ถ้าเราเอาของเก่าๆ มาใส่ไว้มากๆ จะไม่มีช่องว่างให้ของใหม่มาอยู่ได้

คุยบางคนมันก็เหมือนน้ำเต็มแก้ว ถึงอยากใส่ก็ไม่มีที่ใส่ และก็ไม่ยอมทิ้งของเก่า มันก็เหมือนกับคนไม่ได้ปรับตัว ทำอะไรก็ทำแบบเดิมๆไปเรื่อยๆ รู้ว่าแย่ และก็ไม่ยอมพัฒนา โทษโน่นนี่นั่นไปเรื่อย จริงๆของเก่ามันดีนะ แต่ถ้าเอามาใช้มันทั้งหมดแบบเดิมๆ เงื่อนไขมันเปลี่ยนไปไกลแล้ว และถ้าเปลี่ยนใหม่หมด มันก็ขาดกลิ่นอาย ขาดสิ่งที่่เราได้เรียนรู้จากประสพการณ์จริงๆที่ผ่านมา มันอยู่ที่ว่าต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างไร มันไม่ได้เหนื่อยหรอก มันแค่ก้าวไปข้างหน้า วันๆผ่านไป มันก็มีอะไรใหม่ๆ แต่ถ้าวันๆ เราคิดถึงแต่อดีต ที่ดีงาม หรือที่ทำผ่านๆมา มันจะเหลือที่ว่างตรงไหนไว้เรียนรู้ ทัศนคติมันก็บ่งบอก...

เก่งไม่เก่งไม่รู้ ถ้านิสัยดี ต้องมี 3อย่าง

ถึงสังคมเราจะบูชาคนเก่ง แต่ถ้าเก่งแล้วทำอะไรไม่เป็นมันก็ไม่มีค่า จะยึดถือ ยศถาบรรดาศักดิ์อย่างไร จะมี ตำแหน่งสูงเช่นไร จะเรียนมาสูงแค่ไหน ท้ายแล้วทำอะไรไม่เป็นก็ไร้ค่า คนดีๆอาจจะไม่ใช่คนเก่ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว อาจจะเก่งก็ได้ เพราะคนดีควรมี 1 ความซื่อ ความไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มีความเป็นมิตรกับคนทั้งหลาย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน 2 ความสัตย์ ความจริงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าพูดอะไรก็ดำรงตนแม้ว่าจะดีไม่ดี แต่เมื่อปฎิบัติแต่ความจริง มันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 3 ความเพียร...

อย่าปล่อยให้เด็กแก่แดด

ใครๆก็อยากให้ลูกตัวเองเก่ง อยากให้มีพัฒนาการมากกว่าคนอื่น จริงๆ คืออยากให้ ฉลาดกว่า แข็งแรงกว่า แต่ตัวที่มันอาจจะต้องแลกกันคืออารมณ์ดี บางบ้าน มักจะให้เด็กไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม เพื่อเสริมในเรื่องต่างๆ จัดตารางเวลาเรียนจนแน่น ยิ่งกว่า เวลาทำงาน ทุกอย่างเป็นระเบียบ เพราะอยากให้ลูกเป็นยอดคน ไม่ได้ถามว่าลูกต้องการอะไร เพราะคิดว่าเด็กยังคิดไม่ได้ ยังไม่เคยผ่าน ยังไม่รู้อะไรควรอะไรไม่ควร ทั้งๆที่โตๆมา เรารู้ว่า ถ้าเราทำอะไรที่ชอบ มักทำได้ดี แต่เดี๋ยวนี้ เปิดรายการอะไร...

