ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด โอกาสมีเสมอ

การมองโลกของคน มันก็บอกถึงโอกาสด้วยนะครับ บางคน สนุกสนานเพลิดเพลิน แล้วเวลาก็ผ่านไป สิ่งที่ได้ เขาอาจจะมีความสุข แต่บางคน ทุกอย่าง เป็นโอกาสของเขาเสมอ การมองแล้วคิดหาปัญหา ทั้งๆที่คนส่วนใหญ่ ไม่ได้คิดถึงมัน ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหาด้วยซ้ำไป แต่จริงๆมันมีปัญหา เพียงแต่ชินกับมัน เราต้องอย่าไปชิน อย่าไปยอม มองหาทั้งกว้าง ทั้งแคบ ต้องฝึกฝน หาสิ่งที่ไม่มีในสิ่งที่มี เมื่อเจอมันแล้วก็ต้องลองว่าใช่หรือเปล่า ถ้าเช่นนี้แล้ว เราจะเจอโอกาสอยู่เสมอ...

ไม่มีปัญหาใด ที่จะทำให้ถึงทางตัน

ในชีวิตประจำวันของเรา จะต้องเจอปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะใหญ่ หรือเล็ก เราก็ต้องแก้ด้วยกันทั้งนั้น สำหรับเรื่องบางเรื่องที่เรามองเป็นเรื่องเล็ก เราก็แก้มันได้โดยง่ายดาย แต่พอเรื่องใหญ่ๆ บางทีทำให้เราหาทางออกไม่เจอ เลยไม่สู้เสีย แต่เชื่อว่า ใดๆในโลกล้วนมีทางออก ทุกปัญหา มีทางแก้ อาจจะไม่ตรงใจ ไม่ต้องกับสิ่งที่หวัง แต่มันก็แก้ได้ทุกอย่าง บางทีก็ต้องแลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างเพื่อได้ทางออก มันไม่มีจะได้ทุกอย่าง ก็ต้องเสียบ้าง หรือเสียเยอะ อยู่ที่คิดสะระตะแล้ว คุ้มหรือเปล่า เพราะบางที มันก็ต้องแลกกันหมดหน้าตัก...

คนเราเมื่อมีพรสวรรค์ พรนั้นมักหาช่องทางฉายแววออกมาจนได้

หากเราชอบทำอะไร ถ้าไม่ได้ทำสิ่งนั้นจริงๆ เราก็จะทำมันอ้อมๆ มันเหมือนแทรกอยู่ทุกการกระทำของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นคนจริงจัง หรือสบายๆ หากเราชอบวาดรูป และแม้เราเป็นวิศวกร มันก็ยังจะแทรกอยู่ทุกการกระทำของเรา เพราะงาน คือสิ่งที่ทำให้เราดำรงชีพมีเงินมาใช้จ่าย แต่การวาดรูปมันเป็นการหล่อเลี้ยงจิตใจให้เราดำรงความรู้สึกได้ เมื่อศาสคร์มี ศิลป์ก็มา มันก็ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้น มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ เมื่อคนมันจะเก่ง แต่มันไม่ใช่เก่งเลย มันก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาเช่นกัน เพียงแต่ เราชอบ เราเลยตั้งใจ เราเลยทำมัน ไม่ใช่โดนบังคับ พอทำไปมากๆ...

step out of you head

คนส่วนใหญ่เป็นคนคิดมาก คิดอยู่นั่นแหละ คิดเป็นนตุเป็นตะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มอะไร คิดไปเรื่อย คิดไปจนจบ ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คิดอย่างเดียวไม่ได้งานนะครับ มันต้องทำด้วย คิดไปเองที่สุดจะทำร้ายตัวเอง มันไม่มี factor effect มันไม่รู้ผลกระทบอะไรเลยไปมากกว่าจะมโนจินตนาการไปเอง ฝึกทำบ้างครับ คิดไปทำไป มันพิสูจน์ว่าสิ่งที่คิดถูกต้องไหม ไม่งั้นมันก็แห้ว ฟาวล์ไป ออกมาจากความคิดเถอะครับ RIZstepout

ความทุกข์มาจากความเยอะของคนเรา

มีเรื่องน้อย ปัญหาน้อย เรื่องเยอะปัญหาเยอะ แต่ที่เรื่องเจอมันก็ปัญหาแค่นั้น แต่ตัวเราใจเราโอเว่อร์ไป เลยทำให้มันเยอะเอง จะบอกว่าเรื่องนิดเดียวก็ไม่ใช่ แต่พอคิดไปไกลเลยเถิดงานนี้ละเรื่องใหญ่ การมองปัญหาเท่าที่เป็นจริง ไม่ถึงกับปล่อยวาง พอเห็น คิด เข้าใจ แก้ไข มันก็จะแก้ได้ง่ายกว่า คิดเองเออเองไปเองมั่วซั่วไปหมด มันก็จบยาก ที่ยากนะ ใจเราเองเลย ไม่ใช่ปัญหา ก่อนแก้ปัญหา ต้องระงับใจตัวเอง ไม่ให้ฟุ้ง อย่าเยอะ แล้วมันจะแค่นั้นเองเลย...

