จริงๆแล้ว มันไม่มีคนฉลาดหรือคนโง่ มีแต่คนรู้ก่อนกับยังไม่รู้

บางทีจะเทียบ ความฉลาด กับความโง่ มันคุยกันหลายมุมหลายมิติ มันก็มีที่น่าคิดตามบ้าง และไม่ควรไปสนใจมัน เพราะมองอีกมุมหนึ่ง ที่คนอื่นมองเราฉลาด เพราะเขาไม่รู้ในสิ่งที่เราพูดเราบอกเขา ทั้งๆที่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้ในโซนของกลุ่มเรา แต่พอนอกกลุ่มไปใช่ว่าจะรู้กันทุกคนทั้งโลก พอเราบอกสิ่งที่เขาไม่รู้ เขาก็เลยยกย่องเราว่า เก่งหรือฉลาด ทั้งๆที่เราก็ไม่ใช่เป็นคนคิดเอง รู้เอง หรือทำเอง มันก็เป็นเรื่องพื้นๆอีกสังคม หรืออีกคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง มันทำให้คิดได้ว่า เพราะเขาไม่รุ้เลยมองเราฉลาด และถ้าเขารู้แล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องยกย่องกันอีกต่อไป มันก็แค่ คุณยังไม่รู้...

คนเราหาตัวเองเจอในเวลาที่ต่างกัน

คนที่รู้จักตัวเองก่อน มันก็จะรู้ว่าต้องทำอะไรที่ชอบ แต่คนที่ไม่รู้ ก็ไม่ต้องรีบในการที่ค้นหา ไม่ต้องเคร่งเครียดไปกับมัน เพราะเรายังหาไม่เจอ ยังไงมันก็ไม่ได้เจอ ผ่อนคลายทำตัวตามสบาย ลองโน่นลองนี่ ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวถ้าเจอมันก็เจอเอง บางคนเจอตัวเอง ตอนอายุ 16 หรือบางคนจะ 50 มันไม่สำคัญ สำคัญที่เรายังหาตัวตนอยู่หรือเปล่า เพราะที่เราเจอแล้ว อาจจะไม่ใช่สำหรับอนาคตกาล เราอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็ได้ แต่ให้รู้จักตัวเองไว้ RIZkyi

อย่าบอกว่าตัวเองไม่มีความฝัน

ทุกคนมีความฝัน ผมมั่นใจเลย ทุกคนมี เด็กๆก็เคยฝัน ว่าโตขึ้นมา อยากจะเป็นอะไร จะเป็นตำรวจ ทหาร พยาบาล หมอ หรืออย่างไร แต่พอโตขึ้นไป เราเริ่มรู้ว่าความจริง สิ่งที่เราฝัน มันไม่ง่ายเลย พอเราโตขึ้น ชีวิตเริ่มมีเงื่อนไขอะไรมากขึ้น มีสิ่งที่ต้องทำ ทั้งๆที่เราไม่ได้ชอบ แต่เพราะต้องทำด้วยเหตุว่าคนอื่นบอก สังคมบอก เพื่อความอยู่รอด แต่อย่าลืมความฝัน ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นความจริง แต่ถ้าเราได้ลอง...

เราช่วยทุกคนไม่ได้หรอก ช่วยได้แค่บางครั้งและบางคน

เป็นเรื่องยากมากๆกับความรู้สึก ที่เราเห็นคนที่ลำบาก ในจิตใจเราก็อยากช่วย แต่ด้วยเงื่อนไขอันจำกัดของเรา ถึงแม้อยากช่วย ก็ช่วยทุกคนไม่ได้ ถึงเรามีจิตใจอันดีงาม แต่ทุนทรัพย์ของเราก็คงไม่พอถึงใจเรา และ คำว่า ถ้า ก็ไม่สามารถช่วยเหลือคนได้จริงๆ เว้นแต่ต้องเกิดการกระทำ การที่เราจะช่วยคน แม้เพียงนิดหน่อย ประทังให้เขาผ่านช่วงเวลาไปได้ช่วงหนึ่งนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี หรือว่าเราช่วย ให้เพียงตอบแทนความรู้สึกที่เราอยากช่วย โดยก็ไม่ได้คิดถึงผู้รับ การช่วย ให้เกิดประโยชน์ มันต้องคำนึงถึงผู้รับแบบองค์รวม และเบ็ดเสร็จ ไม่งั้นมันก็แค่...

ทำน้อยได้มาก

หลายคนอาจจะเคยได้ยินฝรั่งเขาว่า less is more มันเป็นปรัชญาของกระบวนการทำแบบหนึ่ง ไม่ใช่ ทำน้อยๆ แบบไม่คิดอะไร แล้วออกมาจะได้มาก มันต้องคิดมาดีมากแล้ว ให้มันตกผลึก ให้กระบวนการที่จะทำ ยันไปถึงเป้าหมาย ให้น้อยที่สุด แต่ชิ้นงานมันต้อง เปล่งพลังออกมาได้อย่างมหาศาล คนที่คิดน้อย ย่อมไม่เข้าใจ ภาษามันอาจจะจูงให้คนไม่ได้เข้าถึงแก่น ถ้าเอาไปใช้แต่เปลือกมันก็จะพัง ส่วนทำมากได้น้อย อันนี้ มันก็เหมือนลงแรงแบบไม่คิดอะไร มันก็ได้ไม่คุ้มเท่ากับลงแรง แต่หากคิดจนตกผลึก...

