พูดช้าๆ เข้าใจง่ายกว่า

ต่อให้เวลาเร่งรีบแค่ไหน เวลาพูด สั่งงานคน ก็ต้องค่อยๆพูด จะรีบพูดเหมือนอวดภูมิ หรือคิดว่าเขาต้องเข้าใจอยู่แล้วนั้นไม่ถูกต้อง หากถ้าเขาเข้าใจแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องพูด ที่เราต้องพูดเพราะเขายังไม่เข้าใจ จะพูดสักไปที รีบร้อนมันก็ไม่ได้อะไร แต่เราคิดว่าได้หรือ หรือคนอื่นตามไม่ทัน เราไม่ได้พูดให้ตนเองฟัง เราต้องพูดช้าและชัด ให้คนอื่นเรา เข้าใจและคิดตามทัน สื่อสารง่ายๆ ไม่ต้องยากนะครับ riztalkclear https://www.facebook.com/rizthink/

ยืนระยะให้ยาวพอ

การจะวัดความเก่งและประสพความสำเร็จนั้น มันต้องมีเงื่อนเวลาเข้ามาอยู่ด้วย เดี๋ยวนี้ พอทำอะไรสักครั้ง ก็เรียกว่าประสพความสำเร็จแล้ว มันอาจจะเป็นโชคของมือใหม่ก็ได้ ตัวจริงหรือเปล่า เราก็บอกไม่ได้ ทำได้ครั้งสองครั้งไม่ได้แปลว่าจะทำได้ตลอดไป นี่แหละครับ heritage ถึงมีเก๋าของมันอยู่ ไม่ใช่แค่ดีอย่างเดียว มันต้องดีติดต่อมายาวนาน นานระดับรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยๆเป็นร้อยเป็นหลายร้อยปีทีเดียว เรียกว่า นานพอที่จะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งโชคและปัญหามาแล้ว สิถึงเรียกว่าตัวจริง RIZitisreal มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/rizthink/

อย่ามีศัตรูพร่ำเพรื่อ

ถึงเราไม่ชอบใคร ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างไร ก็อย่าสร้างศัตรู วันนี้เราชนะ เราข่มเขาได้ แต่เราไม่รู้หรอกในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะโดนย้อนศร ขอดเกล็ดหรือเปล่า เพราะความแค้นมันฝังหุ่น บางคน จริงๆก็ส่วนใหญ่แหละไม่ปล่อยวาง ล้างแค้นสิบปี ไม่มีสาย ถ้ามีแต่คนที่เราไม่ชอบเต็มไปหมด แล้วเราประกาศให้โลกรู้ แน่นอน หากมีอะไรต่อไป คนพวกนี้ อาจจะเด่นดัง ใหญ่โตขึ้นมา วันนึง เราอาจจะต้องเกี่ยวข้อง หรือไปพึ่งเขา ขอให้เขาช่วย แต่มันคงไม่ได้เพราะหาเรื่องเขาก่อนแล้ว...

เจอคนเยอะๆ ก็จะเห็นอะไรหลากหลาย

อย่าทำตัวเป็นคนโลกแคบ ออกไปพบปะผู้คนบ้าง ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างอายุ ต่างอาชีพ เขามีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน อย่าคิดว่าใครๆก็คิดเหมือนกับเรา ต้องระวังหลงตัวเอง การรู้จักจากคนเยอะๆ ทำให้เราเข้าใจคน จะได้รู้ทัศนคติของคนแต่ละคน มีไอเดียในการมองโลกของความจริง คนแต่ละสาขาวิชาชีพก็จะมีความถนัดไม่เหมือนกัน มีความเชื่อไม่เหมือนกัน ชาวสวนก็คิดอย่าง ชาวเมืองก็คิดอย่าง คนที่คงแก่เรียน ดร. ก็คิดอย่าง ชาวบ้านก็คิดอย่าง รู้จักมากๆ เราจะได้ไม่คิดไปเอง คุยกับใครจะได้รู้เรื่อง สร้างเรื่องได้เหมาะกับกลุ่มคน RIZseemoreppl

เมื่องานมันเครียด คิดไม่ออก ก็ทำอีกงาน

บางคนบอกว่าทำงานแล้วเครียด คิดไม่ออกก็ต้องไปพักผ่อน ผมเห็นด้วยนะครับ ว่าพักผ่อน แต่จะพักผ่อนอย่างไร กับอะไร บางคนไปเที่ยว ก็ดีครับ แต่บางคนหาอะไรทำอีกอย่าง เพื่อผ่อนคลายสิ่งที่ทำอยู่หลักๆ แม้ว่ารองๆ ก็เป็นเรื่องงานอีกงาน แต่มันก็ดึงความสนใจ ทำให้เพลินๆไปได้เหมือนกัน แม้คนอื่นจะบอกว่าทำงานอีกละ แต่มันก็อีกงาน เพื่อความผ่อนคลาย เราเองย่อมรู้เอง ไม่ต้องให้คนอื่นมารู้หรอกครับ เพราะเขาไม่เข้าใจ RIZanotherjob

