสิ่งก็ควรปล่อยให้มันถูกลืมไป คัดเหลือแต่สิ่งดีๆไว้ เพื่อจะได้มาต่อยอด ให้สร้างสรรค์โลกต่อไป บางที เราได้คุยกับนักอนุรักษ์นิยม แต่แบบสุดขั้ว ไอ้พวกนี้ก็ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ ทุกอย่างต้องทำตามแบบแผน จะกลายเป็นอื่นก็ไม่ได้ ดูเหมือนพวกดื้อหัวแข็ง ผมก็รู้ว่า ท่านก็เป็นห่วง ไม่อยากให้สูญหาย แต่การทำตัวของท่านนั้น มันเป็นกิรยาของการที่จะทำให้มันหายโดยขัดกับความตั้งใจ ทางเดินมันมีสอง คือความอมตะ...

การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง รวดเร็ว คงตายก่อน

ชีิวิตของคนเรา มันก็ชอบอยู่อะไรทีปลอดภัย หากมีอะไรมากระทบ ก็ย่อมต้องตั้งฉากป้องกัน ไม่ให้มันเกิดขึ้น โดยไม่ได้สนใจว่ามันดีกว่าหรือไม่ แต่การเปลี่ยนแปลงทางด้านต่างๆของโลก มันมีมาเร็ว และโถมใส่ บางทีเราก็เปลี่ยนแปลงไปโดยการเหวี่ยงของโลกมัน โดยไม่รู้ตัว เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงด้วยภาพรวม เช่น เราใช้มือถือจนกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว มันพึ่งมาแค่ช่วงสิบปีนี้ แต่สำหรับบางองค์กร ก็ต้องการการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ทันกับโลก บางที มันต้องปรับเปลี่ยนแทบทุกอย่าง อย่างที่ดำเนินมา ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะช๊อกกับการเปลี่ยนแปลง จนเกิดการต่อต้าน หรือประท้วง...

กลายเป็นว่าคนอยู่ในกรอบเป็นคนดี ชิบละ

ตอนเป็นเด็ก ว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังพ่อแม่ โตมาเรียนหนังสือ อาจารย์ให้ทำอะไร ก็ทำไม่บ่น เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นทางที่ถูก ตอนทำงาน หัวหน้าสั่งอะไร ทำได้หมด ตามที่สั่ง ดูรวมๆก็ดีนะ แต่ดูแล้ว เหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้สมองในการสร้างสรรค์เท่าไร มีสมอง รับคำสั่ง คล้ายจะเป็นหุ่นยนต์วิ่งอยู่ในกรอบ ต้องโดนป้อนโปรแกรม แล้วก็จะทำได้ พวกนี้ เป็นเหมือนแรงงานมากกว่าแรงสมอง น่ากลัวว่าคนดีๆ หากมีเครื่องจักรมาทำได้ ก็จะทำทดแทน แล้วพวกนี้จะสงสัย...

สิ่งสำคัญในการหาความรู้ คือต้องค้นคว้าและวิจัย

ความรู้จริงๆมันก็มีอยู่ทั่วไปหมด และความรู้มันก็มีหลาย ความรู้ที่เกิดจากการตั้งคำถามนั้นเป็นสิ่งดี แต่ความรู้ที่เกิดจากการตั้งคำถามแล้วถามคนอื่นเพื่อเอาความรู้แต่เพียงผิวเปลือกอย่างเดียวนั้น มันจะไม่ได้อะไรมากนัก แน่นอน มันได้คำตอบ แต่มันเป็นคำตอบของคนหนึ่งคนที่เราคิดว่า เขาน่าจะรู้ แต่ถ้าเขาไม่รู้จริงก็เอาประสพการณ์มาตอบ ซึ่งแน่นอน อาจจะเป็นคำตอบที่ดีและพาเราออกทะเล การหาความรู้ มันก็ต้องมาจากองค์ประกอบหลายๆอย่าง พูดฟังอ่านเขียน จะให้น้ำหนักอะไรอย่างไรอย่างหนึ่งบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าจะมุ่งหวังจะเอาแต่ด้านเดียว มันก็ไม่ได้มีกระบวนการมาส่งเสริมและหักล้างกัน ถามแล้ว ได้คำตอบแล้ว ต้องเอาไปคิดว่า มันใช่หรือไม่ มีใครกล่าวถึงมาก่อน แล้วกล่าวว่าอะไร วิจัยๆไว้...

