ทำในสิ่งที่คุณเชื่อ

แม้จะมีสิ่งน่าสนใจเต็มไปหมดก็ตาม แม้ว่ามีคนแนะนำคุณยังไงก็ตาม แม้ว่าจะมีความจะช่วยคุณก็ตาม ุถ้าคุณไม่รุ้ไม่เข้าใจ แม้พยายามแล้วก็ไม่ใช่ความผิดหรอก เพราะ มันไม่ใช่ของคุณ หาในสิ่งที่เป็นของคุณ ที่ใจมันเรียกร้อง ถึงแม้เคยผิดหวังอกหัก แต่เรื่องของใจ ถ้าห้ามมันแล้วนั้น ไม่มีความสุขหรอก เพราะคุณจะรู้สิ่งที่คุณเชื่อ ถึงจะเป็นความเชื่อที่อาจจะผิด แต่ผมว่าคุณก็อยากพิสูจน์มัน เพราะถ้ามันเป็นของคุณ มันก็จะเป็นของคุณ แต่คุณก็ต้องทำมันนะ ไม่งั้นมันก็ยังเป็นของคุณที่รอคุณ แม้บางทีเร็วไปบ้าง หรือตกรถบ้าง ไม่เป็นไร ทำต่อไป ทุกครั้งที่ทำคุณจะรู้...

ลูกค้าคุณเป็นแบบไหน

จริงๆแล้วลูกค้าจะซื้อสินค้าโดยคำนึง 1 value for money หรือความคุ้มค่า 2 price concern สนใจเรื่องราคาเป็นหลัก มันก็มองง่ายๆ เวลาจะขายของ มันก็ต้องเข้าใจลูกค้าว่าเค้าอยากได้แบบไหน เพราะ คนมีคิดถึงเรื่องเงินก่อน ก็ไม่ต้องคุยเรื่องคุณภาพว่ามันดีแค่ไหน คุยแค่มันใช้ได้และตอบโจทย์ราคาก็พอ เพราะต่อให้คุณบอกว่าของคุณดีแค่ไหน เค้าก็ไม่สนใจหรอก มุมมองการใช้เงินของแต่ละคนมันไม่เท่ากันหรอก เพราะคนที่คิดเรื่องคุณค่า เค้ายอมจ่ายราคาสูงกว่า ที่ถูกที่สุด แต่ก็ต้องขอให้สมเหตุสมผลหรือเปล่า ถ้ามันดีพอ...

ทำได้ กับได้ทำ มันห่างกันราวฟ้ากับเหว

จะมีคนบอกให้คุณทำโน่นนี่ เพราะเป็นสิ่งที่ดี ที่เค้ารู้มา ก็รับฟัง จะมีคนเตือนตอนที่เขาคิดว่าคุณไปผิดทาง เพราะเขาคิดว่า มันต้องเป็นอย่างนั้น ก็รับฟัง แต่มีกี่คนที่เขาเคยทำ แต่มันจะมีเยอะคนที่เค้า”คิดว่า” แค่คิดว่า กับทำจริงๆมันไม่เหมือนกันนะครับ เพราะถ้าทำจริงๆ มันไม่ง่ายเลย มันมีต้องมีรายละเอียดอีกเยอะ มันไม่ใช่ทางเดินด้วยกลีบกุหลาบ วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ใช่ไม่ฟัง แต่ทุกครั้งที่ใครพูดก็เอากลับมาคิด อย่าให้ใจเบี่ยงเบนจากเป้าหมาย อย่าไม่ฟังเพราะคิดว่าเขาไม่เข้าใจหรือเป็นเสียงนกเสียงกา ทุกอย่างมีค่า แต่ต้องหัดแยกแยะ ปล่อยพวกที่คิดว่าตัวเองคิดเป็นไปดีกว่า เพราะบางที...

ฟ้าเปิดกับฟ้าปิด อย่าซ่า

ดวงคนเรามันร้อยพ่อพันแม่ ไม่มีเหมือนกัน แม้ทุกคนอยากได้ดีทุกคน รวยทุกคน สบายทุกคน แต่มีกี่คนที่ทำได้ เรียนเก่งแค่ขยัน ส่วนดวงเฮงนี่ต้องบุญวาสนา ก็เห็นเยอะที่จากเด็กเก็บขยะมาเป็นเศรษฐี จริงที่อยู่มันไม่ได้มาด้วยดวงอย่างเดียว ความเก่งก็มีเยอะอยู่ แต่คนเก่งก็มีเยอะ ฉนั้นมีไม่กี่คนหรอกที่มันจะเหนือเก่งคือมีเฮง การจะมีเฮงก็ย่อมมีที่มาที่ไป คือมีบุญวาสนา อยากได้ย่อมต้องทำดี ช่วยเหลือคน หนักเบาเอาสู้ ประกอบด้วยเจตนาอันเป็นกุศล บำเพ็ญจนได้ คุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นบารมี10 หรือบารมี30ทัศก็ตาม ค่อยๆ ฝึกปฎิบัติไป...

