คิดเล็กอยากได้ใหญ่ คิดผิดแล้วม๊างงง

ดูเหมือน ตรรกะมันจะสวนทางกัน ว่าเราอยากลงทุนแบบปลอดภัย แต่ได้ผลลัพธ์ออกมาใหญ่โต ทุกคนอยากได้ ไม่อยากเสีย แต่กลับทำอะไรแล้ว มันจะเสียมากกว่าได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะ ตรรกะมันผิด มันจะได้ความสมมเหตุสมผลได้อย่างไร การคิดการณ์เล็กๆ แล้วจะได้ใหญ่ๆ มันไม่มีหรอก เพราะ ถ้าเหมือน ชีวิตลงทุนเท่าซื้อหวย แล้วจะรวยได้รางวัลที่หนึ่งนะ เป็นไปได้นะ แต่โอกาสมันอัตราส่วนเท่าไร ทำไมไม่คิดกัน ก็ฝันกันลมๆแล้งๆ แล้วจะจับต้องได้จริงๆหรือ การคิดเล็กๆแล้วทำได้...

เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้น เราควรทำอย่างไร

เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้น โดยทั่วไป เราจะเห็นคนส่วนใหญ่ จะพยายามมองข้าม มองเหมือนมันไม่ได้เกิดขึ้น นั่นก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา ปัญหายังคงอยู่ และจะขยายไปเรื่อยๆจนไม่สามารถจะแก้ไขได้ ความฉิบหายมันจะเพิ่ม การเพิกเฉย หรือพยายามมองข้ามมันนั้น ไม่ได้ช่วยอะไร แต่การที่ยอมรับ และยอมรับออกมาดังๆนั้น ถือว่าเป็นการให้ความเคารพกับความผิด ที่จะแสดงออกโดยสดุดี และพร้อมจะแก้ไข เมื่อเราผิด เรากลัวที่คนอื่นจะรู้หรือจับได้ เราก็พยายามแก้ไขมัน แต่ถ้าแก้ไขโดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือทำให้หายไป มันไม่ใช่ทางที่ทำให้มันเป็นไปอยากเราคิดได้ แต่วิธีการที่ถูกต้องคือยอมรับ และแสดงออกโดยการแจ้งให้คนอื่นรู้ในความผิด มันไม่ใช่แค่การยอมรับผิด...

อย่าลงทุน เหมือนการพนัน

ใครๆก็อยากร่ำรวย มีเงินทอง ซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้ แต่การได้มาของเงินทองนั้น มันไม่ได้ง่าย เหมือนกับ โฆษณาที่ป่าวประกาศตามสื่อต่างๆ หรือแม้ แต่เราเดินเข้าร้านหนังสือ ที่มีแต่หนังสือ รวยง่ายๆ ทุกอย่างเพียง 15นาที หรือ ภายใน 1 เดือน ดูเหมือนสังคมจะสอนให้เราโลภ อยากได้โน่นนี่เกินประมาณ และนั่นคือความประมาทในการใช้ชีวิต ทุกอย่างผมเชื่อว่า มันต้องใช้เวลา มีการเริ่มต้นและการเติบโต การจะได้ผลไม้ที่ดี ย่อมต้องรอจากเมล็ด...

ทุกข์น้อย สุขให้มาก

ผมเชื่อเรื่องความสมดุลย์ มีมืดมีสว่าง มีดีมีร้าย เพราะผมคิดว่ามันเป็นกฎสมดุลย์ของธรรมชาติ เหมือนเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา มันก็เป็นธรรมดาจริงๆ  แต่ที่มันจะมากกว่าธรรมดาเพราะเรารู้สึกนี่แหละ เพราะรู้สึก มันเลยเกินความธรรมดา หรือสัจธรรมไป เจ็บนิดเดียว ร้องไปสามบ้านแปดบ้าน หรือเจ็บใจนิดเดียวผูกอาฆาตกันเอาเป็นเอาตาย ถ้าเราไม่ตระหนักในธรรมชาตินั้น มันก็ย้อนมาที่ตัวเราหนักกว่า แต่ในธรรมชาติมันก็เปิดให้เราโกง แต่โกงในแบบความรู้สึกคือ สร้างภาวะและความเข้าใจ จริงๆ ความเป็นกลางดีที่สุด รู้เท่านั้นมันก็ดี แต่ ถ้าหากมีอะไรที่เกิดขึ้นแล้ว การยึดติดนั้น อาจจะไม่ดี...