เส้นชัย ไม่ได้อยู่ปลายสายตา แต่มันอยู่ที่ปลายทาง

เมื่อชีวิต และเป้าหมาย มันไม่ได้ ตรงๆเหมือนกับลู่แข่งขัน ที่เราจะมองเห็นปลายทางให้คาดคะเนทางไประหว่างทางได้ เวลาคิดเป็นเส้นตรง ก็ดูจะเป็นไก่อ่อนไปหน่อย เหมือนไม่รู้จักโลกใบนี้ การมีเป้าหมายนั้นดี แต่อย่าคิดอ่อนหัดว่าทางเป็นเส้นตรง ทุกอย่างเป็นไปตามคาดคะเน มันย่อมมีสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดได้อยู่เสมอ สิ่งที่ต้องทำคือ เตรียมพร้อมเสมอ และเตรียมใจ ที่จะแก้ปัญหา แม้ว่าทางแก้ทางสุดท้ายคือปลง ปล่อยมันผ่านไปก็ตาม ค่อยๆเดิน มันก็มีวันถึง แม้จะไม่เร็วอย่างที่คิด แต่ทุกครั้งที่ก้าวออกไป มันก็จะทำให้ใกล้อีกหน่อย ถึงแม้ว่าจะอ้อม หรือเดินย้อน...

ช่วยตัวเองก่อน ช่วยชาติ

เห็นคนเสียสละช่วยชาติ ที่เสียเลือดเนื้อและชีวิตมา ผมก็ขอแสดงความนับถือ ผมเห็นคนที่ทุ่มเท เพื่อชาติ ผมก็ขอให้กำลังใจ แต่สำหรับบางคน ยังเอาตัวไม่รอด และก็ช่วยชาติในทางที่เกินกำลัง มันก็เป็นผลร้ายแก่ตัวเอง เมื่อตัวเองยังไม่แข็งแรง จะให้ใครมาพึ่งพิง หรืออยากจะช่วยใคร เราก็อาจจะล้ม การที่ทำให้ตัวเองแข็งแรงนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเห็นแก่ตัว เหมือนสังคมตราหน้า การที่เราไม่เป็นภาระให้กับสังคมนั้น ก็ย่อมเป็นทางช่วยสังคมให้ดีขึ้นระดับหนึ่ง การที่รวยแล้วแบ่ง ในบางครั้งก็ถูก แต่การที่นำเงินตราของต่างชาติ เข้ามาให้หมุนสะพัดในไทย นี่ก็เป็นการช่วยดุลการค้าของประเทศ ทำอะไรก็ได้...

การจะเป็นคนรวยในโลกออนไลน์นั้นมันทำได้ไม่ยากเลย

การจะเป็นคนรวยในโลกออนไลน์นั้น มันทำไม่ได้ยากเลย และมันไม่ได้ใช้เงินเยอะขนาดนั้น แต่การที่คนทำ ถ้าไม่ได้หวังเพื่อการตลาด มันก็เป็นการอย่างเด่น อยากให้มีคนยอมรับนับถือ การใช้ ไลฟ์สไตล์เฉกเช่นคนรวย มันก็ย่อมทำให้หลายคนที่อยากมีอยากได้อิจฉา ตั้งแต่ กินหรู อยู่สบาย ใช้จ่ายฟู่ฟ่า นั่งเรือยอร์ช ในการที่จะมีสิ่งต่างๆเหล่านี้จริงๆนั้น ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลที่จะมีได้ แต่การที่จะมีชั่วคราวหรือเช่าเอานั้น ก็ย่อมใช้จ่ายไม่ได้เยอะแยะขนาดเท่ามูลค่าเต็มของมัน และก็ไม่ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษา มันก็อาจจะดี สำหรับคนกลุ่มหนึ่ง แต่การที่มีภาพพวกนี้ออกมา มันทำให้คนที่ไม่คิด ก็มีความอิจฉาและเป็นความฝันพยายาม...