เรากังวลในเรื่องเดียวกันแตกต่างกัน

ผมทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่กันไป ทุกคนทำหน้าที่ของเขา ปัญหาของเขา ถ้าเขาแก้ไม่ได้ เราก็อาจช่วยแก้ได้ แต่แก้ในมุมมองของเรา ซึ่งก็ไม่ตรงใจเขา เรากับเขา กังวลไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราช่วยกัน เชื่อกันใจ งานก็สำเร็จได้ แม้ไม่สมประสงค์แต่ก็เสร็จเหมือนกัน พอได้อยู่นา RIZteam

ชีวิตอยู่สุขสบายจะหาความสำเร็จไม่ได้

ชีวิตอยู่สุขสบายจะหาความสำเร็จไม่ได้ ความทุกข์เป็นสิ่งที่เราต้องรู้จัก คนเราต้องมีความทุกข์ก่อน ความทุกข์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทำให้เราแข็งแรง ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทำให้เติบโต พอเราเข้าใจความทุกข์แล้ว เราถึงจะเข้าใจความสุขสบาย แต่ถ้าเราสนใจแต่ความสุขสบาย หนักไม่เอา เบาไม่สู้ อะไรก็ไม่เอา แล้วเราจะประสพความสำเร็จได้อย่างไร RIZcomfort

การผจญภัย แปลให้ออกแล้วจะเข้าใจ

เราเข้าใจคำว่าผจญภัยโดยรวมๆ ว่าเหมือนการเดินทางที่เราต้องออกไปสนุกสนาน และมีอันตรายก็ว่าไป แต่พอมาย้อนคิดละเอียดในความหมายแล้วนั้น แยกออกมาเป็นคำได้ว่า ผจญ กับ ภัย ผจญ คือการ พบเจอ ภัย คือ อันตราย มันแปลว่าพบเจอความอันตราย คนที่ออกไปผจญภัย รู้ตัวก็ต้องเตรียมความพร้อม หากไปไม่พร้อม มันก็เจอภัยแล้วเอาตัวไม่รอด หลายคนคิดว่าจะไปเที่ยวไปสบาย จริงๆด้วยความหมายของภาษามันบอกอะไรบางอย่าง ที่คนไม่ใส่ใจ ก็จะไม่เข้าใจในคำเตือนของคนโบราณที่รจนาภาษามาให้คนเข้าใจกัน คำทุกคำ มันมีความหมาย...

สวรรค์ รูปธรรมอาจจะแตกต่างกัน แต่นามธรรมเหมือนกันนะ

ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องศาสนาเท่าไรสำหรับผม ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดกับคนที่เข้าใจ หากไม่เช่นนั้นมันจะเป็นเรื่องมากกว่า หลักๆในโลกนี้ ศาสนา ก็จะรู้จักกันคือ คริสต์ อิสลาม พุทธ แต่ละศาสนาก็มีแนวทาง แต่ก็ทำให้คนเป็นคนดี จึงขออปุมาเป้าหมายก็น่าจะคล้ายกัน เวลาจะพูดถึงสรรค์ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่รวบรวมสิ่งดีๆ แต่ละศาสนาก็อธิบายแตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมในแต่ละกลุ่มคน จนเป็นรากฐานของคนแต่ละกลุ่ม คนส่วนใหญ่มาเห็นช่วงปลายแล้ว ดันยึดถือทิฐิ หรือโดนเอามานำเป็นเครื่องมือเลยทะเลาะกัน เกิดเป็นสงครามใหญ่ บานปลาย ทำให้หลงลืมการเริ่มต้นของแต่ละเรื่องแต่ละศาสนา มันต่างกันในภาพต่างๆ...

ไม่อ่านหนังสือ ไม่ชอบฟังเรื่องมีประโยชน์ จะฉลาดได้เหรอ

คนมีความคิด ก็ต้องคิดเป็น ก่อนคิดเป็นมันก็ต้องมีพื้นฐาน คนเราก็ไม่มีเวลามากพอ การอ่านหนังสือ ทำให้เราเราเปิดโลกทัศน์ แต่กับนิสัยคนไทย ชอบอะไรง่ายๆ เอาสบายๆ ความบันเทิง แล้วจะมีความคิดได้อย่างไร พอเสพสิ่งที่เป็นความบันเทิงมากๆ จึงเป็นผู้ตามมากกว่า อันนี้ก็เป็นข้อด้อยอย่างหนึ่ง เมื่ออ่านน้อย ทำให้มีภูมิน้อย การเปิดรับก็จะน้อย จึงทำให้เป็นคนที่ก็ไม่ชอบฟังเรื่องที่มีประโยชน์ แล้วคนจะฉลาดได้เหรอ อ่านก็ไม่เอา ฟังก็ไม่เอา แล้วยังพูดมากกว่า แย่เลย RIZreadnot