ต่อให้มีวัตถุดิบที่สุดยอด แต่ถ้าทำไม่เป็นก็ห่วยอยู่ดี

ผมก็นักชิมคนหนึ่งที่ชอบเสาะแสวงหาที่ร้านอาหารทานอยู่ตลอดเวลา ได้ทานตั้งแต่ถูกยันแพง ข้างถนนยันโรงแรมห้าดาว กินตั้งแต่อาหารอีสานยันอาหารฝรั่งเศส ก็มีอร่อยบ้าง ไม่อร่อยเป็นส่วนใหญ่ ถูกปากบ้าง แต่ก็ไม่ถูกปากเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าปกติ จะทานเพื่อดำรงชีวิตให้อยู่รอด แต่การได้ทานอาหารดีๆนั้นมันก็ถือว่าเป็นสิ่งพิเศษของชีวิต ที่ทำให้วันธรรมดา เป็นวันพิเศษได้ โดยมาก ร้านอาหารที่มีราคาสูงสักหน่อย ชอบจะบอกว่าตัวเองได้เสาะแสวงหาวัตถุดิบดีๆ จากส่วนต่างๆในโลกนี้ โดยเฉพาะหลังๆ ผมจะเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่จะบอกว่านำเข้าของอย่างนั้นอย่างนี้โดยตรง เอามาอวดลูกค้า ว่าได้เป็น exclusive หรือ ได้สิ่งที่ นำเสริฟเหมือนกับ...

มันก็มีบ้างที่ เบื่อ

ในทุกๆวันที่ เรารู้ว่าเราต้องตื่นมาทำงาน มันก็เป็นกิจกรรมที่วนซ้ำๆ ที่เป็นหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ให้แก้ปัญหา หรือพัฒนา ในช่วงเวลาทำงาน มันก็มีบ้าง ที่ไม่ได้ดั่งใจ ทำไม่ได้บ้าง ไม่ได้รับความร่วมมือบ้าง ปัญหาจิปาถะ หยุมหยิมบ้าง มันก็จะเป็นลดทอนกำลังใจของเรา ที่อยากจะให้มันเสร็จจบพ้นๆไป หรือรอวันหยุด ที่เราจะได้พักผ่อน แต่จริงๆ คือไม่ได้ต้องไปทำมันนี่แหละ ไม่ใช่ทุกคนอยากได้วันหยุดหรอก เพราะถ้าวันทำงานมันสนุก คนก็คงไม่อยากหยุด การทำงานมันเหนื่อย เพราะเราไม่สนุก...

อย่าทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบจนเกินไป

ใครๆ ถ้าออกแบบชีวิตได้ เขาคงออกแบบทุกอย่างให้มันดีพร้อมเรียบร้อย จนเหมือนบังคับตัวเองไปทางนั้นได้เลยโดยไม่ผ่านปัญหาและอุปสรรค มันก็คงจะดีนะ แต่ชีวิตมันจะมีอะไร จะมีค่าอะไรในเมื่อทุกสิ่งที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ถ้าได้ในสิ่งที่ต้องการหมดแล้ว แล้วเราจะอยากได้สิ่งที่เรามีอยู่แล้วหรือ ความท้าทายต่อไปคืออะไรเล่า ชีวิตมันต้องเรียนรู้ ในสิ่งที่เราไม่รู้ เพราะมันเรียกว่าเป็นประสพการณ์ และสิ่งนี้แหละจะมาเพิ่มพูนให้ความรู้ความสามารถ ความเข้าใจ ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เราจะเอาไปพัฒนาเป็นองค์ความรู้ต่อไปได้ ถ้าชีวิตมันแห้ง เพราะเราทำให้มันดี แต่ไม่ได้ออกจากกรอบเดิม ก็อยู่ไปแบบนั้น...