หากหมดไฟต้องทำอย่างไร

เป็นไหม อยู่ดีๆ ก็ไม่อยากทำอะไรขึ้นมา งานที่กองอยู่ต่อหน้า ก็ไม่อยากสนใจอะไรมันแล้ว เหมือนหมดแรง เมื่อเห็นสิ่งเดิมๆที่อยู่ต่อหน้า ถ้าไม่นับหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่ต้องฝืนมันต่อไปแล้วนั้น มันไม่อยาก็ไม่ต้องทำมัน มันต้องหาอะไรที่เราอยาก ต้องออกไปลองอะไรที่ไม่รู้จัก กินอะไรที่ไม่เคยกิน ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ให้ตัวเรารู้ว่า จริงๆแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกันมันจะเป็นอย่างไร บางที เราอาจจะกลับมาอยากสิ่งที่เราทำอยู่ หรือไม่ก็เจออะไรใหม่ๆไปเลย แต่ถ้า นั่งถอนหายใจทิ้งไปวันๆ ก็ปล่อยให้พอ เอาให้สุดขั้ว แล้ว...

สินค้าที่ทำให้ลูกค้าประหยัด ยิ่งทำให้เราได้เงิน

การที่เข้าไปเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคนในสังคมนั้น เป็นเรื่องที่ยาก ต่อให้เรามีสิ่งที่ดีกว่า หยิบยื่นให้เขาก็ตามที จริิงๆ อาจจะไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ที่เป็นปัญหา แต่เป็นวิธีการที่เราหยิบยื่นให้เขา เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ เลยทำให้เขาต้องป้องกันตัวโดยการปฎิเสธ ถ้าเราทำให้เขา เข้าใจสิ่งที่เราตั้งใจให้เกิดได้ แล้วสิ่งนั้นมันไปสะดุดต่อมของเขา ที่มันทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ประหยัดขึ้น มีเงินเหลือมากขึ้น นั่นแหละครับ สัดส่วนของความสำเร็จของเราก็จะมา ยิ่งทำให้คนอื่นได้ เราก็ได้ ถ้าเราขายของที่ทำให้คนอื่นได้ ส่วนต่างตรงนั้นแหละ เป็นเงินของเรา RIZideaforgetmoney

เริ่มต้นทำอะไร อย่าทำอะไรที่ยากเกินไป

การที่จะเริ่มต้นทำอะไร ถ้าเป้าหมายของเรามันไกล จนไม่มีความเป็นไปได้ มันจะเริ่มท้อ ท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไร พอถ้าความท้อมาครอบงำแล้ว อะไรๆก็ไม่อยากจะเริ่มทั้งนั้น จริงๆ ถ้าเราไม่เปลี่ยนเป้าหมายที่ไกล เราต้องซอยเป้าหมาย ให้เป็นช่วงๆ ที่เป็นไปได้ และค่อยๆชนะมันทีละนิด เมื่อเรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ความฮึกเหิมก็จะมาเอง เมื่อองค์ประกอบช่วยเราสนับสนุนเรา เราก็จะทำการใหญ่การยากได้ มันอยู่ที่เริ่มแรกทำ ถ้าใจ มันก็ได้เริ่ม แต่ถ้าใจไม่ยอมมา ก็ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า เพราะมันไม่เห็นว่า มีอนาคตหรือเปล่า RIZatstart

อย่าไปให้คุณค่ากับสิ่งที่ไม่ใช่

เวลาเป็นทรัพยากรที่จำกัดมากนะครับ มันมาถึงแล้วมันจะผ่านไปเลย คนที่บริหารเวลาได้ไม่ดี วันๆนึงมันจะหมดไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไร้ประโยชน์ หลายครั้งที่ผมให้ คนเราให้เวลากับสิ่งที่ไม่ได้ให้คุณค่า ถึงจะเรียกมันว่าความบันเทิง แต่มันก็เกินความพอดีไป บางครั้งเราทะเลาะกัน เพราะเรื่องคนอื่น หรือเขาเล่าว่า เล่ากันไป เล่ากันมา ยังหาต้นชนปลายไม่ได้ พอไม่ได้เราไม่ยอมรับว่ามันไม่ใช่ ก็ตะแบงตะแคงแถไป ต้องเสียเวลาแก้ไขแก้ขวยแก้ตัวไป อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่ อย่าไปให้คุณค่ากับมัน จะดีหรือไม่ดี มันไม่เกี่ยว ถ้ามันไม่ใช่ ปัดมันไปแล้วไปต่อเถอะ RIZnowaste

หากทำวันนี้ให้ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้

เป็นตรรกะง่ายๆ ถ้าเราติดกระดุมเสื้อถุกต้องแต่แรก จะติดเม็ดต่อๆไปจนเสร็จ มันก็ถูก ไม่ต้องกังวล ว่า ถ้าเราติดถูกแล้ว เราจะติดผิดอีกไหม หรือว่าต้องย้อนกลับ พวกนี้ มันเป็นความรู้สึก กังวล เพราะเราไม่ได้มองข้อเท็จจริงเป็นหลัก เราเลยกังวลกับความไม่รู้ และยิ่งไม่รู้ยิ่งทำให้คิดใหญ่กว่าจริงมากนัก จนกลับกลายสิ่งที่ถูก แล้วไปแก้มัน จากถูกเป็นผิด ยิ่งแย่ไปใหญ่ ผมอยากบอกว่าถ้ามันถูกแล้ว ไม่ต้องไปสงสัย นอนหลับให้สบายใจ แล้วไปต่อ เพราะถูกมันคือใช่ ใช่แล้ว...