ภาษากาย

การที่พูดโดยที่เราไม่พูดนั้น มันก็คือการแสดงออกทางท่าทาง บางที พูดอย่างแสดงอีกอย่าง คนเห็นก็เชื่อในภาษากายมากกว่า เช่น เรากินอาหารแล้วไม่อร่อย แต่เราบอกอร่อย แต่ร่างกายยี้มันออกมา คนเห็นก็รู้ได้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่การที่ฝึกแสดงออกภาษากายให้ตามสิ่งที่เราพูดนั้น แรกๆก็ออกจากยากหน่อย แต่คำแนะนำของผมคือ แกล้งทำไปก่อน สักพักมันก็จะได้เอง ถ้าเราไม่ฝึก แม้จะขัดกับความรู้สึก แต่จะให้รู้สึกตลอดเวลามันก็ไม่ได้ แกล้งๆไป เก่งแล้วมันจะเนียนเอง คนดูไม่รู้ มีแต่เรารู้ว่าเราอยากบอกอะไร RIZbodylanguage

ทำมากกว่าคนอื่น ย่อมได้มากกว่าคนอื่น

การทำงานของคนที่จะประสพผลสำเร็จนั้น มันต้องผ่านช่วงหนึ่ง หรือฝึกจนเป็นนิสัย การที่เราทำงาน 8 ชม.เท่าคนอื่นนั้น เราก็จะไม่ได้แตกต่างจากเขา ถ้าเราทำเพิ่มมากกว่า 10% เราย่อมดีกว่า 10% ถ้าเราทำมากกว่า 50% ก็ย่อมดีกว่า 50% ถ้าเราทำมากกว่า 100% ก็ย่อมดีกว่า 100% ดีกว่าไม่ใช่รวยกว่า แต่มันอาจจะรวยกว่าก็ได้ มันเป็นการฝึกฝน เพื่อเกิดความชำนาญ มีทักษะเพิ่ม เพราะมันเป็นประสพการณ์...

การตรงต่อเวลา

มันเป็นเรื่องง่ายมากที่คนมักไม่ยอมทำ โดยเฉพาะสังคมบ้านเรา ผมเห็นคนประสพความสำเร็จ เป็นคนที่มาตรงต่อเวลา หรือมาก่อนเวลาเสมอ มันมีข้อดีหลายข้อนะครับการมาตรงต่อเวลา เพราะทำให้เราไม่พลาดโอกาสทั้งตัวเอง สังคม หรือธุรกิจ และมันทำให้เราไม่ต้องไปกังวล ว่าที่เราจะไปนั้นทันเวลาไหม หรือใครจะมารอเราแล้วบ้าง พอลดความกังวลไป สุขภาพจิตเราก็ดีขึ้น มีเวลาเหลือ ใช้เวลาได้เป็นประโยชน์ หากเรามาก่อน ก็จะได้เตรียมตัว เตรียมพร้อมกับเรื่องที่ต้องเจอต่อไป บ่น แต่ความแย่ของบ้านเราคือ คนที่มาตรงเวลา กลายเป็นคนที่ต้องตามคนที่มาช้าไปทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง หากไปงานหรือฟังบรรยาย ก็เสียเวลารอคนพวกนี้ไปอย่างน้อย...

ฉลาดไป ไม่เป็นที่ต้องการ

ในแต่ลำตำแหน่งคุณสมบัติ เราก็อยากได้คนดี คนเก่ง แต่ถ้าเก่งเกิน มันก็ไม่ได้สมน้ำสมเนื้อ เหมือนเรามี ดร. มาทำงานส่งเอกสาร ทั้งๆที่เราคิดว่า เขาหางานอะไรทำก็ได้ เป็นลูกจ้างที่ไหนก็ได้ คุณสมบัติได้ทุกอย่าง แต่นายจ้างไม่ได้มองแบบนั้น เพราะเอาคนเก่งเข้ามา มันก็ต้องมีราคาค่างวด แต่ถ้า ดร.คนนั้น ยอมลดระดับราคา ถึงนายจ้างจะจ้าง แต่มันก็เข้ากับสังคมไม่ได้ ไม่ใช่เพราะ ดร. ไม่ดีนะครับ แต่เพราะสังคมมันมีเส้นกั้นอยู่ เหมือนหัวโขนที่ติดตัวถอดไม่ได้...

อยู่กับปัจุบัน

ปัจุบันคือตอนนี้ แต่ใจเราก็คิดไปข้างหน้า ยิ่งแย่ใหญ่ถ้าเราคิดถึงอดีต เราใช้เวลาปัจุบัน ไม่ได้เพื่อปัจุบันเลย เราใช้เวลากับอดีตมากไป เราก็ยึดติด เราใช้เวลากับการคิดถึงอนาคตมากไป เราก็เพ้อเจ้อ ทำเลย ตอนนี้ ถึงจะใช่ แล้วเดี๋ยวมันก็มาเอง ที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแล้ว มันย้อนไม่ได้ ถ้าจะแก้ก็ตอนนี้ แล้วเดี๋ยวมันก็จะเป็นอดีตที่ดีได้เอง เราจะได้ไม่ต้องคิดถึงมัน RIZnow