สิ่งที่อยากได้มักแพงกว่าจริงเสมอ

คุณเคยเป็นกันไม๊ ของที่อยากได้ เท่าไรก็ซื้อ เพราะกลัวว่ามันจะหมด หรือกลัวว่ามันจะไม่ได้ กลัวว่ามันจะเป็นของเรา เพราะว่า เราให้คุณค่ากับมันจาก ความเป็นจริง บวก ด้วยความอยาก อะไรที่เป็นความอยาก ย่อมมีราคาเบี่ยงเบนจากความเป็นจริง ถ้าของดี ที่ไม่อยากได้ แต่ขายถูกๆต่ำกว่า ราคาเราถึงจะเอา เราก็อาจจะได้ แต่ก็ไม่ได้อยากได้อยู่ดี คุณค่าตรงนี้ นักการตลาดเอามาเล่นกันเยอะ เพราะต้นทุนของสินค้าก็พอๆกัน เพียงแต่ ใครจะสร้างเรื่อง จับประเด็นทำให้คนใจ...

เมื่อมองโลกในแง่ลบ คุณก็จะคิดว่าคนอื่นมองลบกับคุณ

การมองโลกในแง่ลบนั้น นอกจากจะทำให้ชีวิตหดหู่ มองอะไรก็ดุแย่ไปหมด จะสวยงามหรือไม่ ก็จะมีจิตใจอคติคิดอยู่เลยทำให้สิ่งที่ดี เราก็สงสัย สิ่งที่แย่ก็ย่อมบอกว่ากูว่าแล้ว ชีวิตย่อมไม่หาความสว่างสดใสไม่ได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเราอย่างเดียว คนกลุ่มนี้ก็จะมองคนอื่นแย่ไปหมดเหมือนกับที่ตัวเองคิด มองว่าคนอื่นมาคบรู้จักหวังผลประโยชน์หรือเปล่า หวังเอาเปรียบหรือเปล่า มาหลอกลวงหรือเปล่า อะไรก็อคติไปหมด ถ้าเราเจอคนพวกนี้ ทำดีก็โดนหาว่าไม่จริงใจ ห่างไกลดีกว่า จะได้เป็นเรื่องน้อย แต่ถ้าจำเป็น ก็ต้องทำอะไรให้ชัดเจน ดีแค่ไหนเสมอตัวอยู่แล้ว เมื่อชัดเจน มีหลักฐานก็อย่าไปคิดมากปล่อยๆไปให้เค้าอยู่ในโลกที่เค้าอนุมานมาเองว่าโหดร้ายแย่เสมอ แต่ถ้าอยากจะแก้ ต้องหากลอุบายให้เค้าเข้าใจเองว่า...

ถึงใจร้อนยังไง ทำงานก็ต้องใจเย็น

เจออะไรขัดหูขัดตาไปหมด ตั้งแต่ตื่น เจอรถติด หงุดหงิด เจอคนปาด ตะโกนด่ามันอยู่ในรถตัวเองแช่งมัน เจอคนแย่งที่จอดบีบแตรระบายอารมณ์ยาวๆ อันนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว แม้จะไม่ควรก็ตาม แต่เมื่อเข้ามาในที่ทำงาน หรือต้องทำงาน ต้องรีบลอกความใจร้อนทิ้ง หน้าหงุดหงิดออกไป ยิ้มแล้ว ก็พูดว่า คร๊าบบบบ ได้คร๊าบบ ทำได้คร๊าบบบ มันจะทำให้งานราบรื่นไปกึ่งนึง เมื่อเราใจร้อน เราต้องการให้คนอื่นใจเย็นกับเรา ยอมเรา แต่ในขณะเดียวกันคนอื่นก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น มีใจร้อนมา ก็อยากมาได้ความสบายใจ...

