เราเอาใจใส่เขา เขารู้หรือเปล่า

หลายๆคำสุภาษิตของไทย มันก็มีความเหมาะที่จะใช้สำหรับบางสถานการณ์ น้ำขึ้นให้รีบตัก ก็หมายถึงโอกาสมาให้รีบๆ ช้าๆได้พร้าเล่มงาน ก็บอกว่าทำอะไรก็ต้องใจเย็นๆ สองความหมาย มันก็ไว้ใช้ต่างบริบทกัน ความหวังดีก็เช่นกัน หากเราทำอะไรไปทุกอย่าง ด้วยการปิดทองหลังพระแล้วนั้น มันก็คาดหวังได้ว่า คนเขาก็จะไม่รู้ว่าเราทำอะไร และเราก็หวังให้เขารู้เองในสิ่งที่เราทำ แม้เป้าหมายที่เราทำมันคนละอย่าง จะให้เขารู้อย่างที่เราอยากให้เป็นมันยากมาก จริงๆเราควรจะปรับตัวเราเอง ถ้าอยากทำให้เขาเห็น ก็ต้องทำให้เขาเห็น ไม่ใช่ทำให้เขาไม่เห็นแล้ว หวังว่าให้เขาเห็น การเอาใจใส่เหมือนกัน ถ้าเราทำให้เขาทุกอย่าง เตรียมให้เขาหมด แต่เขาไม่รู้เลย...

ตรรกะมากๆ ก็แพ้สัญชาตญาณ

การเรียนรู้เข้าใจคน มันก็หาได้ทางประสพการณ์ หรือไม่ก็เป็นต้องหาความรู้เป็นวิทยาศาสตร์เอามากหน่อย จริงๆ มันก้เป็นความรู้เชิงลึกเพิ่มพูนความรู้ การที่เรียนรู้ว่าสมองคนเราทำงานอย่างไร มันก็บอกให้เรารู้เกี่ยวกับกลไกการทำงานของมนุษย์ เรื่องของการนึกคิด อารมณ์และความรู้สึก การใช้ตรรกะ เมื่อเรามีเวลา่ เราก็สามารถพินิจวิเคราะห์ไตร่ตรองได้ แต่ ถ้าเราฝึกมาไม่ดี อะไรจวนตัว เราจะใช้สัญชาตญาณไว้ก่อน เพราะมันเป็นสามัญพื้นฐานของคนเราทั่วๆไป เมื่อเราเข้าใจกลไกของสมอง เราจะรู้จักว่าเราจะต้องทำอย่างไรกับคน RIZislogic

ความมั่นใจ ต้องบอกตัวเอง

คนที่ไม่กล้า ก็ต้องหาความกล้าจากคนอื่น แต่คนทำก็เป็นตัวเองอยู่ดี จะไปลงคอร์สแล้ว จะทำให้ตัวเองกล้า มันก็ดี แต่มันทำได้จริงๆเหรอ ไม่ได้บอกว่าเสียเงินเสียทองแล้วจะดี หรือไม่ดี เพราะสุดท้ายก็แล้วแต่คน เพราะคนที่กล้า ต้องคิดเองเป็น คิดได้แล้ว ถึงกล้า ไม่ได้แค่บ้าบิ่น คนไม่กล้า เพราะเขายังคิดไม่จบ วนไปวนมา แล้วก็ไปถามความคิดเห็นของคนอื่น จะให้คนอื่นบอก ก็ยังมีแย้งอยู่ในใจ มีเผื่อได้เผื่อเสีย แบ่งรับแบ่งสู้ ถ้าไม่ดี ก็อ้างคนอื่น...

กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง

สำหรับสังคมฝรั่ง อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกหรือยากแต่อย่างใด แต่สำหรับคนเอเซีย หรือคนไทย มันกลับกลายเป็นเรื่องยากอย่างน่าตกใจ ด้วยความคิดอ่อนน้อมถ่อมตน ในบางครั้งอาจจะโดนกดขี่แบบไม่ถูกต้อง ปกติในด้านนึงผู้น้อยควรอ่อนน้อม แต่ผู้ใหญ่ก็ควรใจกว้างด้วยเช่นกัน เมื่อด้านใดด้านนึงไม่ได้ส่งเสริมกัน มันก็จะทำให้ปัญหาเกิดตามมา ในหลายๆครั้ง การทำงาน หรือสิ่งที่เราทำ มันไม่ได้ คิดถึงผู้ใหญ่หรือผู้น้อย มันก็มีความเท่าเทียมกันอยู่ แต่มันคงอยู่ในรูปแบบไหนที่จะแสดงออกมาให้เหมาะสม การทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือทัดทานผู้ที่ทำผิด ก็เป็นสิ่งที่สมควรอยู่ ไม่ใช่ไม่กล้า ไม่ควรกลัว ผลกระทบ แต่ก็ไม่ได้ห้าวหาญจนเป็นที่น่ารังเกียจ...