ถ้าคิดไม่ออก ก็ก๊อบไปก่อน และขายถูกกว่า

ประเทศจีนมีความโดดเด่นในเรื่อง ประชากร ที่มีความต้องการบริโภคมหาศาล และก็เป็นประเทศที่ต่างชาติยังเข้าไม่ถึงทุกหย่อมหญ้า จึงทำให้มีโอกาสนำเสนอ ของทั่วๆไปที่คนใช้ๆอยู่กันทั่ว เวลาเราไปจีน ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ส่วนหลักๆของประเทศ จะทำให้เราไม่เจอสินค้าของต่างชาติเลย แต่จะเห็นสินค้าที่เหมือนต่างชาติเต็มไปหมด มีแบบ มองแล้วรู้เลยว่าเป็นยี่ห้ออะไร แถมหน้าตาสินค้านั้นก็คล้ายกันมาก ฉนั้นคนจีนเค้าไม่คิดมากหรอก ก๊อบไปขายก่อน ถ้าต้องมากังวลเรื่องต่างๆ หรือจะลอกไม่ให้เหมือน มันยังไม่ใช่เวลา ถ้ามันใช่มันได้ ก๊อบไปเลยจบกว่า เร็วกว่า ค้าขายก่อน มีปัญหาค่อยแก้ได้ แต่ถ้าคิดมาก มันยังไม่ได้เริ่ม...

เรื่องที่คนบ่น มันคือโอกาส

ทุกวันฟังแต่คนบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ บ่นมันทุกวัน บ่นมันทุกอย่าง ถ้าบ่นคนเดียว อาจจะเป็นนิสัยเสีย แต่ถ้าใครๆก็บ่นมันเรื่องเดียวทิศทางเดียว แสดงว่ามันเป็นปัญหาจริงๆ บ่นว่า รถติด  ถ้าเราหาวิธี อุปกรณ์ บริการ หรือ solution แก้ได้ รวยแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ บ่นมันอย่างเดียว ไม่ได้เน้นว่าต้องทำอย่างไรแก้ไขอย่างไร หรือถ้าแก้ไข มันก็ต้องแก้ที่คนอื่น เราทำแบบเดิม เอาสบายแบบเดิม แบบนี้มันแก้ไม่ได้ แต่ถ้ามันเป็นบริการ...

สินค้าที่มีความต้องการมาก ย่อมมีหลายเกรด

สินค้าที่มีความต้องการในชีวิตประจำวันนั้น มันจำเป็นต้องกินต้องใช้ และแน่นอน ก็ย่อมมีผู้ผลิตจำนวนมากเพื่อนำเสนอสินค้านั้นๆ และ เพราะเนื่องจากมีความต้องการมากสำหรับทุกชนชั้น ก็ย่อมมีระดับราคาและคุณภาพแตกต่างกัน บางอย่างแตกต่างกันที่ตราสินค้า มีการตลาดดีๆ ทำให้เป็นที่ยอมรับกันในสังคม ก็ย่อมมีราคาแพงหน่อย บางอย่าง ทำให้มันใช้ได้ แต่อาจจะไม่ได้ใช้ทน เอาถูกเข้าว่า ตราสินค้าไม่ต้อง ก็ถูกมา แต่ละอย่างมันก็เหมาะสำหรับความต้องการ แม้ทุกคนอยากได้ของดีราคาถูกยี่ห้อดัง มันย่อมหาได้ยาก เพราะของดี ควรมีราคาแพง ของถูก คุณภาพควรต่ำ ถ้า...

ขนาดของตลาด เป็นตัวชี้วัดราคาได้

ขายของเยอะ ย่อมต้องผลิตได้เยอะ พอผลิตได้เยอะ ขนาดโรงงานก็ใหญ่ เครื่องจักรมีคุณภาพ แต่สุดท้ายสินค้า ที่เป็น mass ออกมาไม่ได้แพง ยังไงของ mass มันก็ควรถูกกว่าของ niche จริงๆแล้ว ถ้าทำอะไรเล็กๆ ก็ควรทำอะไรทืี่เป็น niche แต่การจะเป็น niche มันก็ต้องมีองค์ประกอบมากมาย และแตกต่างจาก mass ที่สำคัญคือ ราคา เพราะขายน้อย...

