บางครั้ง ความเงียบก็มีค่าดั่งทอง

วันที่เราพูด เราไม่ได้ยินเสียงแม้แต่ตัวเอง เราพูดออกไป บางทีเราก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง และบางทีเราก็ไม่ได้ ดูผลตอบรับของคนฟัง เราก็พูดไป ไปเรื่อยกับสิ่งที่เราอยากพูด แม้หมดเรื่องพูด ก็พูดได้อีก หากเป็นเช่นนั้น สติเราไม่มี ภาพลักษณ์ก็พัง เราความใช้ความเงียบให้เป็นประโยชน์ เงียบในเวลาที่ควรเงียบ เงียบปากตัวเอง แล้วฟังคนอื่นพูด แล้วคิดวิเคราะห์ เงียบเพื่อฟังตัวเอง เงียบมันก็จะมีค่าดั่งทอง RIZsilent

24 ชม. ที่ไม่เท่ากัน

จริงๆแล้วทุกคนมี 24ชม. เท่ากัน ซึ่งก็แล้วแต่คนจะเอาไปบริหารแบบไหน ถ้าบางคนนอนมาก ก็มีเวลาตื่นน้อย มีเวลาทำอะไรน้อย มองมุมนึงก็ถือว่าเสียโอกาส แต่ มันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการดำรงชีวิต แล้วคุณค่าที่เขาอยากได้ และทำ ถ้ามัวแต่นั่งเพ้อเจ้อ วันๆ ก็คงผ่านไปไม่ได้อะไร แต่ถ้าทำงานหนักเต็ม 24ชม. ก็อาจจะเกินไป ชีวิตอยู่ได้ไม่ยาวพอ มันก็ต้องทำให้สมดุลย์และคุ้มค่า เลือกเอง ชีวิตใคร ชีวิตมัน รู้แล้วละเลยก็เปล่าฟรี RIZ24

จงเก่ง จงดี แบบเรา

อยากเป็นเหมือนคนอื่นเหรอ ยากนะครับ และก็ต้องพยายามมากด้วย แต่พยายามมากเท่าไร จะให้เป็นเหมือนเขา แล้วเราจะเป็นอะไร ยังไงก็ตามเขาอยู่ดี ไม่ผิดหรอกที่เราจะมีแบบอย่าง แต่เมื่อดำเนินจนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามต่อ ต้องเริ่มคิดเอง หาแนวทางตัวเอง ลองผิดถูกด้วยตัวเอง เราจึงเป็นตัวเองได้ อย่าสนใจใครที่มาคาดหวังให้เราทำอย่างนั้นอย่างโน้นเกินไป เราเป็นในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว เราจะได้อะไร แต่ถ้าเราเป็นสิ่งที่เราต้องการแล้วให้เขามายอมรับในตัวเราย่อมดีกว่า ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม จงเก่ง จงดี ในสิ่งที่เราเป็นให้ได้ ไม่ต้องไปเก่ง ไปดี ในแบบคนอื่นต้องการ...

ออกไปข้างนอกครับ

พอต้องคิดงาน แล้วคิดไม่ออกใช่ไหมครับ นั่งอยู่เก้าอี้ในที่ทำงาน แล้วจะคิดออกไหมครับ จินตนาการ ในพื้นที่ซ้ำๆเดิมๆแคบๆ ไม่น่าจะมีอะไรออกมาครับ เปิดประตูออกไปโลกกว้างหน่อยครับ ก้าวออกไป เผื่อเจออะไร ถึงแม้จะคาดหวัง แต่หากเราไม่เจอ ก็คิดว่ามันเป็นประสพการณ์ที่น่าสนใจครับ เรื่องเดิมๆ เราทำให้มันแตกต่างได้ เพราะต่างที่ ต่างถิ่น ต่างช่วงเวลา มันก็ใหม่สำหรับสักที่ ที่ไม่ใช่ที่เดิม แรงบันดาลใจ ผมเองก็ไม่รู้ แต่ออกไปหามันก่อน ถึงไม่เจอ ก็ไม่เสียแรงเปล่านะครับ...

อะไรที่คิดว่าง่ายๆ มักยากเสมอ

เราเห็นคนอื่น ทำสิ่งที่เขาทำมาตลอดชีวิต ดูแล้วเหมือนเป็นสิ่งง่ายๆ ลื่นไหล พริ้ว เหมือนเป็นสิ่งเด็กเล่นของเขา นั่นคือสิ่งที่เขาฝึกฝนมาทั้งชีวิตของเขา และเขาก็พยายามต่อไป ดูคนปั้นข้าวปั้น ใช้เวลาไม่กี่วินาที ก็ปั้นเสร็จมาเสริฟ เหมือนไม่มีอะไร ดูเหมือนง่ายๆ ใครๆก็ทำได้ ลองสิครับ จะเห็นว่าความชิบหายมีจริง ปั้นข้าวติดมือ ข้าวไม่แน่น หรือแน่นไป ไม่เป็นรูปทรง ปลาช้ำเละ พอเราลองแล้วจะรู้เลย ว่าสิ่งที่คิด กับสิ่งที่เป็น มันไม่เหมือนกัน...