เริ่มให้ถูก พื้นให้แน่น แล้วค่อยไปต่อด้วยตัวของตัวเอง

บางครั้งเห็นคนดัดแปลงโน่นนี่นั่นแล้วรู้สึกมัน ขัดหูขัดตา ทุกอย่าง เหมือนเลียนแบบมาจากแหล่งเดียวกัน แหล่งสำเร็จรูปในอินเตอร์เน็ต ถูกไม่ถูกไม่รู้ แต่ถ้าเขาทำได้ เราก็ลอกเค้าได้ แต่เอาจริงๆ เรารู้ที่มาที่ไปหรือเปล่า เพราะ ความสามารถที่แท้จริง ย่อมมาจากฝึกพื้นฐานให้แน่น แล้วเอาไปต่อยอด ไม่ใช่เอาเกร็ดวิชา มาต่อให้ยาวออกไป เดี๋ยวมันจะหัก หรือมีปัญหา เราจะแก้มันได้ยาก เพราะพื้นฐานอันเป็นตัวสำคัญ มันเป็นรากฐานของทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าฐานแน่น จะต่อกิ่งก้านสาขา ให้เป็นรูปแบบใด มันก็ย่อมมีทางออกทางแก้...

minimalist เป็นความสุขที่ไม่เหนื่อย

ความสุขมันก็มีหลายแบบเยอะแยะ แล้วแต่คนสรรค์สร้าง จะให้หรูหราอลังการนั้น มีเซอรไพร์ตลอดเวลา ก็ย่อมทำได้ จะจัดให้ใหญ่โต ร้อยโต๊ะจีน หรือ จะขนของจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำ แต่ความสุขแบบนี้ สำหรับผมแล้ว มันดูจะเหนื่อยๆไปสักหน่อย ดูเหมือนต้องพยายามเยอะเหลือเกิน มีเรื่องต้องทำมากมาย และถ้าหากไม่เป็นไปตามคาด มันก็จะเกิดปัญหา และทำให้ความสุขดูน้อยลงไป เพราะทุกอย่างต้องออกมาดีที่สุด งดงามที่สุด สุดยอดที่สุด มันก็ใช้่จ่ายมาก ตั้งความหวังไว้สูง ถ้าไม่เป็นไปตามแผน สิ่งที่สูงๆ...

ขายอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องเพิ่มกิจกรรมสับขาหลอก

ยุคเศรษฐกิจซบแบบนี้ แต่ละคน เงินหมดบัญชี ตอนนี้สิ่งที่ซื้อได้คือพื้นฐานความจำเป็นของชีวิต อะไรต้องซื้อมันก็ต้องซื้อ แต่ พอมันต้องซื้อ ตัวเลือกไม่ใช่มีแค่ยี่ห้อเดียว มันมีเป็นสิบ มีทั้งมียี่ห้อ ยี่ห้อจีน ไม่มียี่ห้อ ตามแต่คนจะเลือกเอาว่าจะ สดวกใจจ่ายกับอะไร ร้านค้าคนขายต่างๆ ต้องแย่งซีนมาขายของ วางขายเฉยๆ ในร้าน ก็คงได้ ปัดฝุ่น ตบยุงรอ ซึ่งก็คงไม่มีใครมาซื้อ ตอนนี้ ต้องออกไปขาย ที่ไหนมีคน...