บางครั้งเราต้องซื้อลูกค้าเพื่อมาซื้อของเรา

อันนี้ ก็เป็นเรื่องขัดกับความรู้สึกของคนซื้อคนขาย ผู้ที่จะขาย ก็ต้องพยายามขายของให้ได้แพงที่สุด และผู้ซื้อก็ต้องพยายามซื้อสินค้าให้ถูกที่สุด แต่มันจะเกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้จริงๆ เมื่อคนซื้อกับคนขายตกลงกัน ปกติแล้ว คนขายจะตั้งราคาไหนก็ได้ แต่เห็นจะแข่งกับคนขายด้วยกัน ถล่มลดราคา ข้างร้านตั้งป้ายแข่งกัน มันเลยกลายเป็นประโยชน์ของคนซื้อ แต่คนซื้อไม่ค่อยเห็นประโยชน์จากคนขาย อันนี้ เป็นแนวไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะเราก็ลำบากอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเป็นผู้ที่เริ่มให้ลูกค้าก่อนละ ถ้าเป็นอาหาร ก็ให้ชิมฟรี ถ้าเป็นบริการก็ให้ทดลองรับการบริการ ถ้าเป็นสินค้าก็เป็นการทดลองใช้ แนะนำในสิ่งที่เขาไม่รู้ และเราอยากให้เรา และบอกว่าเราสนใจเขาอย่างไร...

งานต้องรู้เร็วรู้ช้า จะอ้างเอาละเอียดอย่างเดียวไม่ได้

ความเร็วย่อมเป็นความได้เปรียบของการค้าขาย ความช้าย่อมเป็นกลยุทธ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกเรื่อง มันก็เปล่า จะอ้างว่า ของดีต้องใจเย็นๆ ค่อยๆทำ งานละเอียด  ถ้าลูกค้ารีบ คงไม่รอ การวางแผนงาน ไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จเร็ว แต่ต้องทำอย่างไรให้คนซื้อประทับใจ ให้ได้รู้สึกว่า ได้เกินกว่าจ่าย เขาจ่ายไปเค้าก็หวังว่าจะได้ดี ได้คุ้มกว่าที่เสียไป เพราะเค้าจ่ายเงินเค้าก็ต้องเทียบมูลค่า ได้ความรู้สึกดีๆ ถ้าทุกอย่างลงตัวไปหมด มันก็ประทับใจ ได้เร็วกว่าที่คิด สั่งของต้องรอสามวัน แต่เราทำได้ก่อนวันเดียวส่ง  ...

ขายของ100บาท ใส่ใจล้านบาท

เรามองของ ด้วยการประเมินคุณค่าด้วยราคา ใครขายของแบบวางขายแบบนั้น ให้เรา มันก็ไม่ได้ราคาเท่าไร กำไรก็ไม่มาก เราเคยสงสัยไหม ของบางอย่าง ทำไมขายดี เพราะมันถูกเหรอ เพราะมันไม่แพงเหรอ มันก็ไม่แน่ แต่จะขายได้เรื่อยๆ มันก้ต้อง มีอะไรมากกว่า สิ่งที่คนคิดน้อยๆ การขายของ มันก็ต้องใส่ใจ ของสิบบาท แต่ถ้าเราตั้งใจใส่ใจจนคนมาซื้อรับรู้ได้ มูลค่าที่เค้าได้รับกับที่เขาใส่ใจ มันต่างกันนัก คุ้ม แต่ถ้าของอีกอย่าง ราคาเป็นร้อยเป็นพัน...

เสียเพื่อชนะ

บางคนเรื่องเล็กๆน้อยๆ ยอมกันไม่ได้ เรื่องบางที มันก็ไม่เป็นเรื่องภาพรวม คนปกติ ชอบที่ชนะ และชนะแบบ 100% ทั้งๆที่มันยาก และแทบจะน้อยคนทำได้ แต่มันก็เป็นความต้องการของคนทั่วไป และสุดท้ายก็ไม่ได้กันหรอก การยอมเค้าก่อน เพื่อเอาชนะ ชนะใจ การยอมเค้าก่อน ทำให้เรื่องร้าย มันน้อยลงไป การยอม ไม่ใช่วิถีของผู้แพ้ แต่สำหรับผู้ฉลาด มันคือทางออกที่ดีและสวยงาม การรู้จักยอมบางเรื่อง มันคือสูตรสำเร็จของการชนะ  ...

เอาวิธีการเดิมๆ มาใช้กับสมัยที่เปลี่ยนไปไม่ได้ เพราะโจทย์มันเปลี่ยน

การเอาสิ่งเดิมๆ ที่เคยประสพความสำเร็จมาแล้วมาใช้ มันคงเอามาตรงๆไม่ได้ ใช่ มันมีรากฐานของดีมา แต่ไม่ได้ให้มาใช้ มันเอาไว้ขบคิด หากธุรกิจอะไรที่ค้าขายแบบเดิมๆ คิดเดิมๆ ใช้วิธีเดิมๆ เครื่องมือเดิมๆ ก็คงจะต้องอยู่ในกลุ่มที่ต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะมันไม่มีทางที่จะโตได้ รวยได้ มีแต่ต้องตายไป ผมไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับสิ่งเรื่อยเปื่อยที่ต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะบางสิ่งมันควรต้องหมดโลกไป แต่มันยังอยู่ได้เพราะคำว่าอนุรักษ์ มันทำให้คนเราไม่ไปไหน ให้มันอยู่ที่เดิมกับโลกที่หมุนๆไป ปล่อยให้เป็นนักประวัติศาสตร์ หรือกลุ่มเล็กๆบางกลุ่มเค้าเก็บไว้ หรือเล่นกัน คนทั่วไปต้องพัฒนา ต้องพัฒนา...

