ความเชื่อฝังหัว ทำให้เราหลงยุค

ผมโตมากับโลกที่อินเตอร์เน็ตพึ่งมา การเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ยังมีเสียงดันจิ๊ดๆ การอ่านข้อมูลเหมือนการอ่านหนังสือ ยังไม่มีคลิปภาพเสียงเหมือนตอนนี้ และตอนนั้นมันยังต้องใช้คอมพิวเตอร์เครื่องละหลายๆหมื่น ในขณะที่คนทั่วไปยังเปิดคอมไม่เป็น แต่วันนี้ อินเตอร์เน็ตมันถูกลงจนทุกคนใช้มันได้ ถึงแม้จะไม่มีคอมพิวเตอร์ แม้ว่าราคาเครื่องราคาหลักพัน เราก็ใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อมันได้ ทั้งพูดคุยกับคน ดูหนังฟังเพลง มันดีขนาดนี้สำหรับคนปัจุบัน และยังไม่รู้ว่าอนาคตจะไปกันถึงขั้นไหน และถ้าเรายังคิดว่าเราเชี่ยวชาญอยู่ในยุคเก่า มันไม่มีอะไรจะเทียบยุคใหม่ได้นอกจากประสพการณ์ มันไม่พอหรอกครับ เรายังต้องพัฒนาเรื่อยๆ ถึงไม่ทันสมัยแต่ก็ยังดีกว่าคนไม่ยอมตามสมัย RIZbelieve

รู้จริง มันก็ต้องเล่นตัวให้คนอื่นรู้ว่า เรารู้จริง

พอเราเก่งกับสิ่งที่เราทำ ท่าต่างๆ เราก็เรียนรู้ว่าไม่จำเป็น คนเก่งจริง จะแต่งตัวอะไรก็ได้ ก็คล้ายกับคนรวยจริง ไม่ต้องใส่ทองขับรถแพงก็ยังรวยอยู แต่มันรู้แก่ตนเองเท่านั้นนะครับ ไม่มีใครรู้กับเรา ถ้าสิ่งที่เราทำ ยังต้องการคนอื่น ยังไม่ต้องเร้นกายหายไปจากสังคม มันก็จำเป็นต้องมีทรงกันบ้าง ดูสิครับ บางคนไม่เก่งไม่รวย แต่ทรงดี คนยังเชื่อว่ารวย ว่าเก่งเลยครับ แล้วคนเก่งจริง รวยจริง จะมาบ่นคนอื่นว่าเป็นของเก๊ไม่ได้หรอก มีทรงบ้างกับการงาน อยากให้คนอื่นรู้ว่ารวย ก็ต้องอวด อยากให้รู้ว่าเราเก่งก็ต้องโชว์...

ถ้ามันไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่

เราต้องแยกความชอบ กับความเก่ง ออกจากกันก่อน ความชอบจะทำให้เราพยายาม พยายามแบบเอาเป็นเอาตัว กินอยู่นอนกับมัน ทำทุกอย่างเพื่อมัน แต่ คนเราต่อให้พยายามเท่าไหน ถ้ามันไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่ อย่าเสียเวลา เพราะ ต่อให้เราทุ่มเท 24ชั่วโมง มีอุปกรณ์ชั้นนำแนวหน้า พร้อมผู้แนะทำที่ดี แต่ถ้าเราทำมันไม่ได้ ก็อย่าฝืนเลยครับ ปล่อยให้คนทำได้ ให้เขาทำดีกว่า แต่อย่าปล่อยให้ความพยายาม ต้องหายไป เพราะเราสามารถทำอย่างอื่นได้อีกในอย่างที่เราชอบ เราอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในนั้น...

อย่าทำสิ่งที่ทำได้เท่านั้น

อยากจะทำได้เหมือนคนอื่นนะครับ มันก็ต้องฝึกต้องเริ่ม ถ้าเรามัวแต่ทำแค่สิ่งที่เราทำได้ มันก็พัฒนาได้ไม่เท่าไร มันก็ไม่เคยกันทั้งนั้น แต่พอเริ่มทำมันก็มีทางไปของมัน แน่นอน มันไม่ง่าย เพราะอะไรไม่เคย มันก็ยังจับหลักไม่ได้ ให้เวลา ให้โอกาส แล้วมันจะดีเอง RIZgiveachance

จะมีค่า ต้องหาคนที่เห็นคุณค่า

ของดีๆ ที่ขายกันไม่ได้ เพราะมันขายผิดที่ ไปขายของกับคนที่ไม่ต้องการ มันต้องพยายามมากเป็นพิเศษ และโอกาสที่จะได้ขายได้นั้นก็น้อยเป็นพิเศษด้วย จะเสียเวลาทำไม การที่เราหาคนซื้อ หรือหาลูกค้านั้น เราต้องมองดูลูกค้าด้วย หากเพียงเพราะเขามีเงินมันไม่พอเป็นเหตุผลที่เราจะพยายามขายเขา เพราะถ้าเราเจอคนที่อยากซื้อ ต่อให้เขาไม่มีเงินเขาก็จะขวนขวายหามาซื้อเราอยู่ดี เราต้องพยายามหาคนที่อยากจะได้ของๆที่เราจะขายก่อน ไม่ใช่ไปคิดแทนเขา หาคนที่เจ็บปวดเรื่องเดียว มันจะกลายเป็นคนที่ใช่ คุยกันง่าย ไม่งั้นเหนื่อยตาย และขายไม่ออก RIZvalue