ดี แต่ไม่ตอบโจทย์ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

พักนี้เจอแต่คน เอาของ ที่แต่ละคนกล่าวอ้างว่าดีมาให้ ดีที่เขาชอบแล้วมาบอกต่อ หรือนำมาให้ลองเลย หลายคนไปลองสินค้าบางอย่างแล้วเขาชอบ ก็เลยซื้อมาให้ลอง ผมก็ขอบคุณครับ แต่บางที ผมก็ไม่ได้ใช้ เพราะผมไม่รู้จะใช้ทำอะไร หลายคนสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ มา ด้วยความเชื่อของเขา ว่ามันดี มีประโยชน์ ราคาไม่แพง หรือราคาแพง แต่ถ้าเทียบของในเกรดเดียวกันแล้ว มันถูกกว่ามาก แล้วให้ผมทำลองใช้ ก็..ดีครับ แต่ผมก็ไม่ได้ใช้ เพราะผมก็ไม่รู้จะใช้ทำอะไรอีกเช่นกัน ทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่า...

เราบังคับให้คนเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ เราต้องปล่อยให้เขาเป็นเอง

ในสังคมเรา เราก็เห็นคนหลายๆคนทำตัวดีบ้าง แย่บ้างแตกต่างกันไป เราควบคุมไม่ได้หรอก ในสังคมการทำงาน เราอาจจะมีทีมงาน ที่มีบางคนทำตัวไม่ได้เรื่อง แม้ว่าอายุเขาจะมากแล้วก็ตาม เราหวังว่า ผู้ใหญ่ต้องเป็นผู้ใหญ่ แต่ในความจริงๆ บางคนแค่อายุมากกว่า แต่วุฒิภาวะเขาไม่ได้เพิ่มพูนตามอายุ หากเราเป็นลูกน้อง เราก็คงจะไม่มีความมั่นใจในความเป็นผู้นำของเขา แต่เราก็ช่วยเขาได้บ้างตามหน้าที่ของเรา หากเราเป็นลูกพี่ เราก็หวังว่าลูกน้องหรือลูกทีมของเรา มีวุฒิภาวะเพียงพอ ที่จะเข้าใจในสิ่งที่เราสั่ง แต่ความเป็นจริง เราก็ต้องดูแลเขาเพราะเขาเป็นลูกน้องเรา เราหวังให้เขาเป็นต่างๆนานา แต่จริงแล้วจะเป็นได้หรือเป็นไม่ได้ ไม่ได้อยู่ที่เราสั่งให้เขาเป็น...

ตลาดการขาย มันไม่ใช่แค่ไทย มันคือทั้งโลก

ในสมัยก่อน การค้าขายกับต่างประเทศมันเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่จริงๆแล้ว ตั้งแต่โบราณกาลหลายร้อยปีที่ผ่านมา พ่อค้าที่ลงทุนทำการค้าขนาดใหญ่ ก็เป็นการที่เอาสินค้าเมืองหนึ่ง และขนไปขายอีกเมืองหนึ่ง โดยทั้งทางบก เดินกันเป็นคาราวาน เส้นทางหนึ่งที่เป็นที่รู้จักคือ เส้นทางสายไหม ที่พ่อค้าอาหรับนำสินค้ามาผ่านเส้นทางนี้ไปยังประเทศจีน และนำสินค้าจากประเทศจีนกลับไปขายที่ประเทศของตน หรือพ่อค้าที่มีกองเรือ ที่นำสินค้าจากจีนมาขายไทย และนำสินค้าจากไทยกลับไปขายจีนเป็นต้น ซึ่งสมัยก่อนนั้นกว่าจะได้สินค้าจากประเทศนึง ไปอีกประเทศนึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและได้กำไรดี คุ้มค่ากับการเสี่ยง แต่สมัยนี้การสื่อสาร การติดต่อ และเครื่องมือต่างๆ สามารถทำให้เราซื้อสินค้าจากที่หนึ่งของโลกและอ้อมไปขายได้ แม้จะซื้อแค่ชิ้นเดียวก็ตาม ตลาดไม่ได้โดนผูกขาดอย่างสิ้นเชิงเหมือนกับสมัยก่อน...