ถ้ามีความรับผิดชอบ… ผ่านได้ครับ

หลักในการทำงาน หรือจะทำอะไรก็ตามที มันก็ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างด้วยกัน จะเป็นความสามารถ ความเข้าใจ ความสนใจ ก็ตามที แต่แรกสุดที่จำเป็นและต้องมีคือ ความรับผิดชอบ เมื่อได้มอบหมายงานให้มา รับผิดชอบแล้วนั้น เมื่อคนเรามีความรับผิดชอบแล้ว รายละเอียดก็จะตามมา ถ้าไม่รู้ก็ต้องหาความรู้ให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องหาทางทำให้ได้ คนที่มีความรับผิดชอบ มักไม่ทำอะไรชุ่ยๆ งานมันก็จะเนี๊ยบๆหน่อย มอบหมายให้คนมีความรับผิดชอบ เราก็เบาใจ RIZresponsibility

คนแน่จริง ถึงรอดได้ทุกสภาวะ

บางคนตกงานแล้ว ก็ยังหางานไม่ได้ ไม่ว่าจะตั้งค่าตัวถูกแค่ไหน บางคนมีคนมาตื้อให้ไปทำงานด้วย ทั้งๆที่ก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนอะไร จะบอกว่าความเก่ง มันก็ใช่ แต่มันไม่ใช่เก่งเฉยๆ มันคือเก่งมากๆจนโดดเด่น หรือผมเรียกมันว่า ของจริง แน่จริง หรือมืออาชีพก็ตามที แต่การจะแน่จริง มันไม่ได้มาด้วยโชคช่วย เราต้องขวนขวายอย่างมาก จะว่าไปแล้วทำงานหนักกว่าคนทั่วไป ต้องรู้จริง ลึกซึ้ง จนเป็นที่ยอมรับของคนอื่น ทำงานได้ทั้งเล็กและใหญ่ และทุ่มเทกับมัน เป็นเท่าทวีคูณด้วยซ้ำไป แต่ถ้าหากไม่ทำอย่างนั้น เราก็กลายเป็นแค่คนธรรมดา...

ในการทำงาน จงหลีกเลี่ยงคนประเภทนี้

เวลาทำงาน ก็ต้องเจอผู้ร่วมงาน หรือผู้เกี่ยวข้อง จะเป็น หัวหน้า เจ้านาย ลูกน้อง คู่ค้า คนว่าจ้าง จะอะไรก็แล้วแต่ ขึ้นชื่อว่าคน มันก็มีนิสัยใจคอ ความมุ่งมั่นแตกต่างกันไป ถ้าเรามองเห็นว่าเขาเป็นอย่างไร เราจะได้ทำตัวถูกกับคนกลุ่มนั้นได้ จำพวกดีๆ เราไม่ต้องทำอะไรมาก ตั้งใจ ทุ่มเท ทำดี มันก็ไปต่อได้ แต่พวกที่ต้องหลีกเลี่ยงเลยนะครับคือ มักง่าย เอาแต่ได้ โง่...

ถึงแม้อยู่เฉยๆ รายจ่ายก็เกิด

จะให้ประหยัดที่สุดยังไง ไม่ยอมทำอะไร มันก็เกิดรายจ่ายอยู่ดี จะไม่ออกนอกบ้าน ข้าวก็ต้องกิน จะกี่มื้อก็ตาม ค่าน้ำไฟ หรือสิ่งจำเป็นต้องใช้ ผ้าก้ต้องซัก ผงซักฟอกก็ต้องใช้ อาบน้ำก็ต้องมี แปรงสีฟันยาสีฟัน ยาสระผม สบู่ มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่ดี เงินที่มีก็ต้องร่อยหรอ ถ้าประหยัดก็จ่ายน้อยหน่อย ถ้าเปลืองนี่ ยิ่งหมดเร็ว เพราะยิ่งว่าง ความฟุ้งซ่านมันจะมาครอบงำ จ่ายโน่นนี่ ไร้สาระง่ายมาก วิธีแก้คือ ต้องหารายได้...

ความทรงจำวัยเด็ก

บางทีเราก็ย้อนมองตัวเองในวัยเด็ก ความสนุกสนานร่าเริงตอนนั้น มันช่างดีเสียจริงๆ เพราะคิดน้อย ไม่ค่อยมีความคาดหวัง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรไปมากกว่าตัวเอง แค่กินข้าว อาบน้ำ เรียนหนังสือ แต่ตอนนี้ เรื่องที่ต้องรับผิดชอบเยอะแยะ ความจริงของโลกนี้ เราก็รู้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ย้อนกลับไปคิดว่า ถ้าเราย้อนกลับไปได้คงดี แค่คงย้อนไม่ได้ แต่ถ้าเราเอาความเด็กมาใข้กับตัวเองตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้ แต่ถ้าเอาบางส่วนมาปรับใช้ละ มันคงจะดีไม่น้อย เลือกที่ใช่ ใช้ประโยชน์ ตัดสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ แล้วยังสนุกกับชีวิต จริงๆแล้ว...

เมื่อแก้ปัญหา ด้วยวิธีเดิมไม่ได้ ก็อย่ารั้นทำแบบเดิมๆต่อ

ความเคยชินเป็นสิ่งอันตรายนะครับ แต่คือมันก็สบายดี ถ้าสมัยก่อน เราเคยหาทางแก้ปัญหา ลองผิดลองถูก จนแก้มันได้ แต่มาวันนี้มันไม่ใช่ได้แล้ว จะเพราะปัญหาปรับตัวให้เหมาะสมกับปัจุบัน หรือจะเพราะสภาพแวดล้อมทำให้สิ่งที่เราทำเปลี่ยนไป มันก็แปลว่า วิธีที่เราใช้ มันไม่ได้ผลแล้ว ก็อย่าฝืนทำแบบเดิม เพราะมันไม่ได้ผล ไม่ใช่เพราะเราทำมันผิด แต่มันผิดที่เราไม่ได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงแก้ไขมัน ต้องยอมเปลี่ยนความคิดของเรา ที่ยึดติดว่าทำได้ แล้วก็ต้องมาคลำทางใหม่ พยายามใหม่ หาทางใหม่ บางที มันก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม แต่เราก็คาดหวัง...