พูดเรื่องเดียวกัน ยังคิดต่างกัน มันเพราะ…

เป็นปกตินะ ที่เราคุยเรื่องเดียวกัน แต่เพื่อนเราก็คิดเห็นวิเคราะห์ไม่ตรงกัน สนุกดี เลยคุยกันได้ ประสพการณ์ของแต่ละคนมันเติบโตมาไม่เหมือนกัน ความเชื่อไม่เหมือนกัน มันก็มองอะไรเหมือนกันก็คิดไม่เหมือนกันนะถูกแล้ว แต่คนเราจะมาทะเลาะเพราะไม่เหมือนกันพาลไปเรื่องถูกผิดนะมันก็ใช่เรื่อง ถูกของเราเพราะอะไร ถูกของเขาเพราะอะไร ใช่หรือไม่ยอมรับกันหรือไม่ต่างหาก แล้วหาข้อสรุปยังไง ถ้าสรุปไม่ได้จะจบกันแบบด้วยดีแบบไหน จริงๆถ้ามีตรรกะแบบเดียวกัน ถึงคิดไม่เหมือนกัน มันก็น่าจะไปด้วยกันได้ แต่พวกที่ใช้อารมณ์เป็นหลัก ตั้งธงมาข้าถูกแต่เพียงผู้เดียว ใครคิดต่างจากข้าคือผิด โลกนี้เลยมีแต่ถูกหรือผิด ทำให้ต่อให้มีความเชื่อผิดๆว่าถูกมันก็ต้องดันทุรังถูก ซึ่งมันผิด ยิ่งคนแข็งแรง คนใหญ่คนโตคิดผิด...

ถ้าตลาดมันแข่งกันดุนัก ก็ขายคนขายด้วยกันนี่แหละ

การแข่งขันในตลาดสมัยนี้ มันไม่ใช่มีน่านน้ำสีฟ้าสีน้ำเงินให้ใครๆตักจ้วงหว่านแหลากปลากันได้ง่ายๆ ผู้ค้าแต่ละรายก็กระหน่ำออกโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมกันสะบั้นหั่นแหลก บางคนหน้ามืดขายต่ำกว่าทุนเพื่อเรียกลูกค้ามาซื้อ อย่างน้อยก็ได้เงินแม้ว่าจะขาดทุนก็ยังดีกว่า ไม่ได้อะไรเลย ยุคนี้ย่อมเป็นยุคของลูกค้า ที่อยากได้อะไร ก็มีคนมาแข่งขันเสนอกัน จนถึงจุดนึงที่บางทีเราคิดว่า คนขายมันมากกว่าคนซื้อหรือเปล่าวะ … อ๊ะ นี่ใช่เลยถ้างั้นด้วยจิตใจที่เป็นคนขายด้วยกัน ย่อมเห็นปัญหา ทำอะไรมาเสนอไอ้พวกคนขายด้วยกันนี่แหละ ตลาดยังกว้าง ช่วยเหลือพวกเค้าให้ไปสะบั้นหั่นแหลกต่อไป เรามาดักกินหัวคิวดีกว่า เหมือนพวกเล่นหุ้น ตอนหุ้นไม่ไปไหน เจอพวกคนสอนหุ้นนี่ รวยทุกคน เก็บตั้งแต่ห้าร้อยยันห้าแสน...

ผมชอบแข่ง ที่ผมรู้ว่าผมต้องชนะ

การแข่งขันที่เรารู้ว่าเราชนะ เราถึงแข่ง แต่ถ้าแข่งไปแล้วแพ้ เราจะแข่งขันกันไปทำไม การแข่งขัน ทุกคนก็อยากจะหาความยุติธรรมและความเท่าเทียม แต่เอาจริงๆนะ ถ้าผมได้เปรียบ แล้วผมแข่งได้ผมก็แข่งสิ เพราะมันชนะแน่ๆ การเริ่มต้นธุรกิจนั้น เราไม่สามารถตะโกนออกไปหาความแฟร์ในสังคม อย่าไปด่าชาวบ้านที่เค้ามีดีกว่าตน เพราะเค้าก็ต้องทำทุกวิถีทางที่เค้าต้องอยู่รอด ต้องเป็นผู้ชนะ ความแฟร์ไม่มีในสังคมการแข่งขันของชีวิตจริง จะทำตัวเป็นพ่อพระแม่มารีก็ได้ แต่พวกนี้เค้าชนะมาก่อนแล้ว เค้าเลยจะทำอะไรก็ได้จะเจ๊งก็ได้ จะสร้างสีสันให้กับสังคมก็ได้ แต่ถ้าจะแข่งกัน มันก็ต้องมีท่าเด็ดไม้ตายอุบกันบ้าง หรือไม่ก็ประกาศโต้งๆเลยจะได้ไม่มีคนมาแข่ง ถ้าผมมีรถ ผมจะมาวิ่งแข่งกับคนวิ่งด้วยเท้าทำไม...