เรื่องเล็กๆน้อย มันก็ทำให้คนประทับใจได้

การทำดี หรือการทำอะไรให้ มันไม่จำเป็นเลยที่ต้องเป็นเรื่องใหญ่ๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่แหละ ที่ทำให้สิ่งธรรมดาๆที่เราทำกันทุกๆวันแตกต่าง การใส่ใจ ใส่รายละเอียดนั้น มันทำให้ดูสิ่งที่จำเจทุกๆวัน มันแปลกออกไป จนรู้สึกได้ คนที่ใส่ใจนั้น เราจะรู้เลย แต่คนเราก็ชอบคิดไปเองว่า big surprise มันเด่นกว่า ชัดเจนกว่า แต่การพยายามมากจนเกินไป มันอาจจะแป๊กๆ ก็เป็นได้ แล้วจะยิ่งผิดหวัง จะทำแต่เรื่องใหญ่ๆ เรื่องเล็กๆไม่ทำ ทำให้ลืมไปว่า เราใช้ชีวิตเป็นอยู่แบบไหน...

ขึ้นบันไดทีละก้าว ตอนล้มจะได้ไม่เจ็บ

ทำอะไรก็ควรทำอย่างมั่นคง รากฐานแข็งแรง ผิดพลาดอะไรไป มันจะได้แก้ไม่ยาก ผมเห็นคนหลายคน บอกว่าจังหวะมา เลย รีบๆ ก้าวๆ กระโดด ก็มีล้มลง ตกลงคอหัก เจ็บตัวก็เยอะแยะ เพราะเขาคิดว่าได้ รีบได้ จังหวะมา แต่ไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมหรือเปล่า การทำอะไรด้วยความไม่พร้อมนั้น เป็นความเสี่ยง ผิดพลาดไปก็ต้องรับผิดชอบ จะบอกไม่รู้ไม่ได้ แต่ที่ผ่านๆมาก็เห็นว่าไม่คิดกัน เล็งผลเลิศเป็นส่วนใหญ่ ช้านิดหน่อย แต่ชัวร์...

อากาศร้อน ก็ควรต้องกินน้ำเย็น

อากาศร้อน มันทำให้คนหงุดหงิด ยิ่งสังคมเมือง เป็นสังคมที่วุ่นวาย รถติด มันง่ายต่อการที่จะระเบิดอารมณ์ ยิ่งคนต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำให้จุดเดือดมันต่ำ แตะนิดแตะหน่อยก็อาจจะระเบิดได้ มันไม่ใช่เราผิด หรือใครผิด มันเป็นองค์ประกอบที่มากดดันเรา ผมว่าทุกคนรู้ว่า อารมณ์หงุดหงิด แต่ไม่ได้สนใจ มันเลยระเบิดง่าย กินน้ำเย็นๆสักหน่อย หาอะไรหวานๆกิน มันจะช่วยบรรเทา อย่างน้อยก็ผ่อนไปเยอะ น้ำเย็นๆสักแก้ว เปลี่ยนอิริยาบทอีกหน่อย สู้ต่อได้ด้วยสติครับ RIZhot

อย่าสร้างปัญหา เพื่อที่จะเป็นข้ออ้างได้แก้ปัญหา

คนเราอยู่เฉยๆ มันก็ดีอยู่แล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าคน และอยู่ร่วมกันในสังคม มันย่อมอยู่เฉยไม่ได้ มันก็ต้องมีเรื่องนั่นโน่นนี่ตลอดเวลา บางที เรื่องไม่มีอะไร เราก็ยังสร้างเรื่องขึ้นมา ไอ้ที่สร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นข้ออ้างในการแก้ไขมัน บางเรื่องที่สร้างมันก็แก้ง่ายๆ หรือว่าเรารู้อยู่แล้ว ว่า ควบคุมได้ ก็ว่าไป แต่บางเรื่องสร้างมาแล้ว แล้วคุมมันไม่ได้ บานปลาย กลายเป็นเรื่องใหญ่โต งานนี้และงานช้าง เอาตัวไม่รอด แล้วมีปัญหาทับตัวเองก็เยอะ แน่นอนสถานการณ์สร้างวีรบุรุษ แต่ผมรู้ว่าใครๆ...

อย่าหันหลังให้คู่ต่อสู้ เดี๋ยวจะแพ้ไม่รู้ตัว

ในสนามรบ แม้ว่ากองทัพที่ยิ่งใหญ่ รบกันแบบไร้พ่าย มันก็ไม่ได้แปลว่าแพ้ไม่เป็น บางครั้ง เราชอบทึกทักไปเอง และเอาอดีตที่ผ่านมาเป็นตัวตั้งค่ามาตราฐาน ว่าเราเทียบกับคนอื่นเขาเป็นอย่างไร และเอามาเดาปัจุบัน ที่เราคิดของเราไปเอง ด้วยประสพการณ์ว่าเขาคงเติบโตด้วยความเร็วเดียวกับเรา แต่เอาจริงๆ ผู้แพ้ เขาอาจจะเร่งพัฒนาตัว ด้วยความรู้สึกว่าเขาต้องรับเร่ง เพื่อจะเอาชนะเราได้ อย่าประมาทเชียว ไม่งั้นถ้าเขาไม่เอามีดมาจ่อคอเรา เขาก็ก้าวข้ามเราไปแล้ว และเราก็ยังคิดอยู่ไปเองว่า เขายังตามหลังเราอยู่ ออกไปดูโลกกว้างเพื่อการเรียนรู้บ้าง อย่าออกไปโลกกว้างแล้วก็คิดเหมือนเดิม RIZseetheworld

