ก่อนนอน เคยถามตัวเองหรือไม่ว่า วันนี้ทำอะไรหรือยัง

ทุกๆวันที่มีวันละ 24 ชม. ที่ทุกเช้า เราตื่น และกลางคืนเราหลับ หลายคนอาจจะต้องมีกิจวัตร กิจกรรมมากมาย อันนี้รวมถึง เดินทาง กินข้าว ทำงาน แน่นอน วันๆหนึ่งเราทำอะไรมากมาย งานอาจจะเยอะ ประชุมทั้งวัน หรือเสียเวลากับการเดินทาง บ่นโน่น ตำหนินี่ แต่ไม่ว่าจะทำอะไร ก่อนนอนเคยคิดไหมว่า วันนี้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับตัวเองหรือยัง อะไรที่ทำให้เราคิดว่าวันนี้ที่ผ่านมาแล้วและมันไม่ย้อนกลับมา มีค่า บางคนอาจจะตอบว่าวันนี้หาเงินได้เท่าไร...

วันที่แย่ๆ ให้ระวังความคิดตัวเอง

วันทุกวัน มันก็วันเหมือนกัน มันจะเป็นวันดีของใครบางคน และก็เป็นวันไม่ดีของใครบางคน วันที่ดี อะไรมันก็ดีไปหมด เรื่องอะไรมันก็ดีมีความสุข ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง เพราะมันง่าย มันสบาย และมันดีไปหมด แต่พอวันที่ไม่ดีเข้ามาเยี่ยมเยียน ผ่านมาหาบ้าง พอเรื่องร้ายเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายขึ้นมาทันที มันอาจจะเป็นเรื่องปกติของความรู้สึกต้องป้องกันตัว เลยคิดว่าคนอื่นจะมาทำร้ายเราตลอด แต่ที่มันทำร้ายคือความคิดตัวเราเองที่จะทำให้มันมากเกินไป มากจนบางครั้งเราไม่สามารถคุมความรู้สึกของเราให้มันอยู่ข้างในได้ และถ้ามันออกมา แสดงออกมากระทบคนอื่น มันก็จะทำให้เรื่องแย่อยู่แล้วแย่เพิ่มขึ้นไปได้อีก ผู้ที่ฝึกฝนตัวเอง ต้องควบคุมตัวเองได้ ผู้ที่ผ่านเรื่องร้ายมาแล้ว...

ความยากที่สุดของทำอะไรสักอย่างคือ ทำอย่างต่อเนื่อง

จะทำอะไรสักอย่าง เราก็อยากจะทำเร็วๆ เสร็จเร็วๆ ทำเป็นโปรเจคไป แต่การตั้งใจทำอะไร ที่จะทำมันไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตจะหาไม่นั้น เป็นสิ่งที่ยากลำบาก สัจจวาจาอธิฐาน เมื่อตั้งใจทำมันแล้วต้องทำมันตลอดชีวิตนั้น ผมขอยกย่อง คนที่ไม่กินหมูตลอดชีวิต มันใช่ว่าจะยาก แต่โอกาสพลาดมันก็มี คนที่กินมังสวิรัติ จะกินแต่ผักไปตลอด มันก็ไม่ง่าย แต่บางที อ้างหมูเจ ไก่เจ ปลอมไปหน่อยก็โอเคน่า แต่จริงๆที่ยากคือ เราต้องปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้ทันสมัย อยู่ในสังคมได้ แม้ว่าสังคมจะพัฒนาไปแค่ไหน...

สังคมมีปัญหา เพราะคนไม่รู้มาวิจารณ์

เดี๋ยวนี้ ในหน้า โซเชียล มีแต่พวก อวดรู้ มีใครพูดอะไร ก็มีคนมาแย่งมาแสดงความคิดเห็น แล้วคนไม่รู้พูดให้กับคนที่ไม่รู้ฟัง มันก็เฮกันไปใหญ่ ความจริงอยู่ตรงไหน ในเมื่อคนแต่ละคนไม่ได้ให้เกียรติกัน คนแสดงความคิดเห็นก็ไม่ให้เกียรติคนอ่านคนฟัง ไม่ได้ทำการบ้าน ไม่ได้ทำวิจัย ไม่ได้มีความรู้มาก่อน อาศัยเอาใจตัวเองเข้าว่า ใช้ความรู้สึกเข้าว่า เอาดัง เอาสนุก เอาเฮฮา เรื่องเสียเยอะมากเพราะเหตุนี้ อยากดัง มันก็มีหลายเรื่อง แต่จะดังเร็วที่สุดต้องเป็นเรื่องไม่ดี เพราะข่าวไม่ดี...

เมื่อหาเวลาว่างไม่ได้ ก็หาเวลาทบทวนและพัฒนาไม่ได้

ดูๆแล้ว คนเราจะยุ่งอะไรขนาดนั้น แต่ดูเหมือนยุ่งในเรื่องไม่จำเป็นสักเท่าไร เดี๋ยวนี้คนติดโซเชี่ยลตลอดเวลา ถ้ามันเป็นประโยชน์ มันก็คงทำให้เจริญขึ้น แต่ส่วนใหญ่ ติดเพื่อฆ่าเวลา ติดเพื่อสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น ติดเพื่อดูอีโก้ตัวเองว่า ที่โพสไปมีคนกดไลค์เท่าไร พอทำแบบนั้นเป็นวัฎจักร มันก็จะเลยพาลไม่มีเวลาไป ทำไปเรื่อยๆ จนไม่ทันฉุกคิดว่า ที่เสียเวลาไปนั้นไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์ ไม่ก่อเกิดรายได้ แถมบางที หาเรื่องเสียเงิน เพราะเห็นคนอื่นมี หรือเห็นของเซลจนเราเองทนไม่ได้ต้องมีด้วย ต้องซื้อด้วย มันเป็นเหมือนว่า คนเดี๋ยวนี้ที่ฉลาดขึ้น กลับโดนหลอกง่ายกว่าเดิม...

ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งของถูกเต็มตลาด

มันเป็นเรื่องปกติมาก เวลาช่วงดีๆ อะไรก็แพง แต่มีคนพร้อมจ่ายมันทุกราคา เพราะเงินมันหาง่าย ทำโน่นนี่ ได้เงินมาง่ายๆก็พร้อมจะหมุนไป แต่ตอนช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ขาใหญ่เค้าลดราคากัน เพราะรู้ว่าไม่ดี ต้องดึงสภาพคล่อง ต้องกอดเงินให้มากที่สุด ทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้ขาดทุน เอาเงินมาตุนไว้ เพราะไม่รู้ปัญหาจะยืดเยื้อเท่าไร แต่คนทั่วไป แม้ว่ารู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี พอเห็นของถูกเท่านั้นแหละ ซื้อเลย แค่ซื้อเท่าที่มีไม่ว่า แต่คำว่าถูกและคุ้มเนี่ย ทำให้เรายอมเป็นหนี้มัน ทั้งๆที่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรกับชีวิตเลย และที่เราซื้อๆไปนั้น...

ความรู้นอกหลักสูตร

ระบบการศึกษาของบ้านเรานั้น ดูเหมือนจะมีปัญหา คนจบออกมา ทำอะไรไม่เป็น มันเกิดอะไรขึ้นครับ ทั้งๆที่บางคนจบมา คะแนนก็สูง แต่ออกมากลับทำอะไรไม่ได้ มันเป็นความล้มเหลวของการศึกษา ของตำรา ของผู้สอน หรือของผู้เรียนเอง แต่ที่แน่ๆ มันไม่เวิร์คคคคคค ตอนนี้ ถ้าทำงานจริง มันคงต้องพึ่งประสพการณ์ เพราะมันบอกได้เลยว่าได้ทำผ่านมาแล้ว ความรู้จากการได้เรียนมันแตกต่างจากความรู้ที่ได้ทำ หากเป็นความรู้เฉพาะทางที่บอกได้ว่าทำอะไรได้จริงๆ มากกว่าระดับการศึกษาที่บอกว่าจบขั้นไหนมา คงจะมีประโยชน์กว่าเยอะ RIZdegree

การทำการตลาด อย่างแรกต้องไปเดินดูตลาด

มันเป็นหัวข้อเริ่มต้นง่ายๆของนักการตลาด ที่ต้องรู้จัก ลูกค้าของตัวเองให้ดีก่อน ให้รู้จักะเขา เสมือนเรานั่งติดตามเค้าเป็นเงา ให้รู้ว่าเขาชอบอะไร กินอะไร ทำอะไร และต้องรู้ว่า ไม่ชอบอะไร ไ่ม่กินอะไร ไม่ทำอะไรด้วย เราถึงจะเลือกใช้ อาวุธ หรือช่องทางการตลาดที่เหมาะสมกับลูกค้าเราได้ สำหรับนักการตลาด ที่ ลอกเลียนแบบความสำเร็จของคนอื่น โดยคิดว่ามันเป็นสูตรเด็ดสูตรลับนั้น และนำมาใช้  จงมั่นใจว่าไม่รอด คิดเอง เข้าใจเอง ทำเอง และลองผิดลองถูกเอง...

คุณค่ากับสิ่งที่เรามองข้าม

เวลามีค่า จนเรารีบๆทำอะไรที่เราตั้งใจให้ถึงจุดมุ่งหมาย เวลาเราขับรถเราก็มัวแต่มองไปข้างหน้า ไม่ได้มองรอบๆบ้าง เวลาเราเดินเราก็รีบก้าวไปข้างหน้า รีบไปให้ถึง รีบไปให้ทัน เราคิดว่าเราทำได้ ดูเหมือนจะทำได้ แค่ได้ มันไม่ได้มากกว่าได้   สิ่งรอบๆตัว ย่อมบอกเรื่องราวต่างๆ ความผิดปกติเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้เราฉุดคิดได้ว่า เราอาจจะลืมอะไรไปหรือเปล่า ความสุทรีย์ของการเดินทางนั้น มันไม่ใช่เป้าหมาย ที่จะรีบเร่งให้ถึงเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่มันรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อย ในทุกเม็ดทุกอณู ที่แรกหยิบจับมา ยังไม่รู้จะรู้ไปทำไม แต่มันจะเป็นประสพการณ์ที่เก็บไว้รอ...

การออม เพื่อออม มันจะได้แค่เงินออม

การออม เพื่อออม มันจะได้แค่เงินออม แต่การออม เพื่อลงทุน มันจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่การเข้าลงทุนมันมีจังหวะ แต่คนที่อดทนได้มากกว่า มันย่อมมีโอกาสชนะเงินออม ทัศนคติการออมเป็นสิ่งดี แต่การกังวลจนออมอย่างเดียว ย่อมไม่ทำให้เงินออมงอกเพิ่มขึ้นมาได้ ยิ่งช่วงเศรษฐกิจแบบที่ดอกเบี้ยไม่ถึง 1% แต่อัตราเงินเฟ้อไปมากกว่า 3% มูลค่าของมันจะหดไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเรามีเงินส่วนหนึ่งที่พอใช้จ่าย และสัดส่วนปลอดภัยแล้ว ก็ต้องพิจารณาลงทุนบ้าง ซึ่งการลงทุนก็มีความเสี่ยง ผลตอบแทนแตกต่างกันไป ก็ต้องเลือกให้ดี RIZinvest