หลักการคือ หลักกูที่ผ่านการทดสอบจนเป็นที่ยอมรับ

การคิดอะไรใหม่ๆ ถ้าไม่ได้มีเครดิตอะไร ใครก็ไม่อยากฟัง ไม่น่าเชื่อถือ และ การคิดอะไรใหม่ ที่เราคิดเองว่าดี มันก็ต้องมีกระบวนการ ที่ต้องโดนทดสอบในหลายรูปแบบ หลายสถานการณ์ บ้างก็ดี มากก็ไม่รอด เมื่อทดสอบผ่านวันเวลาจนเป็นที่ยอมรับแล้วนั้น มันถึงจะกลายเป็นหลักการ ที่เล่าขาน หรือให้คนอื่นทำตามได้ หากเร็วไป แล้วมีคนตาม มันก็ไม่มั่นคง พัง แต่เมื่อบ่มได้ที่ทุกองค์ประกอบแล้วนั้น มันถึงจะเป็นได้ RIZprinciple

เป็นเรื่อง ของ “When” ไม่ใช่เรื่องของ “if”

คนส่วนใหญ่ชอบมีคำถามว่าถ้าตลอด ถ้าอย่างโน้น ถ้าอย่างนี้ ถ้าไปเรื่อย เลยไม่ได้เริ่มทำอะไรสักที มันเป็นประโยค if clause แต่คนที่ชอบถามว่าเมื่อไร พวกนี้ดูจะเป็นขาลุยขาทำเสียมากกว่า ไม่ต้องถ้า ทำเลย รู้เลย จะมีอะไรก็แก้ไขเลย และไม่ได้ก็จบ ได้เสียเยอะกว่า คนที่บอกว่าถ้า ถ้าไปเรื่อยๆก็ไม่ทำ แต่พวกทำเลย จะมันส์กว่า ให้ดีมีอะไรมันต้องใส่คำว่า Now จัดเลยครับ RIZwhenifnow

เรียนรู้สิ่งที่เราไม่รู้ จากคนที่รู้ ก็ไม่รู้ว่า เราจะรู้หรือเปล่า

การที่เราได้พบเจอคน เราได้แลกเปลี่ยนประสพการณ์กัน เราเรียนรู้สิ่งที่เราไม่รู้ จากคนที่มีประสพการณ์ผ่านมาแล้ว เขาจะรู้ตัวว่าเขารู้หรือไม่ แต่เรื่องราวที่เขาเล่า มันก็ทำให้เรารู้ในสิ่งไม่รู้ แม้ว่าเราอาจจะคิดไปเอง มันก็อาจจะดีกว่าไม่รู้ยังไม่ได้คิด มีประโยชน์ถ้าเลือกเรียนรู้ คือรู้ทั้งหมดแล้วมาเลือกถึงดี ถ้าเอามาทั้งหมดมันไม่ดีมากกว่าดี แต่รับมาบางส่วนมันก็เอนเอียง โตแล้ว คิดเองต่อได้ จึงดี RIZlearn

พรุ่งนี้เสมอ วันนี้เสมอ

คนที่ผลัดวันประกันพรุ่ง ที่บอกว่าทำพรุ่งนี้ มันก็มักจะพรุ่งนี้เสมอไปเรื่อยๆ มันต้องมีเรื่อง หรือเรื่องอ้างต่างๆนานา ที่จะไม่พร้อมจะทำเลย แต่ถ้าคนที่ทำ ถ้าตัดใจทำเลย เริ่มเลย มันก็จะเป็นวันนี้เสมอ เราไม่รู้หรอกว่าทำได้หรือเปล่า มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและประสพการณ์ แต่ที่แน่ๆได้เริ่มแล้ว ได้รู้มากกว่าคนที่ผลัดไปเรื่อยๆแน่นอน RIZdoit

ถ้าเจอคนเก่ง แล้วไม่มุ่งมั่น ช่างมันเถอะ

ผมเองรำคาญพวกคนเก่ง ที่ขี้เกียจ คนเก่งนั้น บางคนเขาเก่งมาแต่เกิด หรือหยิบจับอะไรเรียนรู้ได้เร็วมาก จนหลายๆคนอิจฉา และอยากชักชวนมาให้ร่วมงานด้วย แต่ความเก่งนั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยที่ทำงานร่วมเป็นทีมได้ ความเก่งที่โดดเด่นแบบนั้น อาจจะเหมาะที่ทำอะไรคนเดียว คนที่ทำงานร่วมกันได้ ต้องมีความมุ่งมั่น ต้องพร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ถ้าเจอแค่เก่ง ปล่อยเขาไปเถอะ เพราะมันคงไม่เหมาะกับเรา หาคนที่มุ่งมั่น มันปั้นง่ายกว่า RIZgoodenough