ตั้งใจแล้วไม่ได้ แต่พอไม่ได้ตั้งใจกลับสำเร็จ

ตั้งใจแล้วไม่ได้ แต่พอไม่ได้ตั้งใจกลับสำเร็จ ชีวิตบางทีก็แปลกๆดีเหมือนกัน มันก็เป็นปกติของชีวิตคนเรานะครับ เรามุ่งมั่นๆ พยายามทำ แต่มันก็ต้องมีอุปสรรคที่คอยทำให้เราไม่ถึงฝั่งฝัน มันจะเป็นเพราะกรรมหรือเปล่า เราพยายามมากพอหรือเปล่า หรือมันยากไปหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แต่พอคิดว่าไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังพยายามไป เหมือนพระมหาชนก ถึงรู้ว่าไม่ถึงฝั่ง แต่ก็ยังพยายามว่ายน้ำไป แล้วนางฟ้าก็มาช่วยเหลือ เอ้อ บทมันจะง่ายก็ง่ายเหมือนกัน แต่ที่บอกแบบนี้ไม่ได้หมายความให้เรื่อยๆไปนะครับ ก็พยายามไป อย่าท้อ เดี๋ยวมันก็ได้เอง แต่บางทีมันได้แบบงงๆ เหมือนซีเรียสจนไม่ซีเรียสแล้วมันมา...

เราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต

ตอนผมเรียนจบปริญญา ผมรู้สึกว่าผมเก่ง แต่พอทำงานผมรู้สึกว่าผมยังมีเรื่องไม่รู้อะไรอีกเยอะแยะ สรุปที่ผมเรียนมา มันเอามาทำอะไรได้บ้างเนี่ย ผมก็ต้องเรียนรู้งาน เหมือนเรียนใหม่ทั้งหมด ที่ผมเรียนผ่านมาได้วุฒิ ได้ปริญญานั้น เหมือนเอาใบมาเพื่อมีสิทธิจะได้เข้าอยู่ในโลกใหม่เท่านั้นเอง และเมื่อถึงจุดนึงที่ผมรู้ในสิ่งที่ผมต้องรู้ กับสิ่งที่ทำ หากถ้าผมต้องเดินทางต่อ ผมก็ต้องเรียนรู้ใหม่อีก และมันต้องเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และถ้าผมหยุด สิ่งที่ผมรู้ มันก็จะตามไม่ทันสมัย ไม่ทันโลก สิ่งที่ผมรู้มันจะไม่ได้กลายเป็นสิ่งที่ คนต้องการหรือต้องใช้ต่อไป การเรียน ไม่มีวันจบ เราต้องเรียนตลอดชีวิต แต่การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องไปสถานศึกษาเท่านั้น...

ผิดแล้วก็ถูกได้ อย่าถอดใจ

หากถ้าเราทำอะไรผิดพลาดไป ขอให้รู้ว่าต้องรับผลของการกระทำนั้น เราก็ยังมีโอกาสทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ ถึงจะเรื่องใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องโลกแตก แต่มันมีวิถีของมัน คือผิดแล้วก็แก้ แก้แล้วมันก็จะถูกต้อง ชีวิตถ้าไม่ตาย ก็ยังเดินต่อไปได้เสมอ แต่ถ้าผิดแล้วคิดว่าหมดแล้วไปตาย อันนั้นจบเลย เสียดาย เราต้องหาโอกาสใหม่ให้กับตัวเอง เปิดตัวเองจากเรื่องผิด ถึงครั้งหน้าอาจจะมีโอกาสผิด แต่มันมีโอกาสถูกด้วยเหมือนกัน สู้ครับ ผิดได้ไม่ตลอดไปหรอกครับ มันก็ต้องมีถูกกันบ้างแหละ ขอให้สู้ต่อ โอกาสมีแน่ๆ RIZwrongtobe

เราจะมีที่ยืนในอนาคตหรือเปล่า

วันนี้เราเก่ง พรุ่งนี้เรายังจะเก่งอยู่ไหม จะมีใคร หรืออะไรที่ทำได้ดีกว่าเรา ถูกกว่าเราหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วเราจะต้องไปยืนอยู่ที่ไหน เมื่อเราทำอะไรซ้ำๆ จนเกิดความชำนาญ แต่ถ้าโลกมันเปลี่ยน แล้วเราต้องโดนการเปลี่ยนแปลง เราจะเหลืออะไร มีอะไรบ้างที่เราเตรียมไว้ได้ บางเรื่องอาจเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแต่เราก้าวมาสักก้าว เราก็นำหน้าคนพวกนั้นแล้ว ความสามารถเฉพาะทางเป็นสิ่งที่ดี แต่การเรียนรู้ และการปรับตัว ให้เข้ากับโลกปัจุบัน การรู้จักคนที่หลากหลาย ต่างสัมมาอาชีพ และวัย ทำให้เรามีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น มองได้หลากหลายมากขึ้น...

อยู่กับคนเก่ง

เราอยากเก่ง มันก็ยากที่จะฝึกวิชาอยู่คนเดียว อย่างน้อยเราต้องรู้ระดับที่เปรียบเทียบจากสังคม คือ ถ้าเราเทียบกับคนอื่น เราถึงรู้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง เว้นแต่ เปรียบแล้ว เราดีกว่ามาก อันนั้น ก็ค่อยไปฝึกวิชาอยู่คนเดียว แต่ถ้ายังไม่ใช่ และยังไม่เก่ง การฝึกวิชาคนเดียวมันก็ทำได้ แต่มันดีไม่พอ และเร็วไม่พอ เราต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนเก่ง พูดคุยกับคนเก่ง หรือทำกิจกรรมร่วมกับคนเก่ง ไม่นาน เราจะซึมซับเข้ามาเอง ไม่นานที่เราออกไปเปรียบกับสังคม เราจะรู้ได้ถึงพัฒนาการของตัวเองได้ ถ้าไม่ถอดใจ ไม่ไหวไปเสียก่อน...