เราใช้ตามองเท่านั้นหรือ

บางคนบอกว่า ของบางอย่าง อย่ามองด้วยตา มันต้องใช้ใจ ผมว่า มันก็ค่อนข้างปัจเจกไป ปกติคนเรามักตัดสินใจจากการที่ได้มองเห็นก่อน เพราะมันรวดเร็ว และง่าย และในเสี้ยววินาทีก็ใช้ประสพการณ์รอบตัวมาตัดสิน เช่นเห็นขอทาน ต้องเป็นคนสกปรก ที่มาขอเงินอยู่ตามทางเท้า จึงเกิดความน่าสงสาร เช่นคิดว่าคนขายของตามสี่แยก แต่งตัวปอนๆ นอกจากอันตรายแล้ว ยังคิดว่าน่าจะจน ก็อาจจะใช่และก็ไม่ใช่ แต่เดี๋ยวนี้ผมว่ามันจะไม่ใช่เป็นส่วนใหญ่ เพราะการตัดสินด้วยสายตานั้นมันหยาบเกินไป เราไม่ได้นั่งคิดวิเคราะห์อย่างละเอียด เอาแต่ความรู้สึกเข้าว่าเป็นหลัก แล้วก็ตัดสินคนนั้นไป เป็นจำพวก...

คุยกับคนพาล ก็เหมือนไม่ได้คุย

การที่เราทำดี ต้องเข้าใจก่อนว่า ทำดีแล้วได้ดี อาจจะไม่ใช่ดีอย่างที่เราอยากได้ หรือได้ในเวลาที่เราต้องการ การทำดีกับใครคนหนึ่ง เราก็ต้องมองด้วยว่าเขาเปิดรับ และต้องการเราไหม เมื่อเราเห็นคนมีปัญหา เราก็มีใจอยากช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนที่จะช่วยก็ควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อน เมื่อเราเจอคนพาล เราจะอธิบายเหตุผลอย่างไร เขาก็ไม่สน เพราะเมื่ออารมณ์เกิดขึ้น มันเป็นมิจฉาทิฐิ บังตาอยู่แล้ว ดีแค่ไหนก็ไม่เห็น กว่าจะเห็นอารมณ์วู่วามต้องผ่านไปก่อน สิ่งที่เจอเป็นเรื่องชั่ววูบนั้น เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้แบบไม่ได้ตั้งใจเตรียมตัวเตรียมใจไว้ จะทำดี ผิดคนผิดเวลา เดี๋ยวดีๆจะกลายเป็นร้าย พูดให้คนที่ไม่พร้อมฟัง...

มีของดี ก็ต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย อย่าเหมา

ได้ออกไปนั่งคุยกับคนบ้าง ถึงยังหาไอเดียของเราไม่ได้ แต่เราก็ฟังไอเดียเขา และก็ได้แนวความคิดของคนอื่น บางอย่างมันก็เจ๋งนะ แต่ดูดี ที่ขาดๆเกินๆ บางที ที่เราเห็นขัดแย้ง ก็คงเพราะ ประสพการณ์ที่ผ่านมาของเรา มันทำให้เราเห็นมุมมองอีกแบบหนึ่ง แต่คนอื่นก็จะมีมุมมอง และความเชื่อที่แปลกแตกต่างกันไป บางอย่างเราก็เอามาคิดต่อทำนายในใจ ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่ไอเดียย่อมเป็นไอเดีย ถ้าจะทำให้เป็นจริง มันต้องทำ ความเป็นไปได้ของไอเดีย มันจะยุ่งยากหน่อย แต่มันก็ให้รายละเอียดได้ดี มันจะทำให้เรารู้หรือขาดอะไร มันจะทำให้รู้ว่าตรงไหนเราไม่อยากแตะ เพราะเราไม่เชี่ยวชาญนั้นเป็นสิ่งที่เราขาดและต้องหาอะไรมาอุดรอยรั่ว...