ถึงฝึกมาดีแล้ว แต่บางคลิ๊ก มันก็หลุดได้

สติ เป็นสิ่งที่หลุดได้ง่ายมาก หากปกติ ไม่ได้มีอะไรมายั่วยุ สติมันก็คงตัวอยู่ได้ หากเราเห็นเรื่องราวของคนอื่น เราก็มีสติคิด และเตือนคนอื่นได้ หากไม่ใช่เรื่องเราก็ไม่มีปัญหา หาปกติวิสัย สติที่คงอยู่ก็จะทำให้เรามองเห็นอะไรได้ชัดเจน แต่หากมีอะไรมายั่วยุ ผู้ที่ฝึกสติมาบ้าง ก็จะมีระดับความทนทานตามระดับ หากผู้ที่ฝึกมาน้อย มีนิดหน่อยมายั่วยุ ก็อาจจะคุมไม่ได้ แต่ผู้ที่คิดว่าฝึกมาดีแล้ว พอเจอสิ่งยั่วยุ มันก็จะได้ทดสอบ ว่าคงสติอยู่ได้ไหม ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ไปสำนึก แล้วก็ฝึกต่อไป ของพวกนี้...

value added มันต้องมี value creation

ปกติจะขายของให้แพง มันต้องมีอะไรสักหน่อย จากวัตถุดิบ เอามาเพิ่มมูลค่าไปเป็นช่วงๆ เช่นอาหารสักจาน มันก็ต้องประกอบวัตถุดิบ ซื้อของพื้นๆมาจากตลาด เอามันปรุง <–เพิ่มคุณค่า แล้วขาย อันนี้ จะได้เพิ่มคุณค่า 1ครั้ง ก็ขายได้ราคาระดับนึง แต่ถ้า เอามา จัดจานให้สวยงาม <–เพิ่มคุณค่า แล้วขาย อันนี้ จะได้เพิ่มคุณค่า 2ครั้ง ก็ขายได้ราคาระดับแพงขึ้น ถ้าเอามาขายในร้านที่สวยงาม <–เพิ่มคุณค่า มีการบริการที่ดี <–เพิ่มคุณค่า มีเรื่องเล่าของสินค้าที่ขาย <–เพิ่มคุณค่า...

แรงบันดาลใจ มันเป็นตัวจุดประกาย แต่ถ้าไม่ทำ มันก็มอด

ทุกๆวัน อ่านข่าวเพื่อสังคม หรือสัมนาต่างๆ มีการพูดถึงเรื่องแรงบันดาลใจกันทั้งนั้น ให้คนที่ประสพความสำเร็จในชีวิตมาพูด ว่าชีวิตเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แรงบันดาลใจมาจากอะไร พูดให้คนทุกคนที่อยากจะทำอะไรทำ เราฟังทั้งหมด ก็จะฟังจากจุดเริ่มต้น แต่ไม่น้อยคนที่จะสนระหว่างทางเดิน เพราะ มันยาก ลำบาก เหนื่อย ต้องผ่านความผิดพลาดมานับครั้งไม่ถ้วน ความพยายามน่าจะเป็นหลักมากกว่า แต่เมื่อคนฟัง อยากหาสูตรสำเร็จ เอาแต่ง่าย เอาแต่สบาย สิ่งที่ได้ฟัง มันก็ทำให้เราคล้อยตามเห็นดีด้วย ปลุกแรงใจขึ้นมา แต่พอลุกขึ้นมา...

คุณค่าของการไม่ทำอะไร

หากคุณคิดว่า ชีวิตมีค่าต้องทำงาน ต้องหาเงิน ถูกครับ แต่ถูกแบบไม่ใช่ ดื้อด้าน ตะบี้ตะบันไปเรื่อย เพราะ เราทำงานทุกวัน มันก็มีวันดี และวันไม่ดี ถ้าวันดีเยอะ ก็ได้มากหน่อย แต่ถ้าวันดีน้อยหน่อยก็ย่อมได้ดีน้อยหน่อย ซึ่งถ้าวันไม่ดีมากหน่อย เป็นวันที่รู้ว่าต้องไม่ฝืน ทำให้น้อยหน่อย มันจะได้เจ็บตัวน้อยหน่อย ชีวิตกับงาน มันก็คล้ายๆกัน ถ้าทำแล้ว เราก็หวังชนะ แต่ถ้าหวังที่ได้ทำ มันก็มีแพ้มีชนะ ถ้าเราเลืิอกเฉพาะที่เราชนะ...

มีศรัทธา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย แล้วไม่ทำอะไรเลยเนี่ยนะ

ว่ากันจริงๆผมก็เป็นคนที่เข้าวัด เข้าศาลเจ้าบ่อยในระดับนึง ก็นอกจากไหว้พระไหว้เจ้าแล้ว มันก็อดเสียไม่ได้ที่จะสังเกตคนด้วย ได้มองถึงการแต่งตัว การไหว้ การบริจาค การบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฺทั้งหลาย ผมเองก็อาจจะไม่ล่วงรู้ในจุดประสงค์ของแต่ละคน ก็ตามแต่กันไป   แต่ถ้าเขาพยายามแล้ว ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอาจจะช่วยได้ เพราะมีจริงแบบพิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยขออย่างเดียว อันนี้ก็ไม่รู้ฟ้าจะเป็นใจให้หรือเปล่า ถ้าตามตรรกะ คงจะไม่ได้ เพราะถ้าทำแล้วไม่ได้ ไปขออาจจะได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย แล้วมันได้ โลกนี้คงตลกสิ้นดี RIZpray