เริ่มด้วยการเลียนแบบ แล้วค่อยหาทางตัวเอง

มันยากนะครับ ที่คนเราจะคิดอะไรใหม่ๆ หรือคิดอะไรของตัวเองได้เลย แบบอยู่ดีๆโผล่ มันดูล่องลอย และไม่มีพื้นฐานอะไรมารองรับ สิ่งที่เราเรียนรู้ คือภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา และค่อยๆ ขัดเกลา เพิ่มตัด มาเรื่อยๆ ผ่านยุคสมัยต่างๆ เรียนรู้มันไม่ผิด อย่างน้อยมันก็ย่นระยะเวลาเป็นพันๆปี ที่เราจะรู้ได้ทัดเทียมและมากกว่าคนโบราณ ไม่ต้องรีบที่จะหาตัวตน เพราะมันจะง่ายถ้าเรามีพื้นฐานที่เข้มแข็ง ประสพการณ์ที่มากพอ และตกผลึกไปกับมัน เมื่อนั้น มันจะง่ายที่จะหาทางตัวเอง ลอกไปก่อนครับถ้าไม่รู้ แล้วค่อยทำความเข้าใจกับมันให้มากพอ แต่อย่าสักแต่ว่าลอก...

ใช้สติ ห้ามใจ

สิ่งต่างๆ ผ่านเราทุกวัน ถ้าจะให้แยก มันก็มีสิ่งที่ดี และสิ่งไม่ดี แต่ปกติ เรามักไม่ได้มองมันว่าแค่เป็นสิ่งดีกับไม่ดี มันมีความอยากกับไม่อยากอยู่ด้วย เพราะ ถ้าเจอสิ่งที่อยาก คนเรามักมองข้ามสิ่งดีกับไม่ดีไปเลย และถ้าเราอยากในสิ่งที่มันไม่ดี แน่นอน ถ้าคิดมันก็หยุดตัวเองได้ แต่เพราะไม่คิด เราเลยตกหลุมของความไม่ดี ที่เราทึกทักไปเองตามความอยาก เมื่อเราทำในสิ่งไม่ดี เพราะความอยากนั้น พอเรารู้สึกตัว หรือทำมันไปแล้ว ความอยากมันก็จะหายไป หลงเหลือแต่สิ่งที่ไม่ดี ที่เราต้องรับผลของมัน มันไม่คุ้มหรอก...

ความลำบากสร้างคน

ผมมีเพื่อนเยอะ และเพื่อนๆผมก็หลากหลาย หลายคนรวยตั้งแต่เกิด หลายคนพึ่งมารวยตอนโต หลายคนรวยเอง หลายคนที่บ้านรวย ด้านนี้คือมุมหนึ่ง อีกด้านคือ หลายคนยังไม่มีเงิน เรียกว่าจนก็ก้ำกึ่ง บางคนเคยมีเงิน แต่ตอนนี้ไม่มีเหมือนแต่ก่อน จะอย่างไรก็ตาม ผมสนใจอยู่ที่ว่า ตอนนี้ยังเอาตัวรอดอยู่หรือไม่ ส่วนใหญ่ที่สบายมาก่อน มักไม่ค่อยมีภูมิคุ้นกัน เรียกว่าเจ็บไม่ได้ จนไม่ลง เลยต้องลำบาก ไม่เหมือนพวกที่เจอความลำบาก หรือฝึกตนมาก่อน เอาตัวรอดสบายๆ ผมเลยมองว่า จนรวยไม่สำคัญแต่...

ทุกคนที่เก่ง ย่อมมีคนริษยา

การเป็นคนเก่ง จริงๆมันดีนะ แต่เพียงแต่ การได้มาสิ่งนี้ จะได้บางสิ่งที่ไม่ได้อยากมาด้วย คนเราก็มีหลากหลาย ความรู้คิดอ่าน ไม่เท่ากัน ถ้าเช่นนั้นจะหวังให้ คิดเหมือนกันกับอย่างเราก็ไม่ได้ คนทั่วไปก็ย่อมชอบที่ให้คนมารักเรา แต่ก็ไม่ชอบที่คนเกลียดเรา แต่เราก็พยายามจะทำให้กลุ่มที่เกลียดเข้าใจเรา บางทีก็ได้ บางทีทำไปก็เสียเวลา จุดมุ่งหมายของเรา มันย่อมอยู่เหนือกว่า เมื่อมันใช่ ย่อมมีคนเข้าใจ ในท้ายที่สุด ปล่อยมันไปตามทางของมัน เราก็ทำหน้าที่ของเรา ให้ดีที่สุด ดีกว่า RIZwhenigood

เหตุผลมาทีหลังสำหรับบางเรื่อง

ผมใช้ตรรกะ ในการดำรงชีวิต เป็นอย่างมาก ผมใช้ตรรกะ ตัดสินแทบทุกสิ่ง เพราะมันคิดได้ คำนวนง่าย ผมใช้ชีวิตหลักๆ อยู่กับงาน สิ่งที่ทำ มันต้องรับผิดชอบ และตรรกะทำให้ผมทำงานง่ายเสมอ แต่ของบางอย่าง มันไม่ควรใช้ตรรกะตัดสิน ถ้าใช้มันตัดสิน คำตอบจะเป็นความถูกต้อง เหมาะสมมากกว่า ความรู้สึกว่าใช่ ของบางอย่าง ไม่ควรมีคำตอบ แต่ก็ชอบมีคนมาถาม มันเป็นปัญหาโลกแตก บางที ถ้าตอบไม่ได้ หรือตอบว่าไม่รู้...